เฟอร์กูสัน มาถึงโอลด์ แทรฟฟอร์ดและได้รับเสียงชื่นชมอย่างมากในปี 1986 หลังจากพาอเบอร์ดีนคว้าแชมป์สกอตติช พรีเมียร์ชิพ 3 สมัย, สกอตติช คัพ 4 สมัย และยูโรเปี้ยน คัพ วินเนอร์ส คัพ เมื่อปี 1983 ด้วยการเอาชนะเรอัล มาดริด ในรอบชิงชนะเลิศ
แต่เขาไม่สามารถพาปีศาจแดงประสบความสำเร็จได้ในทันที โดยจบอันดับที่ 11 ในฤดูกาลแรก, อันดับ 2 ในฤดูกาลที่สอง และอันดับที่ 11 อีกครั้งในฤดูกาลที่สาม โดยไม่สามารถคว้าแชมป์ใดๆ ได้เลย
ส่วนฤดูกาล 1989-90 ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ 4 ของเฟอร์กี้ ดูเหมือนหายนะ จะเกิดขึ้นกับยูไนเต็ด เมื่อพ่ายแพ้ต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-5 ในเดือนกันยายน และเมื่อถึงเดือนมกราคมก็ลงเล่นในลีกไปแล้ว 6 นัดโดยไม่ชนะเลย พวกเขาตกอยู่ในอันตรายที่จะต้องไปดิ้นรนหนีตกชั้น และแฟน ๆ ต่างก็หันมาต่อต้านผู้จัดการทีมกันแล้ว
และหลังจากเกมแพ้คริสตัล พาเลซคาบ้าน 1-2 แฟนบอลคนหนึ่งได้ชูป้ายข้อความอันโด่งดังที่เขียนว่า "3 ปีแห่งข้อแก้ตัวและความเส็งเคร็ง ไปซะเฟอร์กี้"
จากนั้นในถ้วยเอฟเอ คัพ ปีศาจแดงต้องโคจรมาเจอกับน็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ โดยเชื่อกันว่าหากต้องพ่ายแพ้ตกรอบในเกมนี้ จะทำให้พวกเขามือเปล่าไร้แชมป์เป็นปีที่ 4 และแน่นอนว่าเฟอร์กูสันจะต้องตกงาน
“ทุกวันก่อนเกมนั้น เราจะได้หยิบหนังสือพิมพ์และอ่านเจอว่าผู้จัดการทีมกำลังจะโดนไล่ออก” วิฟ แอนเดอร์สัน อดีตแบ็คขวาแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เคยให้สัมภาษณ์ถึงเรื่องนี้ผ่านทาง Manchester Evening News เมื่อปี 2015.
ในเวลานั้น การต้องบุกเยือนฟอเรสต์เป็นเกมที่น่าหวาดหวั่นสำหรับยูไนเต็ด เนื่องจากทัพเจ้าป่ายังคงคุมทีมโดยผู้จัดการทีมระดับตำนานอย่าง ไบรอัน คลัฟ ที่เพิ่งจบอันดับสามในลีกและเข้าถึงรอบรองชนะเลิศเอฟเอ คัพในฤดูกาลก่อนหน้า อีกทิ้งปีศาจแดงยังหมดสิทธิ์ใช้งานแกนหลักอย่าง ไบรอัน ร็อบสัน กัปตันทีมจอมแกร่ง รวมถึง ลี ชาร์ป และ พอล อินซ์