pressbox / Gettyผลบอลโลก 2022 วันที่ 8 : สเปนเจ๊าเยอรมัน, ญี่ปุ่นโดนดับซ่า, เบลเยียมพ่าย, แคนาดาร่วง
Getty Imagesญี่ปุ่น 0-1 คอสตาริกา
(0-1 เคย์เชอร์ ฟุลเลอร์ น.81)
คู่แรกในช่วง 17.00 น. เป็นเกมที่สองของกลุ่มอี ะหว่าง ญี่ปุ่น ลงเล่นที่สนามอาห์หมัด บิน อาลีสเตเดียมในเมืองอัล รายยานของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ คอสตาริกา
ครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0กระทั่งครึ่งหลังกลายเป็นฝั่งของคอสตาริกามาได้ประตูขึ้นนำ ในช่วงท้ายเกมนาทีที่ 81 จากจังหวะที่เยลท์ซิน เตเฮด้า ไหลบอลให้เคย์เชอร์ ฟูลเลอร์ ได้ปั่นด้วยซ้ายแล้วทาง ชูอิจิ กอนดะ พุ่งปัดไม่ออกย้อยเสียบสามเหลี่ยมเข้าไป ส่งให้ทีมจากโซนคอนคาเคฟออกนำ 1-0
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นคอสตาริกาชนะไป 1-0 ส่งผลให้ทั้งสองทีมมี 3 แต้มเท่ากัน แต่ว่าญี่ปุ่นมีผลต่างได้เสียดีกว่า จึงรั้งอันดับ 2 ของกลุ่มอี ส่วนคอสตาริกาอยู่อันดับ 3 และทั้งสองทีมก็ต้องไปลุ้นเข้ารอบในเกมต่อไป
Getty Imagesเบลเยียม 0-2 โมร็อกโก
(0-1 อับเดลฮามิด ซาบิรีน.73, 0-2 ซากาเรีย อาบูคิลาล น.90+2)
คู่ที่ 2 ในช่วง 20.00 น. เป็นเกมที่สองของกลุ่มเอฟ ระหว่าง เบลเยียม ลงเล่นที่สนามอัล ธูมามา สเตเดียม ในกรุงโดฮา เมืองหลวงของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ โมร็อกโก
ครึ่งแรกเป็นฝั่งของโมร็อกโกส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายในช่วงทดเวลานาทีที่ 45+3 จากลูกฟรีคิกทางกราบขวาที่ฮากิม ซิเย็ค ปั่นโค้งลึกเสีบบตาข่ายเข้าไปเลย ทว่าเมื่อผู้ตัดสินเช็ค VAR ก็ไม่ให้เป็นประตู เพราะว่าดันมีโรแมง ซาอิสส์ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้าดันโฉบไปพยายามจะโหม่ง แม้ว่าจะไม่โดนบอลก็ตาม ทำให้จบครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังโมร็อกโกมาทำประตูขึ้นนำจนได้ ในนาทีที่ 73 จากลูกฟรีคิกทางกราบซ้ายที่ อับเดลฮามิด ซาบิรี หลอกยิงยัดเข้าเสาแรกผ่านมือ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ เข้าไป ส่งให้ทีมจากแอฟริกาออกนำ 1-0
ช่วงทดเวลานาทีที่ 90+2 โมร็อกโกมาได้ประตูที่สองปิดกล่อง จากจังหวะที่ฮากิม ซิเย็ค ลากบอลไปสุดเส้นหลังฝั่งขวาก่อนจ่ายเข้ากลางให้ซากาเรีย อาบูคิลาล ตวัดยิงด้วยขวายัดเสาแรกอย่างเด็ดขาด ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นโมร็อกโกชนะไป 2-0
Getty Imagesโครเอเชีย 4-1 แคนาดา
(0-1 อัลฟองโซ เดวีส์ น.61 1-1 อังเดร ครามาริช น.36, 2-1 มาร์โก ลิวายา น.44, 3-1 อังเดร ครามาริช น.70, 4-1 ลอฟโร มาเยอร์ น.90+4)
คู่ที่ 3 ในช่วง 23.00 น. เป็นเกมที่สองของกลุ่มเอฟ ระหว่าง โครเอเชีย ลงเล่นที่สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนลสเตเดียม ในเมืองอัล รายยานของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ แคนาดา
ออกสตาร์ทเกมเพียงแค่ 2 นาทีเท่านั้น เป็นฝั่งของแคนาดามาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ เทจอน บิวแคแนน เปิดบอลทางกราบขวาเข้าเขตโทษให้ อัลฟองโซ เดวีส์ เทกตัวโหม่งตุงตาข่าย ส่งให้ทีมจากโซนคอนคาเคฟออกนำ 1-0
แต่แล้วนาทีที่ 36 โครเอเชียก็มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ อิวาน เปริซิช ไหลบอลให้ อังเดร ครามาริช หลุดไปยิงด้วยซ้ายอย่างเด็ดขาด ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1ต่อเนื่องด้วยช่วงท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 44 โครเอเชียมาได้ประตูแซงนำ จากจังหวะที่โยซิป ยูราโนวิช ไหลบอลให้มาร์โก ลิวายา ตั้งป้อมกดด้วยขวาหน้าเขตโทษอย่างเฉียบคม ช่วยให้รองแชมป์เก่าพลิกขึ้นนำ 2-1และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังโครเอเชียมาบวกลูกสามเพิ่มได้อีก ในนาทีที่ 70 จากจังหวะที่ อิวาน เปริซิช เปิดบอลทางกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ อังเดร ครามาริช แต่งเข้าซ้ายไปยิงเรียดเบียดโคนเสาไกลเข้าไป เป็นลูกสองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ส่งให้ทีมตาหมากรุกหนีห่างเป็น 3-1
ช่วงทดเวลานาทีที่ 90+4 โครเอเชียยังมาได้ประตูที่สี่เพิ่มเติมอีก จากความผิดพลาดของ คามาล มิลเลอร์ ซึ่งเตะสกัดบอลไปเข้าทาง มิสลาฟ ออร์ซิช ลากไปถวายพานต่อให้ ลอฟโร มาเยอร์ แปด้วยซ้ายจ่อ ๆ อย่างง่ายดาย ช่วยให้รองแชมป์เก่าทิ้งห่าง 4-1
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นโครเอเชียชนะไป 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 4 แต้ม ขึ้นนำจ่าฝูงกลุ่มเอฟ ส่วนแคนาดาแพ้รวดสองเกม ไม่มีแม้แต่แต้มเดียว ตกรอบแบ่งกลุ่มแน่นอนแล้ว
Gettyสเปน 1-1 เยอรมัน
(1-0 อัลบาโร โมราต้า น.62, 1-1 นิคลาส ฟุลล์ครุก น.83)
คู่สุดท้ายในช่วง 2.00 น. เป็นเกมที่สองของกลุ่มอี ระหว่าง สเปน ลงเล่นที่สนามอัล บัยต์ สเตเดียมในเมืองอัล คอร์ ของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ เยอรมัน
เกมในช่วง 45 นาทีแรก แม้ว่าฝั่งของสเปนจะครองบอลบุกได้มากกว่า แต่กลายเป็นเยอรมันที่ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายในนาทีที่ 40 จากลูกฟรีคิกทางกราบขวาที่ โยซัว คิมมิช เปิดให้ อันโตนิโอ รูดิเกอร์ โหม่งเข้าไป ทว่าก็ถูก VAR เช็คล้ำหน้าเสียก่อน ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกันอยู่ 0-0
ครึ่งหลังกลายเป็นฝั่งของสเปนมาได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 62 จากจังหวะที่ จอร์ดี้ อัลบา ไหลบอลทางกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ อัลบาโร โมราต้า โฉบมาดีดด้วยขวาระยะเผาขนไม่เหลือ ส่งให้กระทิงดุออกนำ 1-0
แต่แล้วช่วงท้ายเกมนาทีที่ 83 เยอรมันก็มาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ เลรอย ซาเน ไหลบอลให้ จามาล มูเซียลา คล้องบอลไปเข้าทาง นิคลาส ฟุลล์ครุก ซัดด้วยขวาเต็มข้ออย่างเด็ดขาด ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมด้วยผลเสมอ 1-1 แบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยสเปนนำเป็นจ่าฝูงของกลุ่มอี มีเพิ่มเป็น 4 แต้ม ส่วนเยอรมันเก็บแต้มแรกได้ในเวิลด์คัพ 2022 อยู่อันดับ 4 สุดท้ายของกลุ่มอี โดยทั้งสองทีมยังต้องลุ้นเข้ารอบในเกมต่อไป
โฆษณา