มอนต์โกเมอรี อดีตที่ปรึกษาด้านการสรรหานักเตะของนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เคยอยากได้ตัว เบน อาร์กฟา มาอยู่กับตั้งแต่ปี 2005 โดยที่ถูกลียงตั้งค่าตัวไว้ที่ 500,000 ปอนด์ ซึ่งถือเป็นราคาที่แพงทีเดียวสำหรับนักเตะที่ยังไม่ได้รับสัญญาเป็นนักเตะอาชีพของลียงเลยด้วยซ้ำ ทว่าสุดท้ายผู้บริหารของนิวคาสเซิลซึ่งไม่เคยได้ยินนักเตะรายนี้มาก่อนเลย ก็ตัดสินใจไม่เซ็นสัญญาด้วย
กระทั่ง 5 ปีต่อมา นิวคาสเซิลก็สมหวังได้ตัว เบน อาร์กฟา มาร่วมทีมจนได้ ด้วยการไปยืมตัวมาจากมาร์กเซย โดยมีพ่วงเงื่อนไขซื้อขาดถาวร
เขาแสดงให้เห็นถึงพรสวรรค์สูงทันที ตั้งแต่การลงเล่นตัวจริงเกมแรกให้นิวคาสเซิล ด้วยลูกยิงไกลสุดสวยที่ช่วยพาทีมบุกชนะเอฟเวอร์ตันได้ถึงกูดิสัน พาร์ค 1-0
ทว่าในช่วงเดือนตุลาคม เขากลับต้องโชคร้ายบาดเจ็บหนัก ในเกมพบกับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จากการโดน ไนเจล เดอ ยอง พุ่งเสียบหนักจนทำให้ถึงกับขาหักเลยทีเดียว จนต้องปิดเทอมยาวตลอดทั้งฤดูกาล 2010/11
กระทั่งฤดูกาลต่อมา 2011/12 เขาก็กลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้ง พร้อมโชว์ผลงานทำไป 6 ประตู 6 แอสซิสต์ ช่วยให้นิวคาสเซิลทะยานขึ้นไปจบอันดับ 5 พร้อมคว้าโควตาไปเล่นในถ้วยยุโรปอย่างยูโรป้า ลีก
“มันเป็นเรื่องตลกที่เขาเก่ง เราได้ยินทุกคนชื่นชมเขาและคุณก็เห็นได้ทันที พรสวรรค์และไหวพริบเขาของนั้นเป็นธรรมชาติมาก” เจมส์ เพิร์ช อดีตกองกลางของสาลิกาดง กล่าว
ประตูแห่งความทรงจำของเขาในฤดูกาลนั้น เกิดขึ้นในเกมพบกับโบลตัน วันเดอเรอร์ส เมื่อทาง เบน อาร์กฟา จัดการกระชากบอลตั้งแต่ครึ่งสนามแหวกแนวรับคู่แข่งเข้าไปยิงอย่างสวยงาม ซึ่งยังคงถูกยกให้เป็นหนึ่งในประตูยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกจนถึงทุกวันนี้
ทว่าหลังจากนั้น ผลงานของเขาก็เริ่มตกลงไป รวมถึงยังมีปัญหาเรื่องวินัยอยู่เรื่อย ๆ จนถึงขนาดเคยมีเหตุการณ์ที่ ฟาบริซิโอ โคลอชชินี กัปตันทีมนิวคาสเซิล ถึงขั้นไปบอกกับกุนซืออย่าง อลัน พาร์ดิว ด้วยการขู่ว่านักเตะทั้งทีมจะไม่ยอมลงเล่น หากมีการใส่ชื่อ เบน อาร์กฟา ลงตัวจริงเลยทีเดียว
สุดท้ายช่วงซัมเมอร์ในปี 2014 เขาถูกปล่อยให้ ฮัลล์ ซิตี้ ยืมตัวไปใช้งาน 6 เดือน หลังจากหมดสัญญายืมตัวกับฮัลล์ เขาถูกนิวคาสเซิลยกเลิกสัญญาก่อนกำหนด ทั้งที่ยังเหลือสัญญาจนถึงช่วงซัมเมอร์ในปี 2015