ฟุตบอลโลก 2018 : ส่องผลงานนักเตะเชลซี

กองหน้าซึ่งถูกยืมตัวไปให้โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ใช้งานเมื่อฤดูกาลที่แล้ว ได้ลงเล่นสามนัดในฟุตบอลโลกครั้งนี้ในฐานะตัวสำรอง และทำได้ 1 ประตูในเกมถล่มตูนิเซีย แต่แฟนบอลน่าจะจำเขาได้แม่นยำจากจังหวะดีใจที่เตะบอลไปโดนเสาประตูก่อนเด้งมาเข้าหน้าตัวเองอย่างจัง

ยิ่งกว่าการไม่มีสกอร์ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ตลอด 546 นาทีที่เขายืนอยู่ในสนามให้ทีมชาติฝรั่งเศส ชิรูด์ไม่มีโอกาสยิงตรงกรอบเลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่เขาก็น่าจะมีความสุขดีกับการได้ชูถ้วยแชมป์เมื่อจบการแข่งขัน

3 ประตู 2 แอสซิสต์ และลีลาการเลื้อยเขย่าโลก ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย ถ้าจะพูดว่าเขาคือคนหนึ่งที่โดดเด่นที่สุดของฟุตบอลโลกที่รัสเซีย

ขยันวิ่งช่วยทั้งรุกและรับอย่างขันแข็ง แต่เมื่อทีมต้องการเกมรุกที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น เขาคือคนแรกๆ ที่โดนเปลี่ยนตัวออกเสมอ

ไล่ตัดเกมอย่างดุดันตลอดทั้งทัวร์นาเมนต์ โดยเฉพาะฟอร์มที่โดดเด่นในรอบรองชนะเลิศกับเบลเยียม และพิสูจน์อีกครั้งว่าในตำแหน่งตัวตัดเกม เขาคือคนที่ดีที่สุดในโลก

เล่นได้ตามมาตรฐาน แต่ก็ไม่มีอะไรโดดเด่น และจอดอยู่แค่รอบแรกเท่านั้นพร้อมกับทีมชาติไนจีเรีย

ลงเล่นเพียงนัดเดียวที่แพ้เบลเยียม 1-0 นัดสุดท้ายของรอบแบ่งกลุ่ม และไม่มีอะไรให้จดจำเป็นพิเศษ

ลงเล่นในเกมรอบแบ่งกลุ่มนัดที่สองที่พบเยอรมัน และเป็นเกมเดียวที่เยอรมันชนะในฟุตบอลโลกครั้งนี้

เล่นได้สม่ำเสมอให้เกมรับของทีมชาติเดนมาร์ก น่าเสียดายที่พวกเขาต้องตกรอบเพราะการดวลจุดโทษต่อโครเอเชีย

ไม่ได้ลงสนามเลยแม้แต่นาทีเดียวในฟุตบอลโลกครั้งนี้

ได้รับบทบาทเป็นมือ 1 ทีมชาติแบบงงๆ และทำพลาดอย่างร้ายแรงจนทีมเสียประตูในเกมนัดที่สองในรอบแบ่งกลุ่มกับโครเอเชีย หลังจากนั้นเจ้าตัวก็ไม่ได้ลงสนามอีกเลย 

ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย การได้รางวัลถุงมือทองคำเมื่อจบทัวร์นาเมนต์บ่งบอกทุกอย่างในตัวอยู่แล้วว่าเขาคือคนที่ดีที่สุด