เจ้าของแชมป์โลก : 6 เหตุผล เมสซี ควรคว้าบัลลงดอร์ 2023 เหนือฮาลันด์

เมสซี ทำไป 7 ประตูในฟุตบอลโลก 2022 น้อยกว่า คิลิยัน เอ็มบัปเป้ 1 ประตู แต่เขาทำแอสซิสต์อีก 3 ครั้ง, สร้างจังหวะสำคัญ 21 ครั้ง รวมถึงเป็นนักเตะที่ยิงเข้ากรอบมากที่สุดที่ 13 ครั้ง

นอกจากนี้ ดาวเตะชาวอาร์เจนตินายังเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ที่ทำประตูทั้งในรอบแบ่งกลุ่ม, รอบ 16 ทีมสุดท้าย, รอบ 8 ทีมสุดท้าย, รอบรองชนะเลิศ และ รอบชิงชนะเลิศ ได้ในทัวร์นาเม้นท์เดียวอีกด้วย

ถ้ารางวัลนี้จัดขึ้นช่วงหลังจบฟุตบอลโลกที่กาตาร์ เขาจะเป็นเจ้าของรางวัลแบบไร้คู่แข่ง

"เขาเป็นผู้เล่นที่ยิ่งใหญ่ เป็นเกียรติอย่างมากที่ได้เป็นโค้ชของเขา ทุกสิ่งที่เขาส่งไปยังเพื่อนร่วมทีมนั้นไม่มีใครเทียบได้" นี่คือสิ่งที่ ลิโอเนล สคาโลนี เฮดโค้ชทีมชาติอาร์เจนตินาพูดถึง เมสซี หลังจบศึกฟุตบอลโลก 2022

ทัพฟ้าขาวออกสตาร์ทฟุตบอลโลกแบบสุดเซอร์ไพรส์ด้วยการแพ้ต่อ ซาอุดิอาระเบีย ทำให้ส่งผลต่อจิตใจของทุกคนในทีมทันที ซึ่งสคาโลนีเผยว่า เมสซี คือคนที่ทำให้ทุกคนในทีมกลับมามีสมาธิอีกครั้ง

อดีตแนวรุกเปแอสเชไม่ใช้เพียงแค่ผู้เล่นคนสำคัญเท่านั้น เขายังเป็นศูนย์รวมจิตใจของทีมและเรียกร้องให้เพื่อนร่วมทีมทำตามมาตรฐานที่สูงของเขาไปพร้อมๆกัน ซึ่งเป็นสิ่งที่นักเตะคนอื่นทำไม่ได้

อาร์เจนตินา เจอคู่แข่งที่แข็งแกร่งเกือบตลอดทั้งทัวร์เม้นท์ฟุตบอลโลก 2022 ไม่ว่าจะเป็น เนเธอร์แลนด์, โครเอเชีย หรือ ฝรั่งเศส แต่ในเกมที่สูสีนั้นการจ่ายบอลหรือการจังหวะการเล่นเดียวของ เมสซี สามารถส่งผลต่อผลการแข่งขันได้เลย

ลูกา โมดริช กัปตันทีมชาติโครเอเชียกล่าวหลังความพ่ายแพ้ว่า "ผมหวังว่า เมสซี จะได้แชมป์ฟุตบอลโลกครั้งนี้ เขาเป็นผู้เล่นที่ดีสุดในประวัติศาสตร์และสมควรได้รับมัน"

หลังจบเกมนัดชิงชนะเลิศกับฝรั่งเศส นักเตะและสต๊าฟฟ์โค้ชทีมชาติอาร์เจนตินาพากันมาโอบกอด เมสซี พร้อมทั้งน้ำตา เพราะรู้ว่าพวกเขาอาจมาไม่ถึงจุดนี้แน่นอนหากไม่มีชายคนนี้อยู่ในทีม

แม้จะไม่ประสบความสำเร็จในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก แต่ ผลงานส่วนตัวของ เมสซี กับ เปแอสเช ถือว่ายอดเยี่ยมทีเดียวหลังตัดสินใจย้ายมาจาก บาร์เซโลนา

ดาวเตะอาร์เจนไตน์ คว้าแชมป์ลีกเอิงได้สำเร็จ พร้อมทำผลงาน 21 ประตูกับ 20 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 41 นัดรวมทุกรายการ มีเพียง โมฮาเหม็ด ซาลาห์, คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เออร์ลิง ฮาลันด์ เท่านั้นที่มีส่วนร่วมกับประตูมากกว่าเขาในยุโรป

ปีนี้มีเพียงคนเดียวที่สามารถแย่งรางวัลนี้กับ เมสซี ได้ นั่นคือ เออร์ลิง ฮาลันด์ กองหน้าที่ทำให้พรีเมียร์ลีกกลายเป็นงานง่ายสำหรับเขา

แต่สื่อต่างประเทศมองว่าทีมของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา อยู่ในจุดสุดยอดของอังกฤษอยู่แล้ว และหัวหอกชาวนอร์เวย์เพียงเข้ามาเติมเต็มให้ทีมสมบูรณ์ขึ้นเท่านั้น เห็นได้จากบางครั้งที่เขาแทบไม่มีส่วนร่วมกับเกมรุกของ แมนฯซิตี้ ก่อนจะโผล่มายิงประตู ต่างจาก เมสซี ที่เขามาสร้างความแตกต่างและมีส่วนกับเกมของ เปแอสเช ตลอด

ฮาลันด์ มีค่าเฉลี่ยสัมผัสบอลเพียง 24.8 ครั้ง และผ่านบอลเพียง 11.7 ครั้งต่อเกมเท่านั้น ขณะที่ เมสซี เป็นเพลย์เมคเกอร์ที่มีส่วนกับเกมตลอดและสามารถตัดสินเกมได้ด้วยตัวเองจากการจ่ายบอลในชั่วพริบตา

หลายครั้งที่ผ่านมาเราเห็นแล้วว่านักเตะจากทีมที่ได้แชมป์โลกมักจะเพิ่มโอกาสในการคว้ารางวัลบัลลงดอร์ในปีนั้นๆ อย่างเช่น ซีเนดีน ซีดาน จอมทัพชาวฝรั่งเศส, โรนัลโด้ ตำนานกองหน้าทีมชาติบราซิล หรือ ฟาบิโอ คันนาวาโร อดีตกัปตันทีมชาติอิตาลี

ลูกา โมดริช เคยคว้าบัลลงดอร์ในปี 2018 หลังช่วยโครเอเชียคว้าอันดับสามในฟุตบอลโลกปีดังกล่าว ซึ่งเขาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นแม้ทีมจะไปไม่ถึงแชมป์

เมสซี คว้ารางวัลบัลลงดอร์มาแล้ว 7 สมัย โดยที่ไม่เคยได้แชมป์ฟุตบอลโลก ซึ่งปีนี้เขาคว้าแชมป์โลกได้สำเร็จ ดังนั้นบัลลงดอร์สมัยที่ 8 ก็เป็นไปได้สูง