GOAL
Getty Imagesผู้รักษาประตู : อารอน แรมส์เดล (อาร์เซนอล)
อาร์เซนอลถูกตั้งคำถามมากมาย เรื่องการตัดสินใจเสียเงินถึง 24 ล้านปอนด์ เพื่อซื้อตัวผู้รักษาประตูที่มีสถิติตกชั้นถึงสองฤดูกาลติดต่อกัน
ทว่า แรมส์เดล กลับโชว์ฟอร์มได้เหนียวหนึบเกินคาด ยึดตำแหน่งตัวจริงได้แบบถาวรตลอดทั้งฤดูกาล พร้อมกับเบียดให้ แบร์นด์ เลโน ต้องไปนั่งสำรอง และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ เดอะ กันเนอร์ส ได้ลุ้นขับเคี่ยวท็อปโฟร์ถึงนัดสุดท้าย แม้สุดท้ายจะต้องพลาดคว้าตั๋วไปลุยศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกก็ตาม
Getty Imagesแบ็คขวา : เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (ลิเวอร์พูล)
มีเพียงแค่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (13 ครั้ง) คนเดียวเท่านั้นที่ทำแอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกได้ในฤดูกาลนี้มากกว่า 12 ครั้งของอเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
แบ็คขวาชาวอังกฤษยกระดับตัวเองขึ้นมาอีกขั้นในฤดูกาลนี้ เมื่อกลายเป็นนักเตะที่มีจุดเด่นในการจ่ายบอลที่หลากหลายทั้งการเคาะสั้นๆ หรือการโยนยาวได้ทุกมุมของสนาม รวมถึงมีจุดเด่นคือการเล่นลูกตั้งเตะที่เชื่อขนมกินได้เลย
Getty Imagesเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ (ลิเวอร์พูล)
ารกลับมาฟิตสมบูรณ์อีกครั้งในฤดูกาลนี้ของกองหลังชาวดัตช์ ช่วยทำให้เกมรับของลิเวอร์พูลกลับมาแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้งอย่างเห็นได้ชัดเจน
ฟาน ไดค์ ถือเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ยืนเป็นตัวหลักเบอร์หนึ่ง ส่วนคู่ขาของเขาจะเปลี่ยนสลับกันไปสองคนอย่าง โฌแอล มาติป และ อิบราฮิมา โกนาเต้ ซึ่งทั้งสามคมเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้หงส์แดงเสียประตูน้อยที่สุดเท่ากับแมนเชสเตอร์ ซิตี้

เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ : รูเบน ดิอาส (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
กองหลังชาวโปรตุกีส ยังคงรักษามาตรฐานการเล่นอันยอดเยี่ยมจากฤดูกาลก่อนมาได้ต่อเนื่อง โดยถือเป็นเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ยืนเป็นตัวหลักเบอร์หนึ่ง ส่วนคู่ขาของเขาจะเปลี่ยนสลับกันไปทั้ง จอห์น สโตนส์ รวมถึง อายเมอริค ลาปอร์กต์
การขาดหายไปของเขาซึ่งบาดเจ็บในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาลนี้ ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อเกมรับของเรือใบสีฟ้า ซึ่งกว่าจะเอาตัวรอดป้องกันแชมป์ได้ก็ทำเอาต้องลุ้นหนักแทบแย่เลยทีเดียว
Getty Imagesแบ็คซ้าย : เชา คันเซโล (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
แบ็คขวาชาวโปรตุกีสถูก เป๊ป กวาร์ดิโอลา โยกมาเล่นเป็นแบ็คซ้าย และกลายเป็นว่าทำผลงานได้ยอดเยี่ยมเกินคาด
จุดเด่นของ คันเซโล คือการที่ไม่ได้เล่นแค่เกมรุกและเกมรับทางริมเส้นฝั่งซ้ายอย่างเดียว แต่ยังมีส่วนร่วมขยับเข้ามาเชื่อมเกมตรงแดนกลางเสมือนเป็นกองกลางอีกคนได้อย่างเนียนตา นอกจากนี้ยังทำไป 7 แอสซิสต์ เป็นอันดับสองของเรือใบสีฟ้า รองจาก เควิน เดอ บรอยน์ (8 แอสซิสต์)
Getty Imagesกองกลาง : โรดรี้ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
ดาวเตะชาวสเปนยกระดับขึ้นมาเป็นสุดยอดกองกลางตัวรับของพรีเมียร์ลีกยุคนี้ได้อย่างเต็มตัว เขาคือผู้มีบทบาทสำคัญที่ช่วยกำหนดจังหวะการเล่นของเกมได้อย่างเนียนตา
จุดเด่นอีกอย่างของ โรดรี้ คือการสอดขึ้นมาช่วยทีมทำประตู ด้วยการยิงไปถึง 7 ประตูในฤดูกาลนี้ ซึ่งถือว่ามากทีเดียวกับการเป็นผู้เล่นในเกมรับ
Getty Imagesกองกลาง : ดีแคลน ไรซ์ (เวสต์แฮม ยูไนเต็ด)
นี่คือกองกลางที่เล่นครบเครื่องที่สุดแล้วทั้งเกมรุกและเกมรับในฤดูกาลนี้ และยิ่งน่าเหลือเชื่อคือเขาไม่ได้เล่นอยู่กับทีมในกลุ่มบิ๊ก 6 ของพรีเมียร์ลีกด้วย
ไรซ์ มีคุณสมบัติครบถ้วนสำหรับการเป็นสุดยอดกองกลาง ทั้งการจ่ายบอลสั้นบอลยาวได้แม่นยำ, การเป็นตัวคุมจังหวะเกม, ภาวะความเป็นผู้นำสูง รวมถึงยังสามารถเลี้ยงบอลและกระชากลากเลื้อยได้ดีด้วย ซึ่งหากว่าเขาตัดสินใจย้ายทีมเมื่อไหร่ เชื่อว่าน่าจะกลายเป็นนักเตะชาวอังกฤษค่าตัวแพงที่สุดคนใหม่ทันที
Getty Imagesกองกลาง : เควิน เดอ บรอยน์ (แมนเชสเตอร์ ซิตี้)
การเป็นเจ้าของรางวัลนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลนี้ของพรีเมียร์ลีก ก็เป็นเครื่องการันตีความสุดยอดของดาวเตะชาวเบลเยียมได้แบบไร้ข้อกังขาแล้ว
จังหวะที่เขากระชากบอลไปจ่ายให้ อิลคาย กุนโดกัน พังประตูชัยแซงชนะแอสตัน วิลลาในเกมสุดท้ายของฤดูกาลนี้ ถือเป็นโมเมนต์สำคัญที่จะถูกจดจำเป็นอีกตำนานบทหนึ่งของพรีเมียร์ลีกเลยทีเดียว
Getty Imagesกองหน้าฝั่งขวา : โมฮาเหม็ด ซาลาห์ (ลิเวอร์พูล)
แม้อาจจะมีบางช่วงที่ฟอร์มดร็อปลงไปบ้าง แต่โดยรวมก็ถือว่าดาวเตะชาวอียิปต์รักษามาตรฐานการเล่นได้ดีทีเดียว จนสุดท้ายก็เหมาคว้าทั้งตำแหน่งดาวซัลโวและผู้ทำแอสซิสต์สูงสุดในฤดูกาลนี้
การเหลือสัญญาอีกเพียงแค่ปีเดียว ยิ่งทำให้ลิเวอร์พูลต้องคิดอย่างหนักว่ายอมรั้งตัวแนวรุกคนสำคัญให้อยู่กับทีมต่อไปหรือไม่
Getty Imagesกองหน้าตัวเป้า : แฮร์รี เคน (ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์)
แม้จะเจอปัญหาฟอร์มฝืดช่วงต้นฤดูกาล แต่สุดท้ายกองหน้ากัปตันทีมชาตอังกฤษก็เร่งฟอร์มกลับมาผลิตสกอร์ได้ต่อเนื่องในช่วงท้ายฤดูกาล
เขาและคู่หูคู่บุญอย่าง ซน ฮึง-มิน ยังผงาดสร้างสถิติกลายเป็นคู่หูที่ประสานงานช่วยกันทำประตูมากที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกอีกด้วย
Getty Imagesกองหน้าฝั่งซ้าย : ซน ฮึง-มิน (ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์)
ดาวเตะชาวเกาหลีใต้ผงาดขึ้นมาเป็นแข้งเอเชียคแรกที่ก้าวมาคว้าตำแหน่งดาวซัลโวของพรีเมียร์ลีกได้อย่างสุดยอด
ผลงานการยิงไปถึง 23 ประตูของเขา ถือเป็นกุญแจสำคัญที่ช่วยให้ไก่เดือยทองคว้าโควตากลับไปเล่นในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีกได้อีกครั้ง
GOALทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2021-2022
และนี่คือโฉมหน้าทีมยอดเยี่ยมพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ของเรา!
คิดเห็นอย่างไรบ้างกับทีมของเรา พิมพ์คอมเมนต์กันมาได้เลย...
โฆษณา