Gettyผลบอลโลก 2022 วันที่ 7 : ฝรั่งเศสลิ่ว, อาร์เจนตินาปลดล็อค, โปแลนด์ดับซ่าซาอุฯ, ออสเตรเลียเฮ
Getty Imagesตูนิเซีย 0-1 ออสเตรเลีย
(0-1 มิตเชลล์ ดุ๊ก น.23)
คู่แรกในช่วง 17.00 น. เป็นเกมที่สองของกลุ่มดี ระหว่าง ตูนิเซีย ลงเล่นที่สนามอัล จานูบ สเตเดียม ในเมืองอัล วาคราห์ ของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ ออสเตรเลีย
ครึ่งแรกเป็นฝั่งของออสเตรเลียมาได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 22 จากจังหวะที่ เคร็ก กู๊ดวิน เปิดบอลทางกราบซ้ายไปแฉลบขาของ โมฮาเหม็ด ดราเกอร์ แล้วย้อยเข้าเขตโทษไปถึง มิตเชลล์ ดุ๊ก เทกตัวโหม่งเข้าเสาไกลอย่างเด็ดขาด ส่งให้ซอคเกอรูส์ออกนำ 1-0
ครึ่งหลังไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีกแต่อย่างใด ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นออสเตรเลียชนะไป 1-0 เก็บสามแต้มได้สำเร็จ
Getty Imagesโปแลนด์ 2-0 ซาอุดีอาระเบีย
(1-0 ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ น.39, 2-0 โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ น.82)
คู่ที่ 2 ในช่วง 20.00 น. เป็นเกมที่สองของกลุ่มซี ระหว่าง โปแลนด์ ลงเล่นที่สนามเอดูเคชั่น ซิตี้ สเตเดียม ในเมืองอัล รายยาน พบกับ ซาอุดีอาระเบีย
ครึ่งแรกเป็นฝั่งของโปแลนด์มาได้ประตูขึ้นนำ 1-0 ในนาทีที่ 39 จากจังหวะที่ แม็ตตี้ แคช ไหลบอลทางกราบขวาเข้ากลางให้ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ โฉบไปยกบอลหลบผู้รักษาประตูของซาอุฯ แล้วตามไปเกี่ยวบอลจากสุดเส้นหลังก่อนไหลย้อนกลับมาให้ ปิโอเตอร์ ซีลินสกี้ ตวัดยิงด้วยขวาตุงตาข่าย
ช่วงทดเวลานาทีที่ 45+1 ผู้ตัดสินเช็ค VAR จังหวะที่ คริสเตียน บีลิค ไปสกัดใส่ ซาเลห์ อัลเชรี ล้มลงไป ก่อนให้เป็นจุดโทษของซาอุฯ ทว่าผู้สังหารอย่าง ซามเลม อัลเดาซารี กลับยิงติดเซฟ วอยเชียค เชสนี รวมถึงตัวซ้ำดาบสองอย่าง โมฮัมเหม็ด อัลบูรอยค์ ยังยิงไปโดน เชสนี ปัดทิ้งข้ามคานด้วย ทำให้จบครึ่งแรกยังเป็นโปแลนด์นำอยู่ 1-0
ครึ่งหลังโปแลนด์มาได้ลูกสองปิดกล่อง ในนาทีที่ 82 จากความผิดพลาดของ อับดูเลลาห์ อัลมัลกี ซึ่งจับบอลลั่นหน้าเขตโทษตัวเองไปเข้าทาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ฉกไปแปด้วยซ้ายจ่อ ๆ ไม่เหลือ เป็นประตูแรกในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายของกองหน้าจากบาร์เซโลนาด้วย และทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นโปแลนด์ชนะไป 2-0
Getty Imagesฝรั่งเศส 2-1 เดนมาร์ก
(1-0 คีลิยัน เอ็มบัปเป้ น.61, 1-1 อันเดรียส คริสเตนเซน น.68, 2-1 คีลิยัน เอ็มบัปเป้ น.86)
คู่ที่ 3 ในช่วง 23.00 น. เป็นเกมที่สองของกลุ่มดี ระหว่าง ระหว่าง ฝรั่งเศส ลงเล่นที่สนามสเตเดียม 974 ในกรุงโดฮา เมืองหลวงของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ เดนมาร์ก
ครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0กระทั่งครึ่งหลังนาทีที่ 61 เป็นฝั่งของฝรั่งเศสมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ ไหลบอลไปสุดเส้นหลังฝั่งซ้ายให้ เตโอ แอร์กน็องเดซ วิ่งตามไปจ่ายย้อนชิ่งกลับมาให้ เอ็มบัปเป้ แปด้วยขวาจ่อ ๆ ตุงตาข่าย ส่งให้ตราไก่ขึ้นนำ 1-0
ทว่าถัดมานาทีที่ 68 เดนมาร์กก็มาได้ประตูตีเสมอ จากลูกเตะมุมฝั่งขวาที่ คริสเตียน อีริคเซน เปิดให้โยอาคิม แอนเดอร์เซน โหม่งเช็ดต่อให้ อันเดรียส คริสเตนเซน โฉบมาโหม่งอย่างเด็ดขาด ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1
แต่แล้วช่วงท้ายเกมนาทีที่ 86 ฝรั่งเศสก็มาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะที่ อองตวน กรีซมันน์ เปิดบอลทางกราบขวาเข้ากลางให้ คีลิยัน เอ็มบัปเป้ โฉบไปใช้หน้าขาขวากระแทกโดนบอลระยะเผาขนไม่เหลือ เป็นลูกสองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ช่วยให้แชมป์เก่านำอีกรอบ 2-1
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นฝรั่งเศสชนะไป 2-1 เก็บ 6 แต้มเต็ม จากการชนะ 2 นัดรวด นำจ่าฝูงกลุ่มดี พร้อมตีตั๋วผ่านเข้ารอบ 16 ทีมได้เป็นทีมแรกแน่นอนแล้ว ส่วนเดนมาร์กยังมีแค่แต้มเดียว อยู่อันดับ 3 ของกลุ่มดี ต้องลุ้นเข้ารอบในเกมต่อไป
Getty Imagesอาร์เจนตินา 2-0 เม็กซิโก
(1-0 ลิโอเนล เมสซี น.64, 2-0 เอ็นโซ เฟร์นานเดซ น.87)
คู่สุดท้ายในช่วง 2.00 น. เป็นเกมที่สองของกลุ่มซี ระหว่าง อาร์เจนตินา ลงเล่นที่สนามลูเซล สเตเดียมในเมืองลูเซล ของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ เม็กซิโก
ครึ่งแรกสกอร์ยังเสมอกันอยู่ 0-0กระทั่งครึ่งหลังเป็นฝั่งของอาร์เจนตินามาได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 64 จากจังหวะที่ อังเคล ดิ มาเรีย ไหลบอลทางกราบขวาเข้ากลางให้ ลิโอเนล เมสซี ตั้งป้อมซัดด้วยซ้ายสไตล์ถนัด ส่งบอลพุ่งเรียดเบียดโคนเสาเข้าไปอย่างเฉียบคม ส่งให้ฟ้าขาวออกนำ 1-0
ต่อด้วยช่วงท้ายเกมนาทีที่ 87 อาร์เจนตินามาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายที่ โรดริโก้ เด ปอล เล่นสั้นจ่ายให้ ลิโอเนล เมสซี ไหลต่อให้ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ปั่นโค้ง ๆ ด้วยขวาเสียบเสาไกลอย่างสวยงาม ช่วยให้ฟ้าขาวหนีห่างเป็น 2-0
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นอาร์เจนตินาชนะไป 2-0 เก็บสามแต้ม รั้งอันดับ 2 ของกลุ่มซี ส่วนเม็กซิโกยังมีแค่แต้มเดียว อยู่อันดับ 4 สุดท้ายของกลุ่มซี โดยทั้งสองทีมต้องไปลุ่นเข้ารอบในเกมต่อไป
โฆษณา