Getty/GOALผลบอลโลก 2022 วันที่สี่ : ญี่ปุ่นพลิกดับเยอรมัน, สเปนยิง 7-0, เบลเยียมเฉือน, โครเอเชียเจ๊า
Getty Imagesโมร็อกโก 0-0 โครเอเชีย
คู่แรกในช่วง 17.00 น. เป็นเกมแรกของกลุ่มเอฟ ระหว่าง โมร็อกโก ลงเล่นที่สนาม อัล บัยต์ สเตเดียม ในเมืองอัล คอร์ ของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ โครเอเชีย
ตลอดทั้ง 90 นาที ทั้งสองทีมสู้กันได้สูสีทีเดียว ทว่าก็แทบจะหาโอกาสจบสกอร์กันแบบจะแจ้งไม่ได้เลยทั้งคู่ ทำให้สุดท้ายจบเกมด้วยผลเสมอ 0-0 แบ่งกันไปทีมละแต้ม และกลายเป็นคู่ที่สามแล้วในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ที่จบด้วยสกอร์ 0-0
Getty Imagesเยอรมัน 1-2 ญี่ปุ่น
(1-0 อิลคาน กุนโดกัน น.33 (จุดโทษ), 1-1 ริสึ โดอัน น.75, 1-2 ทาคุมะ อาซาโนะ น.83)
คู่ที่สองในช่วง 20.00 น. เป็นเกมแรกของกลุ่มอี ระหว่าง เยอรมัน ลงเล่นที่สนามคาลิฟา อินเตอร์เนชันแนล สเตเดียม ในกรุงโดฮา เมืองหลวงของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ ญี่ปุ่น
ครึ่งแรกเป็นเยอรมันมาได้จุดโทษ ในนาทีที่ 33 จากจังหวะที่ ดาวิด เราม์ ไปโดนชูอิจิ กอนดะ ออกมาสกัดล้มลงไป ก่อนจะเป็น อิลคาย กุนโดกัน รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ส่งให้อินทรีเหล็กออกนำ 1-0
ทว่าครึ่งหลังกลายเป็นหนังคนละม้วน เมื่อในนาทีที่ 75 ญี่ปุ่นมาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ ทาคุมิ มินามิโนะ ตวัดไหลบอลทางกราบซ้ายเข้ากลางไปติดเซฟ มานูเอล นอยเออร์ มาเข้าทาง ริสึ โดอัน แปด้วยซ้ายตุงตาข่าย ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1
ถัดมานาทีที่ 83 ญี่ปุ่นพลิกขึ้นนำ จากจังหวะที่ ทาคุมะ อาซาโนะ แตะบอลหนีตัวประกบอย่าง นิโก้ ชล็อทเทอร์เบ็ค ก่อนยิงมุมแคบด้วยขวาแสกหน้า มานูเอล นอยเออร์ อย่างเด็ดขาด ช่วยให้ทัพซามูไรบลูแซงนำ 2-1
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นญี่ปุ่นเอาชนะไปได้แบบพลิกล็อค 2-1 เก็บสามแต้มได้สำเร็จ พร้อมกลายเป็นตัวแทนจากเอเชียทีมที่สองแล้วที่สร้างเซอร์ไพรส์ในฟุตบอลโลกครั้งนี้ ต่อจากซาดุอีอาระเบียที่พลิกล็อคชนะอาร์เจนตินาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
Getty Imagesสเปน 7-0 คอสตาริกา
(1-0 ดานี โอลโม น.11, 2-0 มาร์โก อเซนซิโอ น.21, 3-0 เฟร์ราน ตอร์เรส น.31 (จุดโทษ), 4-0 เฟร์ราน ตอร์เรส น.54, 5-0 กาบี น.74, 6-0 การ์ลอส โซเลร์ น.90, 7-0 อัลบาโร โมราต้า น.90+2)
คู่ที่สามในช่วง 23.00 น. เป็นเกมแรกของกลุ่มอี ระหว่าง สเปน ลงเล่นที่สนามอัล ธูมามา สเตเดียม ในกรุงโดฮา เมืองหลวงของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ คอสตาริกา
เริ่มเกมได้ 11 นาที เป็นฝั่งของสเปนมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ กาบี งัดบอลไปแฉลบการสกัดของแนวรับคอสตาริกาปลิ้นเข้าเขตโทษไปถึง ดานี โอลโม หมุนตัวเกี่ยวบอลแล้วดีดด้วยขวาสวนตัว เกย์ลอร์ นาวาส อย่างเหนือชั้น ส่งให้กระทิงดุออกนำ 1-0
ถัดมานาทีที่ 21 สเปนมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ จอร์ดี้ อัลบา ไหลบอลทางกราบซ้ายเข้ากลางให้ มาร์โก อเซนซิโอ โฉบมาตวัดยิงด้วยซ้ายไม่เหลือ ช่วยให้กระทิงดุหนีห่างเป็น 2-0
จากนั้นนาทีที่ 31 สเปนมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ จอร์ดี้ อัลบา ไปโดน ออสการ์ ดูอาร์เต้ สกัดล้มลงไป ก่อนจะเป็น เฟร์ราน ตอร์เรส รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ส่งให้กระทิงดุนำห่าง 3-0ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังสเปนมาบวกลูกสี่ฉีกหนีไปอีก ในนาทีที่ 54 จากจังหวะที่ กาบี จ่ายบอลทางกราบขวาเข้าเขตโทษให้ เฟร์ราน ตอร์เรส แต่งบอลแรกไปติดแนวรับคอสตาริกา แต่ยังตามไปพลิกตัวยิงด้วยซ้ายตุงตาข่าย เป็นลูกสองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ช่วยให้กระทิงดุทิ้งห่าง 4-0
ต่อด้วยนาทีที่ 74 สเปนยังมาได้ประตูที่ห้าเพิ่มเติมอีก จากจังหวะที่ อัลบาโร โมราต้า เปิดบอลทางกราบซ้ายย้อยเข้ากลางให้ กาบี วอลเลย์ด้วยขวาแบบเฉือนไซด์ก้อยเช็ดเสาเข้าไป ส่งให้กระทิงดุนำห่าง 5-0
ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 90 สเปนมาบวกลูกหกครบครึ่งโหลพอดี จากจังหวะที่ นิโก้ วิลเลียมส์ เปิดบอลทาบกราบขวาเข้าเขตโทษไปโดน เกย์ลอร์ นาวาส พุ่งปัดมาเข้าทาง การ์ลอส โซเลร์ โฉบมาแปด้วยขวาจ่อ ๆ ไม่เหลือ ช่วยให้กระทิงดุหนีห่าง 6-0
ยังไม่หมดแค่นี้ เมื่อช่วงทดเวลานาทีที่ 90+2 สเปนมาได้ประตูที่เจ็ด จากจังหวะที่ ดานี โอลโม แปะบอลให้ อัลบาโน โมราต้า ยิงเรียดด้วยซ้ายพุ่งเบียดเสาเข้าไปอย่างเฉียบคม ส่งให้กระทิงดุทิ้งห่างถึง 7-0
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นสเปนถล่มเอาชนะไปได้แบบขาดลอยถึง 7-0 ประเดิมนัดแรกในฟุตบอลโลก 2022 ได้สมชื่อกระทิงดุ
Gettyเบลเยียม 1-0 แคนาดา
(1-0 มิชิ บัตชัวยี น.44)
ฟุตบอลโลก 2022 นัดแรกของกลุ่มเอฟ ระหว่าง เบลเยียม ลงเล่นที่สนามอาห์หมัด บิน อาลี สเตเดียม ในเมืองอัล รายยานของเจ้าภาพกาตาร์ พบกับ แคนาดา
เริ่มเกมเพียงแค่ 10 นาที ผู้ตัดสินเช็ค VAR จังหวะที่ เทจอน บิวแคแนน หวดบอลไปโดนแขนของ ยานนิค การ์ราสโก้ ก่อนให้จุดโทษแก่แค่นาดา พร้อมแจกใบเหลืองให้ การ์ราส์โก้ ข้อหาทำแฮนด์บอลด้วย ทว่าผู้สังหารอย่าง อัลฟองโซ เดวีส์ กลับยิงไปโดน ธิโบต์ กูร์ตัวส์ พุ่งเซฟได้
กระทั่งนาทีที่ 44 กลายเป็นเบลเยียมมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ โทบี อัลเดอร์แวเรลด์ วางบอลยาวตั้งแต่แดนตัวเองให้ มิชิ บัตชัวยี หลุดไปยิงด้วยซ้ายอย่างเด็ดขาด ส่งให้ปีศาจแดงแห่งยุโรปออกนำ 1-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้
ครึ่งหลังไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นเบลเยียมชนะไป 1-0 เก็บสามแต้มได้สำเร็จ
โฆษณา