เบรดี้ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผลผลิดที่ดีสุดอะคาเดมี อาร์เซนอล โดยเขาเข้าร่วมกับทีมตอนอายุ 15 ปี และได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่เมื่ออายุเพียง 17 ปี
ดาวเตะชาวไอริชค้าแข้งอยู่กับไอ้ปืนใหญ่ 7 ฤดูกาล ลงสนามไปมากกว่า 300 นัด และช่วยทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ปี 1979 ก่อนย้ายไปยูเวนตุส
โอเลียรี คือเจ้าของสถิติลงสนามมากสุดของ อาร์เซนอล เขาเซ็นสัญญาเข้าอะคาเดมีของทีมเมื่อปี 1973 และก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในอีกสองปีต่อมา
ดาวเตะชาวไอร์แลนด์ลงเล่นให้ไอ้ปืนใหญ่ไป 722 นัด คว้าแชมป์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 2 สมัย และ ลีกคัพ 2 สมัย
Gettyโรคาสเซิล เข้าร่วมทีมเยาวชนของ อาร์เซนอลในปี 1982 และเปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ในอีก 3 ปีต่อมา คว้าแชมป์ลีก 2 สมัย และลีกคัพ 1 สมัย ก่อนถูกปล่อยให้ ลีดส์ ยูไนเต็ดในปี 1981
มีนักเตะไม่กี่คนที่จะครองใจแฟนบอลไอ้ปืนใหญ่ได้เหมือนเขา โดยแฟนๆยังคงร้องเพลงที่มีชื่อของเขาจนถึงปัจจุบัน
โรคาสเซิล เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 31 มีนาคม ปี 2001 ด้วยวัยเพียง 33 ปี หลังต่อสู้กับโรคมะเร็งมาอย่างยาวนาน
Getty Imagesโธมัส อาจเป็นนักเตะที่ยิงหนึ่งในประตูที่สำคัญสุดในประวัติศาสตร์ให้ อาร์เซนอล เมื่อเขายิงประตูในช่วงทดเวลาเจ็บใส่ ลิเวอร์พูล ที่แอนฟิลด์ ช่วยให้ทีมชนะ 2-0 คว้าแชมป์ลีกฤดูกาล 1988-89 มาครองด้วยผลต่างประตูได้เสียที่ดีกว่า
มิดฟิลด์รายนี้คว้าแชมป์ลีกเพิ่มให้กับตัวเองได้อีกสมัยในปี 1991 ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ ลิเวอร์พูล
Gettyอดัมส์ คือกัปตันทีมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของ อาร์เซนอล เขาเซ็นสัญญากับอะคาเมีของทีมเมื่อปี 1980 ก่อนได้ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ในอีกสามปีต่อมา
แนวรับทีมชาติอังกฤษได้รับแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมตั้งแต่อายุเพียง 21 ปี ลงเล่นไป 669 นัด โดยเขาคว้าดับเบิ้ลแชมป์กับไอ้ปืนใหญ่ได้ถึงสองครั้งในปี 1998 และ 2002
โดยรวมแล้วเขาคว้าแชมป์ลีก 4 สมัย, เอฟเอ คัพ 3 สมัย, ลีกคัพ 2 สมัย และ คัพ วินเนอร์ส คัพ 1 สมัย
Gettyเมอร์สัน เข้ามาอยู่กับอะคาเดมีของ อาร์เซนอล เมื่อปี 1984 และเปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ในอีกสองปีต่อมา และเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมวัยหนุ่มที่ จอร์จ เกรแฮม สร้างขึ้นมา
ดาวเตะทีมชาติอังกฤษ ช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ในปี 1989 และ 1991 รวมถึงคว้าแชมป์เอฟเอ คัพ, ลีกคัพ และ คัพ วินเนอร์ส คัพ ได้ในช่วงที่ค้าแข้งกับไอ้ปืนใหญ่ด้วย
Getty Imagesโคล อาจไม่ได้มีผลงานที่น่าจดจำนักกับ อาร์เซนอล แต่เขาเติบโตจากอะคาเดมีของทีมก่อนจะกลายเป็นหนึ่งในกองหน้าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของพรีเมียร์ลีก
ดาวยิงทีมชาติอังกฤษผ่านการขัดเกลาจากทีมเยาวชนของไอ้ปืนใหญ่ โดยเขาได้ลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่เพียง 1 นัดในลีกเท่านั้นก่อนถูกขายให้ บริสตอล ซิตี้
จากนั้น โคล ย้ายไป นิวคาสเซิล และระเบิดฟอร์มเก่งที่นั่นจนถูก แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด คว้าตัวไปร่วมทีมและกลายเป็นหนึ่งในตำนานกองหน้าของลีกอังกฤษ
Gettyไม่มีนักเตะ อาร์เซนอล คนใดที่ลงเล่นในพรีเมียร์ลีกมากกว่า เรย์ พาร์เลอร์ ที่ทำไว้ 333 นัด
พาร์เลอร์ เป็นแกนหลักของทีมมานานร่วมทศวรรษ โดยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอ คัพ 4 สมัย, ลีกคัพ และ คัพ วินเนอร์ส คัพ อีกอย่างละ 1 สมัย และอยู่ในทีมชุดสร้างประวัติศาสตร์เป็นแชมป์ไร้พ่ายด้วย
Getty Imagesอาการบาดเจ็บของ เอียน ไรท์ ในฤดูกาล 1997-98 ทำให้ อเนลก้า ได้รับโอกาสในทีมชุดใหญ่ และดาวรุ่งชาวฝรั่งเศสก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เขามีบทบาทสำคัญการคว้าดับเบิ้ลแชมป์ของทีมในฤดูกาลนั้น
เขาอยู่กับทีมอีกหนึ่งปีก่อนถูกขายให้ เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัวถึง 22.5 ล้านปอนด์ และคว้าแชมป์ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้ในปีถัดไป
Gettyโคล คือผลผลิดจากอะคาเดมีของ อาร์เซนอล ที่กลายเป็นหนึ่งในแบ็คซ้ายที่ดีสุดของยุโรปในเวลาต่อมา
แบ็คซ้ายจอมลุยถูก อาร์แซน เวงเกอร์ ดันขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่เมื่อปี 1999 และใช้เวลาไม่นานในการแย่งตำแหน่งตัวจริงจาก ซิลวินโญ และช่วยทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย และ เอฟเอ คัพ 3 สมัย ก่อนย้ายไป เชลซี เมื่อปี 2006
วิลเชียร์ ได้รับการจับตามองมาตั้งแต่สมัยเล่นอยู่กับทีมเยาวชนของ อาร์เซนอล ก่อนจะก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2008
ดาวเตะจอมเทคนิคยึดตำแหน่งในทีมชุดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วด้วยพรสวรรค์อันน่าเหลือเชื่อ โชคร้ายที่เขาโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานอยู่ตลอดทำให้เส้นทางค้าแข้งไปไม่ไกลเท่าที่ควร และเพิ่งประกาศแขวนสตั๊ดไป
Getty Imagesเชสนีย์ เข้าร่วมอะคาเดมีของ อาร์เซนอล ตอนอายุเพียง 16 ปีเท่านั้นและทำผลงานได้ยอดเยี่ยมในทีมเยาวชน จนคาดว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นมือหนึ่งของทีมในอนาคต
นายด่านชาวโปแลนด์ก้าวขึ้นมาเฝ้าเสาให้ทีมชุดใหญ่ได้ตามคาด แต่ความสัมพันธ์ของเขากับ อาร์แซน เวงเกอร์ เริ่มตึงเครียด ทำให้หลังจากการปล่อยให้ โรมา ยืมตัว เขาก็ถูกขายให้กับ ยูเวนตุส ในปี 2017
Gettyกิ๊บบ์ส ย้ายจาก วิมเบิลดัน มาอยู่กับอะคาเดมีของ อาร์เซนอล เมื่อปี 2004 และเซ็นสัญญาอาชีพฉบับแรกในอีกสามปีต่อมา
เขาลงเล่นให้ทีมชุดใหญ่ครั้งแรกในเดือนกันยายนปี 2007 และยึดตำแหน่งตัวจริงได้หลังจาก กาเอล กลีชี ย้ายทีม โดยช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้ 3 สมัยกับไอ้ปืนใหญ่
ฟาเบรกัส ย้ายมาอยู่กับอะคาเดมีของ อาร์เซนอล ตอนอายุ 16 ปี และกลายเป็นนักเตะอายุน้อยสุดที่ได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 16 ปี 177 วัน เมื่อเดือนตุลาคมปี 2003
เขาก้าวขึ้นเป็นกัปตันทีมในเวลาต่อมาและลงสนามให้ไอ้ปืนใหญ่ไปมากกว่า 300 นัด ก่อนจะย้ายกลับไปอยู่ บาร์เซโลนา เมื่อปี 2011
Getty/Goalเบลเยริน ย้ายจาก บาร์เซโลนา มาอยู่กับอะคาเมีของ อาร์เซนอล เมื่อปี 2011 และถูกปล่อยให้ วัตฟอร์ด ยืมตัว ก่อนจะได้รับโอกาสจาก อาร์แซน เวงเกอร์ ให้ขึ้นมาเล่นกับทีมชุดใหญ่
ฟูลแบ็คชาวสเปน เป็นกำลังสำคัญของไอ้ปืนใหญ่มาร่วมทศวรรษ คว้าแชมป์เอฟเอ คัพ ได้ 3 สมัย และมีโอกาสสูงที่จะย้ายกลับไปเล่นที่สเปนในช่วงซัมเมอร์นี้
Getty Images Sportนาบรี้ ย้ายจาก สตุ๊ตการ์ต มาอยู่กับ อาร์เซนอล ตอนอายุ 16 ปี และทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับทีมเยาวชน จนได้ขึ้นมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 17 ปี ในเกมลีกคัพ กับ โคเวนทรี
การเปิดตัวของเขาในพรีเมียร์ลีกตามมาหลังจากนั้นไม่นานและดูเหมือนว่าเขาจะมีอนาคตที่สดใสกับไอ้ปืนใหญ่รออยู่
อย่างไรก็ตามเขาโดนอาการบาดเจ็บเล่นงานและเริ่มไม่มีความสุขกับทีม ก่อนที่จะปฏิเสธสัญญาฉบับใหม่และถูกขายให้ แวร์เดอร์ เบรเมน เมื่อปี 2016 และย้ายไป บาเยิร์น มิวนิค ในเวลาต่อมา
Getty Imagesอิโวบี้ เปิดตัวกับทีมชุดใหญ่เมื่อปี 2015 และโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่น โดยลงสนามไป 149 นัด คว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ในปี 2017 แต่หลังการลาทีม อาร์แซน เวงเกอร์ ผลงานของเขาก็ไม่เปรี้ยงเหมือนเดิม
แนวรุกจอมเทคนิต ถูกขายให้ เอฟเวอร์ตัน ในช่วงซัมเมอร์ของปี 2019 ด้วยค่าตัวถึง 35 ล้านปอนด์ ซึ่งนับเป็นนักเตะจากอะคาเดมีที่ทำเงินให้กับทีมได้มากสุด
Gettyวิลล็อค ก้าวขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ของ อาร์เซนอล ในยุคที่ อาร์แซน เวงเกอร์ คุมทีม และยังได้โอกาสต่อเนื่องในยุคของ อูไน เอเมรี และ มิเกล อาร์เตต้า
แต่การย้ายไปเล่นกับ นิวคาสเซิล ด้วยสัญญายืมตัวและทำผลงานได้ดี ทำให้สาลิกาดงยอมทุ่มเงินร่วม 25 ล้านปอนด์ ดึงตัวเขาไปร่วมทีมเมื่อช่วงซัมเมอร์ฤดูกาล 2021-22
Gettyซาก้า คือเพชรเม็ดงามของ อาร์เซนอล ยุคนี้ เขาอยู่กับทีมมาตั้งแต่อายุ 7 ปี และระเบิดฟอร์มเก่งได้ในฤดูกาล 2019-20 ตอนที่อายุเพียง 17 ปี
ปัจจุบันในวัย 20 ปี เขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญในทีมของ มิเกล อาร์เตต้า และหากมีการย้ายทีมเกิดขึ้นในอนาคต เขาจะทำเงินก้อนโตให้กับสโมสรอย่างแน่นอน
Gettyสมิธ-โรว์ อยู่กับ อาร์เซนอล มานานกว่าทศวรรษและกลายมาเป็นหนึ่งในกำลังหลักของทีมชุดใหญ่ เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นภายใต้การทำทีมของ มิเกล อาร์เตต้า และจบฤดูกาล 2021-22 ในฐานะรองดาวซัลโวของทีม
ด้วยอายุเพียง 21 ปี และการพัฒนาฝีเท้าที่รวดเร็ว ทำให้สาวกไอ้ปืนใหญ่มั่นใจว่าพวกเขาจะได้เห็นสิ่งดีๆอีกมากมายจากดาวรุ่งรายนี้ในอนาคต
