เทรเบิลแชมป์บอลถ้วย! ย้อนตำนาน 'ลิเวอร์พูล' ฤดูกาล 2000/01

แนวรุกชาวฟินแลนด์ย้ายจากบาร์เซโลนา มาร่วมทัพลิเวอร์พูล แบบไร้ค่าตัว ในตลาดหน้าหนาวปี 2001

เขาลงสนามในฤดูกาลนั้นไปเพียง 11 นัด ทำได้ 2 ประตู 3 แอสซิสต์

ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บ ทำให้เจ้าตัวฝากผลงานรวมในถิ่นแอนฟิลด์ไปเพียง 43 นัด ทำได้ 9 ประตู 5 แอสซิสต์ ก่อนจะย้ายกลับไปค้าแข้งกับอาแย็กซ์ ในปี 2002   

แนวรับเฟร้นช์แมน ถูกหงส์แดงดึงตัวมาจากลาวัล ทีมเล็ก ๆ ในฝรั่งเศส มาร่วมทีมในปี 1999

ในฤดูกาล 2000/01 เขาได้ลงสนามไปเพียง 12 นัด ก่อนถูกปล่อยให้ล็องส์ยืมตัวในฤดูกาลถัดมา

เขากลับมาเป็นกำลังหลักของเรด แมชชีน ในฤดูกาล 2002/03 ก่อนจะย้ายไปร่วมทัพชาร์ลตันในปี 2006 ปัจจุบันเจ้าตัวรับงานเป็นโค้ชเทคนิคให้กับซีแอตเทิล ซาวน์เดอร์

แบ็คซ้ายดาวรุ่งชาวฝรั่งเศส คือนักเตะใหม่อีกคนหนึ่งที่เพิ่งย้ายเข้ามายังถิ่นแอนฟิลด์ในซัมเมอร์ปี 2000

ทว่าในฤดูกาลแรกกับสโมสร เขาแทบไม่ได้รับโอกาสเลย โดยลงสนามไปเพียง 7 นัด เท่านั้น

หลังจากนั้น เจ้าตัวก็ถูกลิเวอร์พูลปล่อยยืมตัวเสียเป็นส่วนใหญ่ ก่อนจะย้ายไปร่วมทัพพอร์ทสมัธ แบบไร้ค่าตัวในปี 2005

ดาวเตะสารพัดประโยชน์ชาวโครแอต ย้ายจากดินาโม ซาเกร็บ มาร่วมทีมลิเวอร์พูล ในตลาดหน้าหนาวฤดูกาล 2000/01

และบทบาทส่วนใหญ่ของเขาในครึ่งฤดูกาลหลังคือการเป็นตัวสำรองที่ได้ลงสนามไปเพียง 21 นัด ทำได้ 1 ประตู 1 แอสซิสต์

เจ้าตัวอยู่กับทีมถึงปี 2005 ก่อนไปเล่นให้กับพานาธิไนกอส และกลับไปแขวนสตั๊ดกับดินาโม ซาเกร็บ ปัจจุบันเขากุนซือทีมชาติโครเอเชีย ชุด U21

ปราการหลังดาวรุ่งรายนี้ เติบโตมาจากอคาเดมีของสโมสร และได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในเกมกับมิดเดิลสโบรห์ เมื่อปี 1997

เขาคือแนวรับตัวหลักที่ลงสนามไปถึง 58 นัด ในฤดูกาล 2000/01 หลังจากนั้นก็ยึดตำแหน่งตัวจริงนานนับทศวรรษ จนแขวนสตั๊ดในถิ่นแอนฟิลด์แห่งนี้ ในปี 2013

เจ้าตัวถือเป็น “วัน แมน คลับ”ของหงส์แดง ที่ทำสถิติเป็นนักเตะที่ลงสนามมากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสโมสร ที่จำนวน 737 นัด

มิดฟิลด์ชาวสก็อต คือนักเตะป้ายแดงอีกคนหนึ่ง ที่ย้ายมายังถิ่นแอนฟิลด์ด้วยกฎบอสแมน

ในฤดูกาล 2000/01 แม้จะอยู่ในช่วงปลายอาชีพค้าแข้ง แต่เขาก็ได้ลงเล่นไปถึง 49 นัด ทำได้ 7 ประตู 10 แอสซิสต์

เจ้าตัวอยู่กับหงส์แดงอีก 1 ฤดูกาล ก่อนย้ายไปแขวนสตั๊ดกับโคเวนทรี และปัจจุบันเขาคือมือขวาของเจอร์ราร์ด ที่แรนเจอร์ส

ปีกชาวอังกฤษ เป็นนักเตะใหม่ ที่ย้ายข้ามฟากจากเอฟเออร์ตัน มาร่วมทัพลิเวอร์พูล ในซัมเมอร์ 2000

ในฤดูกาล 2000/01 เขาได้ลงสนามไป 46 นัด ทำได้ 8 ประตู 7 แอสซิสต์

เจ้าตัวอยู่กับทีมเพียง 2 ฤดูกาล ก่อนจะย้ายไปเล่นให้ลีดส์, น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ และฮัลล์ เป็นสโมสรสุดท้าย

มิดฟิลด์ดาวโรจน์ ผู้นี้เติบโตมาจากอคาเดมีของสโมสร และได้โอกาสลงเล่นกับทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในเกมกับแบล็กเบิร์น เมื่อปี 1998

เขาลงสนามในฤดูกาล 2000/01 ไป 50 นัด ทำได้ 10 ประตู 7 แอสซิสต์ หลังจากนั้นเขาได้สวมปลอกแขนกัปตันทีม และกลายเป็นหนึ่งในตำนานอันเป็นที่รักของเหล่าเดอะ ค็อป ด้วยผลงานการลงสนามไปถึง 710 นัด ซัด 186 ประตู 131 แอสซิสต์

เจ้าตัวย้ายไปร่วมทัพแอลเอ กาแล็กซี ช่วงปลายอาชีพค้าแข้ง และปัจจุบันรับงานเป็นนายใหญ่ของแรนเจอร์ส ในลีกสก็อตแลนด์

กองกลางชาวเยอรมัน ย้ายจากนิวคาสเซิล มาร่วมทัพเรด แมชชีน ในปี 1999 และกลายเป็นกำลังหลักทันที

ในฤดูกาล 2000/01 เขายังคงได้รับโอกาสสม่ำเสมอ ด้วยการลงสนาม 53 นัด ทำได้ 3 ประตู 4 แอสซิสต์

เจ้าตัวฝากผลงานรวมไว้ที่ 11 ประตู 21 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 283 นัด ก่อนย้ายไปเล่นให้โบลตัน, แมนฯ ซิตี้ และรีไทร์กับเอ็มเค ดอนส์

แนวรุกชาวเช็ก ย้ายจากดอร์ทมุนด์ มาเล่นให้หงส์แดง ในปี 1996

บทบาทส่วนใหญ่ของเขาในฤดูกาล 2000/01 คือการเป็นตัวสำรอง ที่ได้ลงเล่นไป 21 นัด ทำได้ 2 ประตู 6 แอสซิสต์

เขาอยู่ในถิ่นแอนฟิลด์อีก 2 ฤดูกาล ก่อนย้ายไปร่วมทัพพอร์ทสมัธ ที่เพิ่งเลื่อนชั้นขึ้นมาพรีเมียร์ลีกแบบไม่มีค่าตัว

แบ็กขวาจอมบุกชาวนอร์เวย์ ย้ายจากโรเซนบอร์ก มาค้าแข้งในเกาะอังกฤษกับลิเวอร์พูล ในปี 1998

ในฤดูกาล 2000/01 เขามีอาการบาดเจ็บเรื้อรังมาตั้งแต่ฤดูกาลก่อน ทำให้ได้สัมผัสสนามไปเพียง 4 นัด

เจ้าตัวหมดสัญญากับหงส์แดง ในปี 2003 และประกาศแขวนสตั๊ดหลังจากนั้นไม่นานนัก ด้วยวัยเพียง 28 ปี  

มิดฟิลด์ชาวอังกฤษ ย้ายจากครูว์ อเล็กซานดร้า มาร่วมทีมลิเวอร์พูล ในปี 1997

เขาได้ลงสนามไป 47 นัด ซัด 10 ประตู 8 แอสซิสต์ ในฤดูกาล 2000/01

เจ้าตัวอยู่กับหงส์แดงจนถึงปี 2004 ก่อนย้ายไปค้าแข้งกับชาร์ลตัน, สเปอร์ส, ฟูแลม และแบล็กเบิร์น เป็นสโมสรสุดท้าย

กองหลังชาวฟินแลนด์ ย้ายมาร่วมทัพหงส์แดงในปี 1999 และยึดตำแหน่งตัวจริงได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรก

ในฤดูกาล 2000/01 เขาก็ยังคงเป็นกำลังสำคัญที่ลงสนามไป 58 นัด ทำได้ 4 ประตู 3 แอสซิสต์

เจ้าตัวฝากผลงานตลาด 10 ฤดูกาลกับสโมสรไว้ที่ 464 นัด ทำได้ 35 ประตู 8 แอสซิสต์ ก่อนจะย้ายไปปิดฉากอาชีพค้าแข้งกับไบเออร์ เลเวอร์คูเซน

กองกลางชาวอังกฤษ ย้ายจากบอร์นมัธ มาเล่นในถิ่นแอนฟิลด์ เมื่อปี 1991 และกลายเป็นกำลังสำคัญ พร้อมรับบทบาทกัปตันทีมด้วย

แต่โชคร้ายที่เขาไม่ได้ลงเล่นในฤดูกาล 2000/01 แม้แต่นัดเดียว เนื่องจากได้รับบาดเจ็บหนักบริเวณเข่า

ในฤดูกาลถัดมา อาการบาดเจ็บก็เล่นงานเขาอีกครั้ง ทำให้แทบไม่มีโอกาสสัมผัสสนามเลย ก่อนที่จะย้ายไปร่วมทัพสเปอร์สในปี 2002 แบบไร้ค่าตัว

กองหน้าอนาคตไกล เจ้าของฉายา “เบบี้ โกล” ก็เป็นนักเตะอีกคนหนึ่งที่เติบโตมาจากอคาเดมีของลิเวอร์พูล

เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงในฤดูกาล 2000/01 ด้วยการยิงไปถึง 24 ประตู 8 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 46 นัด

เจ้าตัวถูกเรอัล มาดริด คว้าตัวไปร่วมทีมยุคกาลาคติกอสในปี 2004 หลังจากนั้นก็กลับมาเล่นในเกาะอังกฤษกับนิวคาสเซิล, แมนฯ ยูฯ และแขวนสตั๊ดกับสโต๊ค

กองหน้าชาวอังกฤษ ผู้ถูกเดอะ ค็อป เรียกว่า “เดอะ ก็อด” เติบโตมากับอคาเดมีของสโมสร และกลายเป็นจอมถล่มประตูของลิเวอร์พูลนับตั้งแต่ขึ้นชุดใหญ่ในปี 1993

ในฤดูกาล 2000/01 แม้ว่าจะถูกลดบทบาทลง เนื่องจากการก้าวขึ้นมาบรรดาหัวหอกดาวรุ่งในทีม แต่เจ้าตัวก็ยังไม่ทิ้งลายเพชรฆาตด้วยการทำไป 17 ประตู 10 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 48 นัด

เขาย้ายไปร่วมทัพลีดส์ ในตลาดหน้าหนาวฤดูกาลถัดมา ก่อนกลับมาค้าแข้งกับหงส์แดงอีกครั้งช่วงสั้น ๆ ในฤดูกาล 2006/07 ปัจจุบันเขาคือกุนซือของบริสเบน โรอาร์ ทีมในเอลีก ออสเตรเลีย

หัวหอกดาวรุ่งรายนี้โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับเลสเตอร์ จนลิเวอร์พูลต้องทุ่มเงินเป็นสถิติสโมสรที่ 11 ล้านปอนด์ เพื่อมาล่าตาข่ายในแอนฟิลด์ เมื่อซัมเมอร์ปี 2000

ในฤดูกาล 2000/01 เขาลงสนามไป 56 นัด ซัด 22 ประตู 7 แอสซิสต์ และฝากผลงานรวมไว้ที่ 60 ประตู 24 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 223 นัด

เจ้าตัวโบกมือลาสโมสรในปี 2004 และพเนจรไปเล่นกับเบอร์มิงแฮม, วีแกน, แอสตัน วิลลา, นิวคาสเซิล เจ็ทส์ และโบลตัน เป็นสโมสรสุดท้าย

มิดฟิลด์ชาวเช็ก ย้ายจากล็องส์ มาร่วมทีมลิเวอร์พูล ในปี 1999 เพื่อเป็นตัวแทนของสตีฟ แม็คมานามาน ที่ย้ายไปเล่นให้เรอัล มาดริด ในปีนั้น

เขายิงไป 7 ประตู 11 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 49 นัด ในฤดูกาล 2000/01

เจ้าตัวฝากผลงานรวมไว้ที่ 19 ประตู 25 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 184 นัด ก่อนจะกลับไปค้าแข้งในฝรั่งเศสอีกครั้งกับ บอร์กโดซ์ และปิดฉากอาชีพค้าแข้งกับสลาเวีย ปราก

นักเตะชาวเยอรมันผู้เล่นได้ทั้งกองหลังตัวกลางและแบ็คขวา คือนักเตะใหม่อีกคนหนึ่งที่เพิ่งย้ายมาเล่นให้ลิเวอร์พูล ในซัมเมอร์ 2000 จากบาเยิร์น มิวนิค แบบไร้ค่าตัว

ในฤดูกาล 2000/01 เขาสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นหนึ่งในแบ็คขวาชั้นนำของยุโรป ด้วยฟอร์มอันร้อนแรง ที่ซัดไป  6 ประตู 8 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 60 นัด

แต่โชคร้ายที่อาการรกิลแลง-บาร์เร ซินโดรม พรากความยอดเยี่ยมของเขาไป และหลังจากหายป่วยกลับมาก็ไม่สามารถโชว์ฟอร์มได้ดั่งเดิม ก่อนจะย้ายไปเล่นให้แบล็คเบิร์น และรีไทร์กับสตุ๊ตการ์ด

นักเตะผู้เล่นได้ทุกตำแหน่งทางกราบซ้ายรายนี้ คือนักเตะป้ายแดงที่เพิ่งย้ายจากมิดเดิลสโบรห์มาค้าแข้งกับลิเวอร์พูล ในซัมเมอร์ 2000

เขาได้ลงเล่นในฤดูกาล 2000/01 ไป 32 นัด ทำได้ 2 ประตู 6 แอสซิสต์ แต่เขาก็อยู่ในถิ่นแอนฟิลด์ได้เพียงฤดูกาลเดียว ก็ถูกปล่อยให้สเปอร์สไปใช้งานต่อ หลังจากโชว์ฟอร์มได้น่าผิดหวัง นอกจากนี้หงส์แดงยังถูกเอฟเอปรับในเดือนมีนาคม 2002 ข้อหาเซ็นสัญญากับนักเตะรายนี้แบบผิดกฎมาจากโบโรด้วย

หลังแขวนสตั๊ด เจ้าตัวก็เดินหน้ารับงานโค้ช ซึ่งเคยมาเป็นนายใหญ่ของราชบุรี มิตรผล อยู่ช่วงหนึ่ง ก่อนที่ปัจจุบันจะเป็นกุนซือให้กับพินซ์เกา ซาฟเฟลเดน ในลีกออสเตรีย

กองหลังชาวสวิส ย้ายมาร่วมทัพหงส์แดงในปี 1999 หลังจากต้นสังกัดอย่างแบล็กเบิร์นตกชั้นไปเล่นในแชมเปี้ยนชิพ

 ในฤดูกาล 2000/01 เขาคือกำลังหลักในแนวรับที่ลงสนามไป 53 นัด และตลอด 5 ฤดูกาลครึ่งกับสโมสร เจ้าตัวลงสนามไป 205 นัด

หลังจากนั้นเขาก็ย้ายไปเล่นให้เซลติก, วีแกน และกลับมาแขวนสตั๊ดกับกุหลาบไฟ ในปี 2008

ผู้รักษาประตูชาวดัตช์ ถูก เชราร์ อุลลิเยร์ ดึงตัวเข้ามาเป็นมือหนึ่งแทนเดวิด เจมส์ ในปี 1999

ในฤดูกาล 2000/01 เขายังคงยึดตำแหน่งได้อย่างเหนียวแน่น ด้วยการลงสนามไป 61 นัด เก็บได้ 27 คลีนชีท

ทว่าฤดูกาลถัดมา เขาเริ่มก่อความผิดพลาดบ่อยครั้ง โดยเฉพาะเกมแพ้โบลตัน 2-1 ประกอบกับการเข้ามาของเจอร์ซีย์ ดูเด็ค และคริส เคิร์กแลนด์ ทำให้เจ้าตัวถูกขายให้เรอัล โซเซียดาดในตลาดหน้าหนาว