Getty
Gettyซิลวินโญ
แบ็คซ้ายร่างเล็กสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักเตะชาวบราซิลคนแรกของอาร์เซนอล โดยย้ายมาจากโครินเธียนส์เมื่อปี 1999
ซิลวินโญ เข้ามาเบียดแย่งตัวจริงจากตำนานแบ็คซ้ายของสโมสรอย่าง ไนเจิล วินเทอร์เบิร์น โดยลงเล่นไปทั้งหมด 80 เกม ในช่วงสองฤดูกาลที่อยู่กับเดอะ กันเนอร์ส รวมถึงยังมีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกแห่งปีของพีเอฟเอในฤดูกาล 2000-2001 อีกด้วย ก่อนที่หลังจบฤดูกาลนั้น จะเลือกย้ายไปอยู่กับเซลต้า บีโก้
GOAL ตัดเกรด : รุ่ง
Gettyฮวน
ดาวรุ่งจากเซา เปาโล ย้ายมาอยู่กับอาร์เซนอลเมื่อปี 2001 ด้วยวัยเพียงแค่ 19 ปีเท่านั้น โดยเขาสามารถเล่นได้ทั้งแบ็คซ้ายเหมือนกับรุ่นพี่ร่วมชาติอย่าง ซิลวินโญ รวมถึงยืนเป็นกองกลางก็ได้เช่นกัน
ทว่า ฮวน กลับไม่เคยได้โอกาสลงเล่นในพรีเมียร์ลีกแม้แต่เกมเดียว โดยลงเล่นเพียงแค่ในถ้วยเอฟเอ คัพ 1 เกม และลีก คัพ 1 เกมเท่านั้น ก่อนจะถูกปล่อยให้มิลล์วอลล์ยืมตัวไปใช้งานในปี 2003 และย้ายกลับบราซิลไปอยู่กับฟลูมิเนนเซด้วยสัญญาถาวรในปี 2004
GOAL ตัดเกรด: ร่วง
Gettyเอดู
กองกลางจากโครินเธียนส์ ย้ายมาอยู่กับอาร์เซนอลช่วงเดือนมกราคมในปี 2001 ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์
เอดู ลงเล่นไปทั้งหมด 127 เกม ยิงได้ 15 ประตู คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และคอมมิวนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย โดยมีไฮไลท์คือการได้เป็นหนึ่งในขุนพลชุดคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกแบบไร้พ่ายเมื่อฤดูกาล 2003-2004 อีกด้วย ก่อนที่ในปี 2005 จะตัดสินใจย้ายไปอยู่กับบาเลนเซีย
ปัจจุบัน ได้กลับมาทำงานให้อาร์เซนอลอีกครั้ง ในฐานะผู้อำนวยการเทคนิคคนแรกสโมสร ซึ่งเขารับตำแหน่งนี้มาตั้งแต่ปี 2019
GOAL ตัดเกรด : รุ่ง

จิลแบร์โต้ ซิลวา
กองกลางที่แจ้งเกิดจากการเป็นตัวหลักพาทีมชาติบราซิลคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ตัดสินใจย้ายจากแอตเลติโก มิเนโร มาอยู่กับอาร์เซนอล หลังจบทัวร์นาเมนต์ดังกล่าว
จิลแบร์โต้ ซิลวา เข้ามาจับคู่กับ ปาทริค วิเอรา เป็นมิดฟิลด์คู่กลางสุดแข็งแกร่งของทีมชุดไร้พ่ายในตำนานเมื่อฤดูกาล 2003-2004
สุดท้ายเขาฝากสถิติลงเล่นให้อาร์เซนอลไปทั้งหมด 244 เกม ยิงได้ 24 ประตู คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 1 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และคอมมิวนิตี้ ชิลด์ 2 สมัย ก่อนเลือกย้ายไปอยู่กับพานาธิไนกอสในปี 2008
GOAL ตัดเกรด : รุ่ง
Gettyชูลิโอ บาปติสต้า
กองหน้าร่างบึกบึนถูกยืมตัวมาจากเรอัล มาดริด ในฤดูกาล 2006-2007 โดยเป็นการย้ายสลับตัวกับ โฆซ อันโตนิโอ เรเยส ซึ่งไปเล่นให้ราชันชุดขาวแบบยืมตัวเช่นกันในฤดูกาลนั้น
ผลงานโดดเด่นที่สุดของเขา คือเกมที่ยิงถึง 4 ประตู พาทีมบุกถล่มลิเวอร์พูลถึงแอนฟิลด์ 6-3 ในถ้วยลีก คัพ แต่ฟอร์มโดยรวมของเขากับอาร์เซนอลถือว่าไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก แม้จะยิงไปได้ทั้งหมด 10 ประตู จากการลงเล่น 35 เกมก็ตาม และหลังจบฤดูกาลนั้นก็โดนส่งกลับไปที่มาดริดทันที
GOAL ตัดเกรด: ร่วง
Gettyเดนิลซอน
กองกลางที่ถูกยกย่องว่าเป็นส่วนผสมระหว่างสไตล์การเล่นของ โทมัส โรซิชกี้ และ จิลแบร์โต้ ซิลวา ย้ายจากเซา เปาโล มาอยู่กับอาร์เซนอล ด้วยค่าตัว 3.4 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2006
แม้จะได้ลงเล่นไปทั้งหมด 153 เกม ยิงได้ 11 ประตู แต่บทบาทโดยรวมเขาแทบจะไม่ใช่ตัวหลักของทีมเลยด้วยซ้ำ และยังมักจะเจอปัญหาบาดเจ็บรบกวนบ่อยครั้ง ก่อนถูกปล่อยตัวกลับไปอยู่เซา เปาโลแบบยืมตัวในปี 2011 และย้ายไปเซา เปาโลด้วยสัญญาถาวรในปี 2013
GOAL ตัดเกรด : ร่วง
Gettyเปโดร โบเตลโญ
แบ็คซ้ายดาวรุ่งย้ายจากฟิเกเรนเซมาอยู่กับอาร์เซนอลเมื่อปี 2007 ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น
ทว่าเขากลับไม่เคยได้โอกาสลงเล่นให้เดอะ กันเนอร์สแม้แต่นัดเดียว เนื่องจากมีปัญหาเรื่องการขอใบอนุญาตทำงานในอังกฤษ จนต้องปล่อยไปเล่นในสเปนแบบยืมตัวถึง 5 สโมสร ได้แก่ ซาลามังก้า, เซลต้า บีโก้, การ์ตาเคนา, ราโย บาเยกาโน และ เลบานเต้
สุดท้ายเขาเลือกย้ายกลับไปเล่นให้ทีมในบราซิลอย่าง แอตเลติโก พาราเนนเซ ด้วยสัญญาถาวรในปี 2012
GOAL ตัดเกรด: ร่วง
Gettyเวลลิงตอน ซิลวา
ปีกจอมเลื้อยย้ายจากฟลูมิเนนเซมาอยู่กับอาร์เซนอล ด้วยค่าตัว 3.5 ล้านปอนด์ ในช่วงเดือนมกราคมเมื่อปี 2010 ด้วยวัยเพียงแค่ 17 ปีเท่านั้น
กระนั้นเขาก็เป็นอีกรายที่เจอปัญหาเรื่องการขอใบอนุญาตทำงานในอังกฤษ จนไม่เคยได้โอกาสลงเล่นให้เดอะ กันเนอร์สแม้แต่นัดเดียว จนต้องไปเล่นในสเปนแบบยืมตัวถึง 5 สโมสร ได้แก่ เลบานเต้, อัลโกยาโน, ปอนเฟร์ราดินา, เรอัล มูร์เซีย และ อัลเมเรีย ซึ่งเคยได้ลงเล่นร่วมกับกองหน้าทีมชาติไทยอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา อีกด้วย
จากนั้นช่วงซัมเมอร์ในปี 2015 แม้เขาจะได้ใบอนุญาตทำงานในอังกฤษแล้ว แต่ก็ยังโดนปล่อยให้โบลตัน วันเดอเรอร์ส ยืมตัวไปใช้งานอยู่ดี จนสุดท้ายก็ตัดสินใจย้ายกลับไปอยู่ฟลูมิเนนเซอีกครั้ง ด้วยสัญญาถาวรในช่วงซัมเมอร์ของปี 2016
GOAL ตัดเกรด : ร่วง
Getty Imagesอังเดร ซานโตส
อาร์เซนอลคว้าตัวแบ็คซ้ายดีกรีทีมชาติบราซิลของเฟเนร์บาห์เชมาเสริมทัพ ในช่วงซัมเมอร์ของปี 2011
เขาได้ลงเล่นให้เดอะ กันเนอร์สไปทั้งหมด 33 เกม ยิงได้ 3 ประตู แต่บทบาทส่วนใหญ่ของเขาก็ไม่ใช่ในฐานะตัวหลักของทีม โดยสิ่งที่คนทั่วไปจำได้มากที่สุด คือเหตุการณ์ที่ไปขอแลกเสื้อกับ โรบิน ฟาน เพอร์ซี ซึ่งตอนนั้นเป็นนักเตะของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดไปแล้วตั้งแต่ช่วงจบครึ่งแรก จนทำให้ถูกวิจารณ์อยู่พอสมควร
จากนั้นช่วงเดือนกุมภาพันธ์ในปี 2013 ซานโตส ถูกปล่อยให้เกรมิโอยืมตัวไปใช้งาน กระทั่งย้ายไปอยู่กับฟลาเมงโกด้วยสัญญาถาวรในช่วงซัมเมอร์ปีเดียวกัน
GOAL ตัดเกรด : ร่วง
Alexander Hassenstein/Getty Images Sportกาเบรียล เปาลิสต้า
อาร์เซนอลคว้าตัวกองหลังชาวบราซิลของบียาร์เรอัลมาเสริมทัพ ด้วยค่าตัว 11.3 ล้านปอนด์ ในช่วงเดือนมกราคมเมื่อปี 2015
แม้ฟอร์มโดยรวมของเขาจะไม่ถือว่าขี้เหร่ แต่บทบาทก็ไม่ใช่ฐานะตัวหลักของทีมแต่อย่างใด จนสุดท้ายก็ถูกปล่อยให้บาเลนเซียในช่วงซัมเมอร์ปี 2017 โดยฝากสถิติลงเล่นให้เดอะ กันเนอร์สไปทั้งหมด 64 เกม ยิงได้ 1 ประตู คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ 2 สมัย และคอมมิวนิตี้ ชิลด์ 1 สมัย
GOAL ตัดเกรด : ร่วง
Getty Imagesดาวิด ลุยซ์
เซ็นเตอร์แบ็คดีกรีทีมชาติบราซิล ย้ายข้ามฟากกรุงลอนดอนจากเชลซีมาอยู่กับอาร์เซนอล ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2019
แม้จะมีส่วนร่วมพาทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ รวมถึงคอมมิวนิตี้ ชิลด์ ในปี 2020 แต่ฟอร์มโดยรวมของเขาถือว่าไม่น่าประทับใจนัก จนสุดท้ายก็ตัดสินใจย้ายไปอยู่กับฟลาเมงโก้ในปี 2021 โดยฝากสถิติลงเล่นให้เดอะ กันเนอร์สไปทั้งหมด 73 เกม ยิงได้ 4 ประตู
GOAL ตัดเกรด : ร่วง
Gettyกาเบรียล มาร์ติเนลลี
อาร์เซนอลไปคว้าตัวกองหน้าดาวรุ่งวัย 18 ปี จากทีมในบราซิลอย่าง อิทัวโน เมื่อปี 2019 ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์
เพียงแค่ฤดูกาลแรก 2019-202 มาร์ติเนลลี ก็ทำสถิติเป็นนักเตะดาวรุ่งคนแรกของอาร์เซนอล ที่ยิงได้แตะหลัก 10 ประตูในฤดูกาลเดียว นับตั้งแต่ นิโกลาส์ อเนลก้า เคยทำได้เมื่อฤดูกาล 1998-1999
ขณะที่หลังจากนั้นแม้เขาจะเจอปัญหาบาดเจ็บรบกวนอยู่บ้าง แต่ผลงานโดยรวมของเขาก็ถือว่ามีแววเลยทีเดียว และน่าจะเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมไปอีกนาน โดยปัจจุบันทำสถิติยิงไปแล้ว 18 ประตู จากการลงเล่น 84 เกม
GOAL ตัดเกรด : รุ่ง
Gettyวิลเลียน
ปีกจอมเก๋าดีกรีทีมชาติบราซิล เป็นอีกหนึ่งรายที่ย้ายฟากกรุงลอนดอนจากเชลซีมาอยู่กับอาร์เซนอล หลังหมดสัญญากับสิงโตน้ำเงินครามในช่วงซัมเมอร์ปี 2020 และตัดสินใจโยกมาร่วมทัพปืนใหญ่แบบไม่มีค่าตัว
ทว่า วิลเลียน กลับโชว์ฟอร์มได้อย่างย่ำแย่ โดยยิงไปเพียงแค่ 1 ประตู จากการลงเล่นทั้งหมด 37 เกม และถูกปล่อยให้โครินเธียนส์ไปแบบไม่มีค่าตัว ในช่วงซัมเมอร์ปี 2021
GOAL ตัดเกรด : ร่วง
Gettyกาเบรียล มากัลไญส์
อาร์เซนอลตัดสินใจจ่ายเงิน 27 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวกองหลังชาวบราซิลของลีลล์มาเสริมทัพ ในช่วงซัมเมอร์ปี 2020
กาเบรียล เข้ามาเป็นแนวรับตัวหลักของเดอะ กันเนอร์สได้ในทันที โดยเฉพาะในฤดูกาลล่าสุดที่จับคู่เป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟตัวจริงร่วมกับ เบน ไวท์ ได้อย่างเข้าขาลงตัว โดยปัจจุบันเขามีสถิติลงเล่นไปแล้วทั้งหมด 70 เกม ยิงได้ 8 ประตู
GOAL ตัดเกรด : รุ่ง
โฆษณา

