GOAL Mark Doyle
สามแนวรุกอังกฤษ : ทีมยอดเยี่ยมประจำรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
GettyGK: ยานน์ ซอมเมอร์ (อินเตอร์)
หลังขาย อังเดร โอนานา ให้ แมนฯยูไนเต็ด ด้วยค่าตัว 44 ล้านปอนด์ อินเตอร์ มิงาน ได้ดึงตัว ซอมเมอร์ มาร่วมทีมแบบไร้ค่าตัว และกลายเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนบอลอย่างรวดเร็ว
แม้จะมีนายด่านหลายรายโชว์ฟอร์มได้ดีทั้ง อเล็กซ์ เรมิโร และ นิค โป๊ป แต่จอมหนึบชาวสวิตเซอร์แลนด์ ทำผลงานได้โดดเด่นที่สุด เก็บได้ 3 คลีนชีตจาก 5 เกม และมีเปอร์เซ็นต์เซฟถึง 90 เปอร์เซ็นต์
Getty RB: ซาชา โบเอย์ (กาลาตาซาราย)
แม้ กาลาตาซาราย จะไม่ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์ แต่ โบเอย์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าทำไม บาการี ซานญา อดีตดาวเตะทีมชาติฝรั่งเศสถึงบอกว่ารุ่นน้องชาวฝรั่งเศสรายนี้คือแบ็คขวาในอุดมคติของ อาร์เซนอล
นอกจากเป็นฟูลแบ็คที่โดดเด่นเรื่องเกมรุก แต่เขายังเล่นเกมรับได้อย่างแข็งแกร่งเช่นกัน เขาชนะการดวลมากกว่า 50 ครั้งในรอบแบ่งกลุ่ม โดยเชื่อว่าหลังจบฤดูกาลนี้ชื่อของเขาจะได้รับความสนใจอย่างมากในตลาดนักเตะ
Getty CB: แมตส์ ฮุมเมลส์ (โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์)
ฮุมเมลส์ อายุ 34 ปี แต่ยังโชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่งและเป็นหนึ่งในกองหลังที่ทำผลงานได้ดีสุดในรอบแบ่งกลุ่ม
แนวรับทีมชาติเยอรมัน อยู่แถวหน้าเกือบทุกสถิติของผู้เล่นแนวรับในรอบแบ่งกลุ่ม UCL ทั้งการสกัดบอล, แย่งบอล, ชนะการดวลคู่แข่ง และเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ทัพเสือเหลืองเข้ารอบในฐานะแชมป์กลุ่มของ กรุ๊ป ออฟ เดธ
Getty CB: อิกอร์ ซูเบลเดีย (เรอัล โซเซียดาด)
เรอัล โซเซียดาด ไม่แพ้ใครในรอบแบ่งกลุ่ม และเป็นทีมที่มีแนวรับดีที่สุดใน เก็บคลีนชีตได้ถึง 4 จาก 6 นัด เสียเพียง 2 ประตูเท่านั้น
ซูเบลเดีย ได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากจากผลงานในรอบแบ่งกลุ่ม นอกจากเล่นเกมรับได้แข็งแกร่งแล้ว เขายังเป็นผู้เล่นที่จ่ายบอลสำเร็จมากที่สุดของ โซเซียดาด ด้วย ซึ่งไม่น่าแปลกใจเพราะเขาเคยเล่นเป็นกองกลางมาก่อน
Getty LB: ดาวิด รอม (ไลป์ซิก)
รอม คือนักเตะที่เปิดบอลจากฝั่งซ้ายได้มากที่สุดในรอบแบ่งกลุ่ม และเป็นนักเตะแนวรับที่สร้างโอกาสทำประตูให้เพื่อนร่วมทีมได้มากที่สุดด้วย
นอกจากนี้ เขายังทำประตูในเกมที่ ไลป์ซิก เอาชนะ เร้ดสตาร์ เบลเกรด 3-1 ด้วย ไม่แปลกใจว่าทำไมเขาถึงเป็นที่ต้องการของบรรดาบิ๊กทีมทั่วยุโรป
Getty ImagesCM: วาร์เรน ซาอี-เอเมอรี (เปแอสเช)
วาร์เรน ซาอี-เอเมอรี คือชื่อที่โดดเด่นขึ้นมาในวงการฟุตบอลยุโรปฤดูกาลนี้ จากผลงานทั้งใน ลีกเอิง และในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก
เจ้าหนูวัย 17 ปี ทำประตูตีเสมอ ดอร์ทมุนด์ และทำสองแอสซิสต์ในเกมชนะ มิลาน 3-0 ช่วยให้ เปแอสเช ผ่านเข้ารอบในอันดับรองแชมป์ของ กรุ๊ป ออฟ เดธ ด้วยผลงานเฮดทูเฮดที่ดีกว่าปีศาจแดงดำ
Getty CM: มาร์ติน ซูบิเมนดี (เรอัล โซเซียดาด)
ซูบิเมนดี้ ในตำแหน่งกองกลางตัวรับคือส่วนสำคัญที่ทำให้ เรอัล โซเซียดาด เสียเพียง 2 ประตูจาก 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม เมื่อเขาคือด่านหน้าที่คอยหยุดยั้งเกมรุกของคู่แข่ง
ดาวเตะวัย 24 ปี ได้เป็น แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ถึงสองครั้ง โดยเฉพาะในเกมเสมอกับ อินเตอร์ มิลาน 0-0 ที่เขาได้รับเสียงชื่นชมอย่างมาก จนถึงขั้นถูกนำไปเปรียบเทียบกับ เซร์คิโอ บุสเก็ตส์ เลยทีเดียว
Getty CM: ราสมุส ฟอล์ค (โคเปนเฮเก้น)
ฟอล์ค โชว์ฟอรมได้อย่างโดดเด่นในแดนกลางของ โคเปนเฮเก้น จนคว้าตำแหน่ง แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ได้ถึง 3 จาก 6 นัดในรอบแบ่งกลุ่ม
ฟอร์มของเขามีส่วนอย่างมากที่ช่วยให้ โคเปนเฮเก้น ผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายแชมเปี้ยนส์ลีก เป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์สโมสร
Getty RW: บูกาโย ซาก้า (อาร์เซนอล)
ซาก้า เปล่งประกายอย่างมากกับ อาร์เซนอล ในรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อเขาทำไปถึง 3 ประตูกับ 4 แอสซิสต์
ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ถูกยกให้เป็นหนึ่งในตัวรุกที่อันตรายที่สุดของยุโรปไปแล้ว ด้วยทั้งความเร็วและทักษะอันจัดจ้าน รวมถึงการยิงประตูอันเฉียบขาด เป็นฝันร้ายของแนวรับคู่แข่งอย่างแท้จริง
GettyCF: แฮร์รี เคน (บาเยิร์น มิวนิค)
เคน ถูกยกย่องให้เป็นหนึ่งในกองหน้าที่ดีสุดในโลกมาตลอดหลายปี และการย้ายมาอยู่กับ บาเยิร์น ช่วยตอกย้ำความยอดเยี่ยมของเขาให้ชัดเจนขึ้น
ดาวยิงทีมชาติอังกฤษทำไปแล้ว 22 ประตู จากการลงเล่น 20 นัด ซึ่งฟอร์มของเขามีส่วนอย่างมากที่ทำให้เสือใต้ผ่านรอบแบ่งกลุ่มแบบไม่ยากเย็น
Getty LW: จู๊ด เบลลิงแฮม (เรอัล มาดริด)
เบลลิงแฮม ยกระดับฝีเท้าขึ้นอีกขั้นหลังย้ายมาอยู่กับ เรอัล มาดริด โดยเขาทำไปแล้ว 16 ประตูจากการลงสนาม 19 นัดรวมทุกรายการ ซึ่งเป็น 4 ประตูในรอบแบ่งกลุ่ม แชมเปี้ยนส์ลีก
นอกจากนี้เขายังทำไปอีก 3 แอสซิสต์ในรอบแบ่งกลุ่ม ไม่แปลกใจที่เขากลายเป็นหนึ่งในกองกลางที่ดีสุดในโลกด้วยวัยเพียง 20 ปี
โฆษณา