Getty/GOAL
Getty Imagesเอแดร์ซอน คือผู้รักษาประตูที่ประสบความสำเร็จมากสุดของ แมนฯซิตี้ อย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไม่มีใครที่สร้างความประทับใจให้แฟนบอลได้เท่า เทราต์มันน์ อดีตทหารนาซีที่กลายมาเป็นตำนานของทีม
เทราต์มันน์ ลงเฝ้าเสาให้ แมนฯซิตี้ 545 เกม และเกมที่น่าจดจำที่สุดคือนัดชิงชนะเลิศ เอฟเอ คัพ ปี 1956 ที่เขาปะทะกับคู่แข่งจนบาดเจ็บถึงขั้นกระดูกคอหัก แต่ยังฝืนเล่นต่อจนจบ
Getty Imagesฟูลแบ็คชาวอาร์เจนไตน์อาจไม่ใช่ผู้เล่นที่เก่งสุดในตำแหน่งนี้ หรืออยู่ในทีมชุดที่แข็งแกร่งที่สุด แต่ไม่มีใครทุ่มเทเพื่อทีมมากกว่าเขา
ซาบาเลต้า คือตัวเลือกแรกในตำแหน่งแบ็คขวาของเรือใบสีฟ้ามา 9 ปี และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย
Getty Imagesกอมปานี คือกองหลังที่ยิ่งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และมีรูปปั้นที่สร้างขึ้นเพื่อเป็นเกีรติให้เขาอยู่ด้านนอกของสนาม เอติฮัต สเตเดี้ยม ด้วย
แนวรับชาวเบลเยียมช่วยให้ทีมคว้าไป 12 แชมป์ ตลอดระยะเวลา 11 ปี กับสโมสร ความจริงเขาน่าจะได้อยู่กับทีมนานกว่านี้หากไม่โดนอาการบาดเจ็บเรื้อรังเล่นงาน
Getty Imagesลาปอร์กต์ เคยปฏิเสธย้ายมาร่วมทีม แมนฯซิตี้ เมื่อปี 2016 ก่อนที่อีก 18 เดือนต่อมาเขาจะตัดสินใจย้ายมาค้าแข้งในถิ่น เอติฮัต สเตเดี้ยม ซึ่งเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของทั้งเขาและสโมสร
แนวรับทีมชาติสเปนคือกองหลังในแบบฉบับที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ต้องการ มีพร้อมทั้งการเล่นเกมรับที่ชาญฉลาดและการสร้างเกมรุกจากแนวรับ
พาร์โด เป็นนักเตะอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้ แมนฯซิตี้ โดยเขาประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 15 ปีเท่านั้น และเป็นตัวเลือกแรกในตำแหน่งนี้อย่างยาวนาน ช่วยทีมคว้าแชมป์ลีก, เอฟเอ คัพ และ คัพ วินเนอร์ส คัพ
เขาเคยบาดเจ็บถึงขั้นขาหักต้องพักยาว 2 ปี แต่สู้จนกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง ภายหลังเขากลายเป็นโค้ชทีมเยาวชนของเรือใบสีฟ้า และเสียชีวิตไปเมื่อปี 2020
(C)Getty Imagesแฟร์นันดินโญ เซ็นสัญญากับ แมนฯซิตี้ ตอนอายุ 28 ปี ท่ามกลางคำถามว่าทำไมสโมสรถึงยอมจ่ายเงิน 30 ล้านปอนด์ เพื่อนักเตะที่ติดทีมชาติบราซิลเพียง 5 นัด
9 ปีต่อมา มิดฟิลด์แซมบ้าพิสูจน์แล้วว่านี่คือดีลที่ยอดเยี่ยม เมื่อเขาเป็นกำลังสำคัญในการคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 5 สมัย เป็นนักเตะที่มีอิทธิพลในห้องแต่งตัวอย่างมาก และเป็นคนที่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ไว้วางใจทั้งในและนอกสนาม
Getty Imagesเบลล์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นนักเตะที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้
แม้อาจจะเป็นคนเงียบๆนอกสนาม แต่ เบลล์ คือผู้นำของเรือใบสีฟ้าไล่ล่าความสำเร็จในช่วงยุคปี 1960 และติดทีมชาติอังกฤษไป 48 นัด
เบลล์ เคยได้รับบาดเจ็บที่เข่าอย่างรุนแรง แต่เขาลงรับใช้ทีมไปถึง 501 ตลอดระยะเวลา 13 ปี สโมสรให้เกียรติเขาด้วยการตั้งชื่ออัฒจรรย์ตามชื่อของเขา โดยเขาเพิ่งเสียชีวิตไปเมื่อปี 2021
Gettyยายา ตูเร ย้ายมาจาก บาร์เซโลนา ในฐานะมิดฟิลด์ตัวรับ แต่เมื่อมาอยู่กับ แมนฯซิตี้ เขาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ครบเครื่องที่สุดในโลก
ฤดูกาลที่ดีสุดของเขาคือปี 2013-14 ที่เขาช่วยให้เรือใบสีฟ้าคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกสมัยที่ 2 โดยที่เขาทำไปถึง 20 ประตู
Getty Imagesเดอ บรอยน์ เป็นกำลังสำคัญของ แมนฯซิตี้ มาตลอดนับตั้งแต่ย้ายมาจาก โวล์ฟบวร์ก เมื่อปี 2015 ช่วยทีมคว้าแชมป์ รวมถึงรางวัลเกียรติยศส่วนตัวมากมาย
ดาวเตะชาวเบลเยียมเป็นหนึ่งในสุดยอดนักเตะของยุคนี้ และถูกยกให้เป็นเพลย์เมคเกอร์ชาวต่างชาติที่ยิ่งใหญ่สุดของพรีเมียร์ลีก
Getty Imagesซิลบา ถูกยกให้เป็นหนึ่งในนักเตะต่างชาติที่ดีสุดของพรีเมียร์ลีกในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เป็นกำลังหลักของ แมนฯซิตี้ ในการไล่ล่าความสำเร็จ ด้วยสไตล์การเล่นอันชาญฉลาด
นอกจากระดับสโมสรแล้ว ซิลบา ยังประสบความสำเร็จอย่างมากกับทีมชาติสเปน โดยเขาคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 1 สมัย และแชมป์ยูโร 2 สมัย
Getty Imagesอเกวโร คือกองหน้าที่ยิ่งใหญ่สุดตลอดกาลของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อย่างไม่ต้องสงสัย โดยเขาทำไปถึง 260 ประตู ตลอดกว่าทศวรรษที่รับใช้สโมสร
ประตูชัยในนาทีที่ 94 ของเขาเมื่อปี 2012 ที่กระชากแชมป์พรีเมียร์ลีกมาจาก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะถูกพูดถึงจากแฟนเรือใบสีฟ้าไปตลอดกาล
