ล้อมโต๊ะ : มอง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยุคหลัง ดิโอโก หลุยส์ ซานโต้

ล้อมโต๊ะ : มอง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยุคหลัง ดิโอโก หลุยส์ ซานโต

เรียกว่าเป็นบิ๊กดีลประจำตลาดซื้อขายนักเตะในศึกโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2019 ที่บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แชมป์ 6 สมัย ตัดสินใจขายดิโอโก หลุยส์ ซานโต กองหน้าคนสำคัญของทีมให้กับ ยะโฮร์ ดารุล ต๊ะซิม ไป 50 ล้านบาท และนี่คือ 5 ทรรศนะของคนในวงการลูกหนังไทยต่อเหตุการณ์กับปราสาทสายฟ้าหลังจากนี้

  • วิทยา เลาหกุล

    วิทยา เลาหกุล ประธานฝ่ายเทคนิคสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย

    “เขาเป็นคนที่มีความสามารถอีกคนหนึ่ง แต่ฟุตบอลมันมีการเปลี่ยนแปลงอยู่แล้ว แต่ต้องรอดูว่าบุรีรัมย์จะมีการเสียสมดุลมากน้อยแค่ไหนหลังจากขาดเขาไป”

    “ส่วนผู้เล่นทดแทนมันมีเยอะแยะอยู่แล้ว แต่สิ่งที่คอยดูมากที่สุดคือเรื่องการปรับตัว นักเตะทั่วโลกจะต้องใช้เวลาปรับตัว พวกกับผลงานที่เขาทำไว้กับทีมตลอด 4 ปีที่ผ่านมา แน่นอนว่าคนที่เข้ามาใหม่ต้องรับความกดดัน เพราะความคาดหวังของแฟนบอลเขาต้องการเห็นคนที่เล่นได้ดีกว่าดิโอโก แต่ถ้ามาด้อยกว่ามันมีผลถึงแฟนคลับและผลการแข่งขันต่อสโมสร ซึ่งเอาจริงๆหลายสโมสรคงดีใจ ที่ดิโอโกย้ายออกแน่นอน”

    “นอกจากนี้ดิโอโกเขามีส่วนให้นักเตะรอบข้างมีความเก่งขึ้น ถ้าไม่มีเขาคนหนึ่ง นักเตะรอบข้างอีกหลายๆคน มีปัญหาแน่นอน”

    “การเปลี่ยนแปลงแต่ละครั้ง อาจจะมีด้อยไปบ้าง อย่างเมืองทองและชลบุรี ก็เป็นเหมือนกัน ซึ่งตรงนี้มันก็ขึ้นอยู่ว่านักเตะใหม่จะปรับตัวนานแค่ไหนเท่านั้น แต่ในเคสของบุรีรัมย์ความคาดหวังสูงแน่นอน ซึ่งเขาต้องผ่านไปให้ได้

  • โฆษณา
  • อลงกต เดือนคล้อย

    อลงกต เดือนคล้อย บรรณาธิการบทสัมภาษณ์ Main Stand

    “ถ้าเปรียบกับการเล่นเกม Football Manager นี่คือผู้เล่นระดับ 5 ดาว ที่สโมสรคงไม่อยากปล่อยออกไปไหน และส่งผลต่อทีมแน่นอน ผมคงไม่พูดถึงเรื่องประสิทธิภาพเกมรุกของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ย่อมต้องลดลงไป หลังจากการขาย ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ซึ่งทุกคนก็เห็นกันอยู่แล้วว่าตลอด 4 ซีซั่น เขามีศักยภาพมากขนาดไหน และสร้างประโยชน์ต่อทีมมากแค่ไหน”

    “แต่ผมมองว่าส่วนที่ บุรีรัมย์ฯ ได้รับผลกระทบแน่ๆ คือ การขาดผู้นำในสนาม และนักฟุตบอลต่างชาติเกรดเอ ที่สามารถเป็นแบบอย่างที่ดีแก่เยาวชนได้ อย่าลืมว่า ขุมกำลังของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เกือบค่อนทีม เป็นนักเตะอายุน้อยไม่เกิน 25 ปี”

    “ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เห็นได้ว่า ดาวรุ่งหลายคนของ บุรีรัมย์ฯ พัฒนาขึ้นมาอย่างมาก สามารถเล่น First Team ได้อย่างไร้ที่ติ ดิโอโก เป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญ ที่สำคัญทุกคนในทีม ให้การยอมรับความเป็นมืออาชีพของ ดิโอโก มาก”

    “จะมีผู้เล่นต่างชาติสักกี่คน ที่เชื่อใจ ไว้ใจเด็กท้องถิ่น แบบเขา ดิโอโก เป็นเหมือนโค้ช เหมือนพี่เลี้ยง แก่นักบอลเยาวชน หลายจังหวะที่เขาสามารถยิงได้ เขาก็มักจะเลือกปั้น ส่ง ให้เด็กๆ ยิงประตู ความเชื่อใจเป็นเรื่องสำคัญของนักบอลดาวรุ่ง”

    “เรื่องเกมรุกบุรีรัมย์ คงน่าจะหาผู้เล่นที่มีความสามารถไม่ยิ่งหย่อนกว่า ดิโอโก มาได้ไม่ยากเย็นเกินความสามารถของทีมสเกาท์พวกเขา แต่คนที่จะมีทัศนคติแบบ ดิโอโก ตั้งหากที่หาได้ยาก...ถ้ามองอีกมุม ก็เป็นบททดสอบที่ดี สำหรับดาวรุ่งๆหลายคนภายในทีม ที่ต้องยกระดับตัวเองขึ้นมา ในวันที่ไร้เงาพี่ชายที่แสนดีอย่างดิโอโก”

    “ในส่วนผู้เล่นที่เข้ามาแทนนั้น ข้อดีอย่างหนึ่งของบุรีรัมย์ คือ พวกเขาเป็นทีมที่สร้างระบบการเล่นขึ้นมา และหาผู้เล่นที่มาเติมระบบนั้น ไม่ใช่หานักบอล แล้วหาสร้างระบบล้อมรอบ”

    “ดังนั้นคนที่มาใหม่ ถ้าสามารถปรับตัวเข้ากับระบบ ปรัชญา ฟุตบอลแบบบุรีรัมย์ ที่เน้นความแน่นอน จ่ายบอลเร็ว การเล่นอย่างมีระบบระเบียบ มากกว่าพึ่งพาความสามารถเฉพาะตัวได้ ก็คงไม่มีปัญหาเรื่องการปรับตัว”

    “ส่วนเรื่องความคาดหวัง แฟนบอลต้องเข้าใจด้วยว่า เป็นไม่ได้หรอก เวลาสโมสรฟุตบอลทั่วโลก เสียผู้เล่นคนสำคัญ จะสามารถหาตัวตายตัวแทนที่เป็นนักเตะแบบเดียวกัน ทุกกระเบียดนิ้ว ดังนั้นอย่าไปคาดหวังว่า คนใหม่ ต้องแบกทีมได้ เล่นเก่งกาจเหนือชั้นแบบดิโอโก้ ถ้าเขาสร้างประโยชน์ให้ทีมได้ เล่นได้ตามระบบ และพาทีมประสบความสำเร็จแค่นี้ก็น่าเพียงพอ”

    “ถ้าเป็นนักบอลต่างชาติ ผมว่าเรื่องสภาพจิตใจ เขาน่าจะรับมือกับแรงกดดันได้ดีกว่า นักบอลไทย ในการต้องมาแทนที่ ดิโอโก ที่ผ่านมาบุรีรัมย์ เคยผ่านการเสียผู้เล่นต่างชาติตัวหลักไปหลายหน สุดท้ายผลงานในสนาม จะทำให้ความสงสัยเหล่านั้นหายไป ถ้าผลงานเวิร์กแบบดิโอโก คนก็จะลืม คาร์เมโล ไปเอง แบบเดียวกันกับคนที่จะมาแทนที่ ดิโอโก ถ้าฟอร์มดี แรงกดดัน ความคาดหวัง จะหายไป ความเชื่อใจจากแฟนๆก็จะได้มาเอง”

    “ถ้ามองว่าดาวรุ่งจะมาทดแทนได้ไหม บอกเลยว่า ยาก ดิโอโก สร้างมาตรฐานไว้สูงมาก สูงในระดับที่นักบอลตัวท็อปเอเชียด้วยซ้ำ ในขณะที่ นักบอลไทย ยังมีข้อจำกัดอยู่”

    “อย่าไปคาดหวังว่า ศุภชัย ใจเด็ด, สุภโชค สารชาติ, ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา จะไปแทนที่ ดิโอโก ได้เลย”

    “ผมไม่ปฏิเสธ และยอมรับว่า เด็กพวกนี้เก่งจริง แต่พวกเขาก็สามารถเก่งได้ ในแนวทางของตัวเอง ผ่านประสบการณ์ที่เรียนรู้ และคลุกคลีกับนักบอลอย่าง ดิโอโก และกระดูกฟุตบอลที่ค่อยๆเพิ่มขึ้น”

    “แต่แฟนบอล ต้องใจเย็นๆ และรอเวลา ทั้ง 3 คนเป็นดาวรุ่งที่ดี และมีอนาคตไกลมาก เมื่อเทียบกับนักเตะไทย ในรุ่นราวคราวเดียวกันหลายคน”

    “ดังนั้น อย่าเพิ่งโยนความกดดัน ความคาดหวังมากเกินไป ควรให้ประสบการณ์ เวลา บ่มเพาะ ตัวรุกดาวรุ่งเหล่านี้ เข้าไปดีกว่า ค่อยๆเป็น ค่อยๆไป ดีกว่าครับ บทบาทแบบ ดิโอโก ยังควรให้ต่างชาติทำหน้าที่ไปก่อนดีกว่า”

    “ส่วนคู่แข่งที่ต้องเจอ บุรีรัมย์ ก็ยังเป็นบุรีรัมย์ ผมเชื่อว่าท้ายที่สุด บุรีรัมย์ จะยังสามารถยืนระยะลุ้นแชมป์ได้ถึงโค้งสุดท้าย ด้วยระบบ ด้วยประสบการณ์ ทีมอื่นอาจเสริมทัพได้ดูดี อย่าง แบงค็อก การท่าเรือ แต่การยืนระยะไปจนถึงโค้งสุดท้าย มันไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยแค่ว่า ใครมีผู้เล่นเก่งกว่ากัน”

    “ระบบการเล่น การหมุนเวียนนักเตะ การรักษาสภาพความฟิต จิตวิทยา การฟื้นฟูสภาพจิตใจ ทุกอย่างมีผลหมด”

    “ซึ่ง บุรีรัมย์ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ก็แสดงให้เห็นว่า พวกเขายังเป็นสโมสรไม่กี่ทีมในไทย ที่ยืนระยะไปถึงโค้งสุดท้ายได้ หากไม่ดวงแตกเหมือนปี 2016 ที่นักเตะเจ็บพร้อมกันเป็น 10 ราย เชื่อว่า บุรีรัมย์ ก็ยังดูเก๋าเกมกว่า และได้ลุ้นแชมป์ไทยลีกอีกอยู่ดี ต่อให้ไม่มี ดิโอโก ส่วนจะแชมป์ไม่แชมป์ ต้องดูว่า โค้งสุดท้าย สถานการณ์ โมเมนตัม เป็นอย่างไร รวมถึงสภาพร่างกาย จิตใจ และการเลือกใช้แท็คติกของโค้ช มันมีตัวแปรเยอะมากครับ”
  • ธีรยุทธ บัญหนองสา

    ธีรยุทธ บัญหนองสา ผู้บรรยายเกมกีฬา True Visions

    “ถ้าเอาดิโอโกเป็นหัวใจในเกมรุกของบุรีรัมย์ มันก็จะส่งผลในระดับหนึ่ง ณ วันนี้เรายังไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาแทนจะเป็นใคร แม้จะมีข่าวออกมาบ้าง เราก็ยังไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาใหม่ทำได้อย่างที่ดิโอโกเคยทำได้หรือเปล่า ถ้าเรามองภาพรวม 4 ปีที่ผ่านมา เกมไหนที่เจ้าตัวถูกจับตายหรือมีอาการบาดเจ็บ มันก็ส่งผลพอสมควร มันถึงเวลาที่เป็นช่วงผลัดใบแล้ว  สิ่งที่เกิดขึ้นมามันก็ควรน่าจดจำ แต่สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นของผู้เล่นใหม่ การผสมผสานกับนักเตะไทยที่มีอยู่และนักเตะคนอื่นที่มีอายุมากขึ้น คือสิ่งที่บุรีรัมย์ต้องเจอ แต่ทีมยังมีระบบการทำทีมและหลังบ้านที่แข็งแกร่ง ยังมีการบริหารของคุณเนวิน ชิดชอบ ที่ดูแลอย่างใหล้ชิด ทีมยังคงเป็นทีมที่อันตรายอยู่ดี”

    “นักเตะที่เข้ามา ไม่น่าจะรับรู้ว่าดิโอโกทำผลงานอะไรบ้างแบบเป็นรูปธรรม แต่ตัวทีมที่เคยเล่นกันมา บอลที่เคยอยู่กับดิโอโก นั้น ก็ต้องดูว่าเมื่อนักเตะใหม่มาซ้อมและปรับจูนอย่างไร อย่าลืมว่ามันไม่ได้ขาดหายแค่ดิโอโก รวมไปถึง ยู จุนซู ที่ไม่ได้อยู่แล้ว เชื่อว่าอีก 2-3 จุด ที่อาจจะได้รับผลกระทบพอสมควร”

    “ถ้ามองเคสของการดาวรุ่ง ยกตัวอย่างศุภชัย ใจเด็ดเป็นตัวตั้ง อาร์มคนเดียวยังไม่สามารถแบกความหวังได้ แต่สิ่งที่มองคือบุรีรัมย์คือบุรีรัมย์ทั้งทีม ไม่ใช่แค่คนๆเดียวแล้ว ถ้ามองย้อนไป 4 ปีที่ผ่านมา ดิโอโกผลงานโดดเด่นมาก คิดไม่ออกบอกดิโอโก แต่พอเขาเจ็บ ทำให้บุรีรัมย์รู้ว่าเขาไม่สามารถพึ่งพาคนๆเดียวได้ ทำให้ปี 2018 บุรีรัมย์เริ่มรู้แล้วว่าควรใช้งานดิโอโกยังไง เพื่อให้คนอื่นมีส่วนโจมตีมากขึ้น ท้ายที่สุดภาพรวมปีที่ผ่านมา บุรีรัมย์ยกระดับทีมขึ้นมาโดยไม่ใช้ขนาดทีมที่ใหญ่มาก”

    “ในส่วนคู่แข่งของบุรีรัมย์ เชื่อว่า 15 ทีม จะเบาใจขึ้นเยอะ ยังไม่รวมตัวใหม่ที่กำลังจะเข้ามาแทนที่ แต่ทั้งหมดก็ยังเชื่อในระบบทีมของบุรีรัมย์มีโครงสร้างที่แข็งแรงไปแล้ว หลังจากพยายามหาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา”

  • ENJOYED THIS STORY?

    Add GOAL.com as a preferred source on Google to see more of our reporting

  • ชไมพร เห็นประเสริฐ

    ชไมพร เห็นประเสริฐ ผู้ประกาศข่าวกีฬา True Sport

    “การขาดดิโอโกไปครั้งนี้ส่งผลแน่นอน ในเรื่องสปิริตทีมอาจจะไม่ได้เสีย แต่ว่าที่น่าสนใจคือเรื่องแผงเกมรุก การขาดดิโอโกไปนั้น ไม่ใช่ขาดแค่คนทำสกอร์ มันจะขาดคนสร้างมิติเกมรุก ถ่ายทอดประสบการณ์ทั้งในและนอกสนาม เขาเป็นนักเตะต่างชาติที่ครบเครื่องมากที่สุดคนหนึ่งที่มาเล่นในไทยลีก นี่คือตำนาน”

    “คนใหม่ที่เข้ามา มันต้องมากับความคาดหวังอยู่แล้ว เพราะดิโอโกเขาทำผลงานได้ดีมาก ไม่นับปี 2016 ที่ทำไป 8 ประตู  เพราะว่าเจ้าตัวเจ็บ ส่งผลให้บุรีรัมย์จบที่สี่ของตาราง แต่ผลงานโดยรวมทำได้ดีมาก ดีในที่นี้คือดีตั้งแต่ปีแรกที่เข้ามา การปรับตัวที่เขาทำได้เร็วมาก ชื่อชั้นดีไม่สำคัญเท่ากับการปรับตัวเข้ากับทีม มันก็เหมือนโยนหัวก้อย ที่ต้องลุ้นวาจะเข้ากับทีมได้ไหม เรื่องนี้ผลงานในสนามของนักเตะใหม่จะเป็นคนตอบแทนให้เอง ถามว่ากดดันไหม กดดันแน่นอน”

    “แต่ถ้าในช่วงปีหลังๆบุรีรัมย์ใช้นักเตะต่างชาติน้อยลงเรื่อยๆ เต็มไปด้วยนักเตะไทย กลายเป็นกำลังหลักทีมชาติไทย อย่างศุภชัยจะเข้ามาแทนได้ไหม มันต้องดูกันยาวๆ ตอนนี้ไม่สามารถนำมาเทียบได้ แต่ถ้าจะดันเป็นกองหน้าสัญชาติไทยที่บุรีรัมย์ไม่ได้มีมานานแล้ว ก็มีความหวังนะ อย่างน้อยที่สุดทีมจะมีกองหน้าคนใหม่ที่เป็นดาวยิงคนไทย แต่สุดท้ายก็ต้องมีกองหน้าต่างชาติอยู่ดี เพื่อเอามาช่วยและเป็นครูให้นักเตะดาวรุ่งคนอื่นๆด้วย”

    “ความแปลกใหม่ฤดูกาล 2019 ต้องรอดูกองหน้าที่จะเข้ามานี่แหละ รวมไปถึงระบบแท็คติคที่จะปรับยังไงในวันที่ไม่มีดิโอโก และนักเตะใหม่จะเข้าระบบทีมมากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้เราอาจจะได้เห็นบุรีรัมย์ผลักดันเด็กขึ้นมาในทุกตำแหน่งมากกว่านี้ จากการที่ผลิตออกมาเป็นรูปธรรมมากสุด ส่วนดาวซัลโวไทยลีกอาจจะมีความหลายหลายมากขึ้น อาจจะไม่เห็นเป็นหน้าเดิมก็ได้นะ ทำให้ไทยลีกปีนี้สนุกครบรสแน่นอน”

  • สุเชาว์ นุชนุ่ม

    สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด

    “ดิโอโกเป็นนักเตะต่างชาติทุกคนให้การยอมรับวามีฝีมือ เก่งขนาดไหน ส่วนเรื่องการวางตัวนอกสนามนั้น เราอาจจะเห็นการวางตัวนักเตะต่างชาติคนอื่นๆ แตกต่างกันไป แต่ดิโอโกเขาให้เกียรติทุกคนให้เกียรติทีม เพื่อนร่วมทีม เขาไม่ใช่นักฟุตบอลที่มีอีโก้สูง เขาเป็นนักฟุตบอลอาชีพจริง และเขาเข้ากับทุกคนในทีมได้ดี”

    “ถ้าในตำแหน่งกองหน้า ดิโอโกเขาเป็นนักเตะที่ดีที่สุดคนหนึ่งตั้งแต่เล่นด้วยกันมา เพราะว่าดาวซัลโวที่เขาได้มา ก็ไม่มีใครมาตั้งคำถามกับเขาหรอก กับผลงานที่เขาทำมา”

    “ส่วนใครที่เข้ามาแทน ก็ต้องเป็นทางสโมสรว่าจะหามาได้ดีขนาดไหน แน่นอนว่าบุรีรัมย์เขาก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การผลัดเปลี่ยนนักเตะหลายๆคนที่เข้ามา ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เห็นว่าทีมไม่ได้หยุดอยู่กับที่ เชื่อว่าหาได้ดีมากกว่าเดิม”

    “คนใหม่ที่เข้ามานั้น เขาก็ต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าดีขนาดไหน เพื่อให้เพื่อนร่วมทีมยอมรับ ฉะนั้นคุณต้องรู้ว่าบุรีรัมย์เล่นสไตล์แบบไหน บุรีรัมย์เล่นยังไง ถ้าคุณตอบโจทย์ได้เร็วขึ้น เข้ากับเพื่อนร่วมทีมได้ดี และเข้าใจแท็คติค ผลงานก็จะดีขึ้นตามลำดับไป ผมว่าไม่ใช่เรื่องยาก ถ้าเรียนรู้และปรับตัวเร็วก็จะประสบความสำเร็จเร็ว”

    “ทีมบุรีรัมย์ ไม่มีซูเปอร์สตาร์ แต่ทุกคนเล่นเพื่อทีมและเล่นเพื่อสโมสร”

  • ล้อมโต๊ะ : มอง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยุคหลัง ดิโอโก หลุยส์ ซานโต้

    ดิโอโก หลุยส์ ซานโต : ตำนานไทยลีก 👑 ⚽🏃⚡

0