ส่องฟอร์ม 5 กองหลังค่าตัวแพงที่สุดของแมนฯ ยูฯ

ในปี 2017 ลินเดอเลิฟ ย้ายจากเบนฟิก้า มาอยู่แมนฯ ยูไนเต็ด ในยุคของ โชเซ มูรินโญ ซึ่งช่วงปีแรกๆ ถือว่าเขายังไม่มีบทบาทร่วมกับทีมมากนัก กระทั่งสามารถก้าวมาเป็นตัวหลักได้ เมื่อมีการเปลี่ยนกุนซือมาเป็น โอเล กุนนาร์ โซลชา

ขณะที่ในฤดูกาลนี้ ซึ่งแม้ทีมจะได้กองหลังตัวใหม่อย่าง ราฟาแอล วาราน เข้ามา รวมถึงมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือมาเป็น ราล์ฟ รังนิค แต่หากว่าเขาฟิตสมบูรณ์ ก็ยังคงถือเป็นตัวเลือกอันดับต้น ๆ ที่ทีมจะเลือกใช้งานให้ลงสนาม

เอริค ไบญี ย้ายมาจากบียาร์เรอัล เมื่อปี 2016 ด้วยค่าตัว 38 ล้านยูโร เพื่อหวังมาแก้ไขจุดอ่อนในเกมรับที่เป็นปัญหามาตั้งแต่ยุคของกุนซือคนก่อนหน้าอย่าง หลุยส์ ฟาน กัล โดยเขายังถือเป็นการเสริมทัพรายแรกในยุคของ โชเซ มูรินโญ อีกด้วย

ในช่วงสองฤดูกาลแรก ไบญี ถือว่าทำผลงานได้ดี แต่การมีปัญหาอาการบาดเจ็บติดต่อกันบ่อยครั้ง ทำให้ฟอร์มของเขาเริ่มจะเอาแน่เอานอนไม่ได้ จนตอนนี้กลายเป็นเพียงตัวเลือกลำดับที่ 4 รองจาก แฮร์รี แม็คไกวร์, วิคตอร์ ลินเดอเลิฟ และ ราฟาแอล วาราน

หลังอยู่กับมาเข้าสู่ปีที่ 7 กองหลังชาวไอวอรีโคสต์ลงเล่นให้ปีศาจแดงไปแล้ว 113 นัด ซึ่งถือว่าน้อยกว่าที่ควรจะเป็นไปมาก และกลายเป็นเพียงตัวสำรองแบบเต็มตัวในฤดูกาลนี้

ยูไนเต็ดตัดสินใจทุ่มเงิน 46 ล้านยูโร เพื่อเซ็นสัญญากับ ริโอ เฟอร์ดินานด์ กองหลังกัปตันทีมลีดส์ ยูไนเต็ด มาเสริมทัพเมื่อปี 2002 ทำให้กลายเป็นกองหลังที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์ในขณะนั้นด้วย

การทุ่มเงินครั้งนี้ถือว่าเกินคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม เพราะ เฟอร์ดินานด์ กลายมาเป็นกองหลังระดับตำนานของสโมสร ที่ประสบความสำเร็จท่วมท้นตลอดการลงเล่นไปทั้งหมด 455 เกม ด้วยการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ, ลีก คัพ, ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงสโมสรโลก

นับตั้งแต่ เฟอร์ดินานด์ อำลาทีมไปเมื่อปี 2014 จนมาถึงปัจจุบันนี้ ปีศาจแดงก็ยังไม่สามารถหาตัวแทนกองหลังที่ทำผลงานได้ใกล้เคียงระดับที่อดีตแข้งรายนี้เคยทำได้เลย แม้ว่าจะต้องจ่ายเงินไปแล้วมากมายก็ตาม

ปีศาจแดงตัดสินใจจ่ายเงิน 50 ล้านยูโร เมื่อคว้าตัว ราฟาแอล วาราน มาจากเรอัล มาดริด เมื่อช่วงซัมเมอร์ในปี 2021 ที่ผ่านมา เพื่อแก้ไขปัญหาเกมรับที่เรื้อรังมานาน ซึ่งด้วยดีกรีของเขาที่เคยประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย ก็สามารถเข้ามาเป็นตัวหลักของทีมได้ในทันที

อย่างไรก็ตาม วาราน ก็ยังถือว่าเจอปัญหาในการต้องปรับตัวให้กับสไตล์การเล่นของฟุตบอลอังกฤษ รวมถึงยังมีปัญหาบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้างประปราย ทำให้ถือว่าเขายังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาในเกมรับของยูไนเต็ดได้เท่าที่ควร

ดีลฮือฮาในช่วงซัมเมอร์เมื่อปี 2019 คือการที่ปีศาจแดงตัดสินใจทุ่มเงินถึง 87 ล้านยูโร เพื่อกระชากตัว แฮร์รี แม็คไกวร์ มาจากเลสเตอร์ ซิตี้ พร้อมขึ้นแท่นเป็นกองหลังค่าตัวแพงที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในช่วงแรก ๆ ถือว่า แม็คไกวร์ ทำผลงานได้ดีตามมาตรฐาน จนถูกตั้งแต่ให้เป็นกัปตันทีมแม้ว่าจะเพิ่งมาร่วมทีมไม่นาน

ทว่าการต้องแบกรับความกดดันทั้งการเป็นกองหลังแพงสุดในโลกและการเป็นกัปตันทีม กลับมีผลทำให้ แม็คไกวร์ ทำผลงานได้น่าผิดหวัง โดยเฉพาะในช่วงหลังที่ก่อความผิดพลาดบ่อยครั้ง จนมีส่วนทำให้ทีมต้องเสียประตูแบบไม่จำเป็น

หากบอกตามความเป็นจริง ณ เวลานี้ ก็ต้องถือว่า แม็คไกวร์ ถือเป็นดีลที่น่าผิดหวังในถิ่นโอลด์ แทร็ฟฟอร์ดอย่างแท้จริง