ม้ามืดทีมสุดท้าย : แข้งปอร์โต้ชุดแชมป์ยูโรป้าลีก 2011 ตอนนี้อยู่ที่ไหน?

เฮลตัน เป็นมือหนึ่งของ ปอร์โต้ ในปีดังกล่าว และช่วยให้ทีมเก็บคลีนชีตได้ 4 นัดในยูโรป้าลีก รวมถึงนัดชิงชนะเลิศ หลังจากนั้นเจ้าตัวลงเล่นกับทีมดังโปรตุเกสมาตลอดจนแขวนถุงมือไปเมื่อปี 2016 โดยลงเฝ้าเสาไปทั้งสิ้น 332 นัดให้สโมสร

แบ็คขวาชาวโรมาเนียได้โอกาสลงสนามในนัดชิงชนะเลิศเนื่องจาก จอร์จ ฟูซิเล เจ้าของตำแหน่งมีอาการบาดเจ็บ แต่เขาก็ทำหน้าที่ได้อย่างไม่มีข้อบกพร่อง หลังคว้าแชมป์ปีดังกล่าว

คริสเตียน อยู่กับปอร์โต้ อีกเพียงหนึ่งปีก่อนจะย้ายไป เรอัล ซาราโกซา และปัจจุบันในวัย 38 ปี ยังเล่นฟุตบอลอยู่กับ ราปิด บูคูเรสติ ในลีกประเทศบ้านเกิด

ตลอด 7 ปีกับ ปอร์โต้, โรลันโด้ คว้าแชมป์ลีกโปรตุเกสได้ถึง 4 สมัย กับบอลถ้วยในประเทศอีก 4 รายการ ก่อนที่ในปี 2015 จะย้ายไปอยู่กับ โอลิมปิค มาร์กเซย

เมื่อปี 2020 เขาย้ายกลับมาเล่นในแดนฝอยทองอีกครั้งกับ บราก้า ก่อนจะถูกปล่อยตัวเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2022 และยังไร้สังกัดจนถึงตอนนี้

คู่หูแนวรับของ โรลันโด้ อยู่กับ ปอร์โต้ 4 ฤดูกาลก่อนจะย้ายไป บาเลนเซีย เมื่อปี 2014 และลงเล่นให้ทีมดังแห่งสเปนเพียงฤดูกาลเดียวก็ถูก แมนฯซิตี้ ซื้อไปร่วมทีม ก่อนที่ในปี 2020 จะกลับมาค้าแข้งในโปรตุเกสอีกครั้งกับ เบนฟิก้า

อัลบาโร ค้าแข้งอยู่กับ ปอร์โต้ 3 ฤดูกาล ก่อนถูก อินเตอร์ มิลาน ดึงตัวไปร่วมทีมเมื่อปี 2012 ด้วยค่าตัว 10 ล้านยูโร แต่ไม่ประสบความสำเร็จนัก จากนั้นเจ้าตัวชีพจรลงเท้าย้ายไปเล่นที่อเมริกาใต้ทั้งในอาร์เจนตินา, อุรุกวัย และ เวเนซูเอลา ปัจจุบันแขวนสตั๊ดไปเรียบร้อยแล้ว

เฟร์นันโด ใช้เวลา 7 ปีกับ ปอร์โต้ และเป็นกำลังสำคัญช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ยูโรป้าลีกปี 2011 ก่อนย้ายไปเล่นกับ แมนฯซิตี้ ด้วยค่าตัว 15 ล้านยูโร

หลังย้ายออกจากถิ่นเรือใบสีฟ้าเมื่อปี 2017 เขาไปเล่นในตุรกีกับ กาลาตาซาราย 2 ปี ก่อนจะมาอยู่กับ เซบีญา ในปัจจุบัน

กัวริน ทำไป 5 ประตูกับ 3 แอสซิสต์ ให้กับ ปอร์โต้ ในศึกยูโรป้าลีกปี 2011 เป็นหนึ่งในสตาร์คนสำคัญของทีมชุดดังกล่าว

หลังย้ายจาก ปอร์โต้ เมื่อปี 2012 เจ้าตัวไปเล่นให้กับ อินเตอร์ มิลาน รวมถึง เซี่ยงไฮ้ เสิ่นหัว ในประเทศจีน และ วาสโก ดา กามา ในบราซิล ปัจจุบันแขวนสตั๊ดเรียบร้อยแล้ว

มูตินโญ ลงเล่นให้ ปอร์โต้ อยู่สามปีก่อนย้ายมาค้าแข้งในฝรั่งเศสกับ โมนาโก และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ลีกเอิงได้เมื่อฤดูกาล 2016-17

กองกลางเชิงสูงย้ายมาเล่นในพรีเมียร์ลีกกับ วูล์ฟแฮมตันเมื่อปี 2018 และเป็นกำลังหลักของทัพหมาป่าจนถึงปัจจุบัน

ในช่วงที่อยู่กับ ปอร์โต้ กองหน้าชาวบราซิลถือเป็นนักเตะที่เนื้อหอมที่สุดคนหนึ่งในยุโรป แต่เขากลับหักอกบรรดาบิ๊กทีมเลือกย้ายไป เซนิต เซนต์ ปีเตอร์สเบิร์ก ในปี 2012 ด้วยค่าตัวกว่า 40 ล้านยูโร อีก 4 ปีต่อมาเจ้าตัวตัดสินใจย้ายมาเล่นในประเทศจีนกับ เซี่ยงไฮ้ SIPG

ปัจจุบันในวัย 36 ปี เขากลับไปค้าแข้งในลีกประเทศบ้านเกิดอีกครั้งกับ แอตเลติโก มิเนโร

ฟัลเกา ลงสนามไป 14 นัดในยูโรป้าลีกปีดังกล่าวและทำไป 17 ประตู ซึ่งยังเป็นสถิติของรายการมาจนถึงทุกวันนี้

หลังจบฤดูกาลนั้น แอตฯมาดริด ดึงตัวเขาไปร่วมทีมด้วยค่าตัว 40 ล้านยูโร ก่อนที่อีก 2 ปีต่อมาจะย้ายมาเล่นในลีกเอิงกับ โมนาโก ดาวยิงชาวโคลอมเบียถูกปล่อยยืมให้ แมนฯยูไนเต็ด และ เชลซี ยืมตัว แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ก่อนจะย้ายไปเล่นในตุรกีกับ กาลาตาซาราย

ปัจจุบันในวัย 37 ปี เขาเล่นอยู่กับ ราโย บาเยกาโน ในสเปน

วาเรลา ลงเล่นให้ ปอร์โต้ ไปทั้งสิ้น 8 ฤดูกาล ก่อนย้ายไปอยู่กับ เวสต์บรอมวิช, ปาร์มา และ เคย์เซริสปอร์

ในปี 2019 เขาย้ายกลับมาเล่นในโปรตุเกสอีกครั้งกับ เบเลเนนเซส ก่อนจะเล่นให้ เอฟซี ปอร์โต้ ชุดบี ในปัจจุบัน

ในปี 2012 เบลลุสชี ถูกปล่อยตัวให้ บูร์ซาสปอร์ ในลีกประเทศตุรกี ก่อนที่จะย้ายกลับไปเล่นในลีกประเทศบ้านเกิดอย่าง อาร์เจนตินา กับ ครูซ อาซุล, ซาน ลอเรนโซ และ ลานุส ก่อนที่ปัจจุบันจะเล่นอยู่กับ เอสตูเอนเดส

ตอนอยู่กับ ปอร์โต้, ฮาเมส ยังเป็นเพียงดาวรุ่ง แต่อีกไม่กี่ปีต่อมาเขากลายเป็นยอดมิดฟิลด์ที่ได้รับความสนใจจากบรรดาบิ๊กทีมทั่วยุโรป โดยเจ้าตัวมีโอกาสลงเล่นให้ยอดทีมของยุโรปทั้ง โมนาโก, เรอัล มาดริด และ บาเยิร์น มิวนิค

ปัจจุบัน เขายังค้าแข้งในยุโรปอยู่กับ โอลิมเปียกอส

หลังประสบความสำเร็จกับ ปอร์โต้ อดีตมือขวาของ โจเซ มูรินโญ ย้ายไปคุม เชลซี แต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร จากนั้นเจ้าตัวไปพิสูจน์ฝีมือกับอีกหลายสโมสรทั้ง ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์, เซนิต รวมถึง เซี่ยงไฮ้ SIPG ก่อนจะมาอยู่กับ มาร์กเซย และลาออกหลังมีปัญหากับบอร์ดบริหารของทีม