บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 2015Goal Thailand

ทีมแรกเอเชีย : บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ชุดคว้า 5 แชมป์ ปี 2015 ตอนนี้อยู่ไหน?

ปฏิเสธไม่ได้ว่าขุนพล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ฤดูกาล 2015 ภายใต้การคุมทีมของ อเล็กซานเดร กามา กุนซือชาวบราซิล เป็นชุดที่แข็งแกร่งที่สุดชุดหนึ่งของทีมฟุตบอลไทย เพราะพวกเขาได้สร้างประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ ด้วยการผงาดคว้าถึง 5 แชมป์ภายใน 1 ปี ในฐานะสโมสรที่ 6 ของโลก และ ทีมแรกจากทวีปเอเชีย ที่ทำได้..

ปราสาทสายฟ้า ไล่กวาดแชมป์ตั้งแต่ช่วงต้นปี เริ่มจากเอาชนะ เอสซีจี เมืองทองฯ 3-1 คว้าแชมป์ถ้วยพระราชทาน ก. , แชมป์โตโยต้า ไทยลีก (ไร้พ่าย) ,​ แชมป์ โตโยต้า ลีกคัพ ,​ แชมป์โตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปี้ยนชิพ  และ ส่งท้ายด้วยการเอาชนะคู่ปรับเก่าอย่าง เอสซีจี เมืองทองฯ ด้วยสกอร์เดิม 3-1 คว้าแชมป์ช้าง เอฟเอคัพ

กาลเวลาผ่านไป  5 ปี ขุนพลชุดนั้นในปัจจุบัน ตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน ? นั่งไทม์แมชชีน ย้อนไปชมพร้อมกับเรา

  • ดิโอโก หลุยส์ ซานโต

    1ดิโอโก หลุยส์ ซานโต

    แทบไม่ต้องสาธยายอะไรมาก เมื่อ อดีตกองหน้าโอลิมเปียกอส ย้ายเข้ามาสร้างปรากฎการณ์ในปีนั้นให้ ปราสาทสายฟ้า ไม่ใช่เพียงแค่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่กับสโมสร แต่ ดิโอโก ยังมีผลงานส่วนตัวที่น่าทึ่ง เมื่อกดไปถึง 45 ประตู รวมทุกรายการ และ ทุบสถิติทุกอย่างที่ขวางหน้า ก่อนย้ายออกไปอยู่กับ ยะโฮรฯ เมื่อปี 2019 จนถึงปัจจุบัน พร้อมฝากผลงานให้สาวก GU12 คิดถึง โดยการทำไป 133 ประตู เป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลของทีม ที่ยากจะทำลาย
  • โฆษณา
  • กิลแบร์โต มาเชนา - บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดGoalthailand

    2กิลแบร์โต มาเชนา

    กองหน้าชาวบราซิล ย้ายเข้ามาจับคู่กับ ดิโอโก ในปีนั้นได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อตลอดฤดูกาล ถือเป็นคู่พาร์ทเนอร์ที่น่ากลัวที่สุดในลีก ทั้งสองคนประสานงานกันได้อย่างลงตัว ผลัดกันยิง และ แอสซิสต์ แทบทุกเกม ก่อนที่ มาเชนา จะยิงไปถึง 21 ประตู กับ 11 แอสซิสต์ในลีก และ ยังทำไปถึง 3 แฮตทริค ที่สำคัญ ยังลงเล่นทุกรายการไปถึง 44 นัดเลยทีเดียว 

    ปัจจุบันในวัย 36 ปี เขาเป็นนักเตะฟรีเอเยนต์ และ ไม่มีต้นสังกัด หลังหมดสัญญากับ Holbaek B&I ในดิวิชั่น 2 เดนมาร์ก เมื่อช่วงปลายปีที่แล้ว นอกจากนี้ยังใช้เวลาว่างเรียนยูฟ่า บี ไลเซนส์ ด้วย

  • เคน วินเซนต์Goalthailand

    3เคน วินเซนต์

    กองหน้าลูกครึ่งญี่ปุ่น-นิวซีแลนด์ ทำผลงานได้ดีกับ สงขลา ยูไนเต็ด จนถูก ปราสาทสายฟ้า ดึงมาร่วมทัพในปีนั้น แต่ วินเซนต์ กลับไม่ค่อยได้รับโอกาสลงเล่นมากนัก เมื่อตกเป็นสำรองของทั้ง ดิโอโก และ มาเชนา ก่อนย้ายออกจากทีมอย่างรวดเร็ว ไปอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี ช่วงเลกสอง และ ปัจจุบันอยู่กับ บางกอก เอฟซี
  • ราฟาเอล โคเอลโญ

    4ราฟาเอล โคเอลโญ

    กองหน้าชาวบราซิล ย้ายจากชังชุน ย่าต่าย ทีมในศึกไชนิส ซูเปอร์ลีก มาอยู่กับ ปราสาทสายฟ้า เมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 2014 แต่โชคร้ายได้รับบาดเจ็บอย่างหนัก จนหลุดจากโควตาต่างชาติไทยลีก และ แทบไม่มีส่วนร่วมกับทีมในปีนั้น โดยมีโอกาสลงสนามเฉพาะฟุตบอลถ้วยเพียง 2 นัด ก่อนขอแยกทางกับทีม แต่ปัจจุบัน ก็ยังค้าแข้งในไทยกับ ชัยนาท ฮอร์นบิล ในศึกเอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก2)
  • สิทธิโชค กันหนูGoalthailand

    5สิทธิโชค กันหนู

    ดาวเตะวัย 24 ปี ไม่สามารถเบียดตำแหน่งกับคู่กองหน้าอย่าง ดิโอโก และ มาเชนา ได้ ทำให้ในปีนั้น สิทธิโชค มีโอกาสลงสนามไม่มากนัก เมื่อได้เป็นตัวจริงในลีกเพียง 3 นัด และ ทำ 1 ประตู ก่อนย้ายออกไปอยู่กับ ไทยฮอนด้าฯ เมื่อปี 2017 และ ปัจจุบัน เพิ่งย้ายจาก ทรู แบงค็อกฯ มาอยู่กับ ราชบุรี มิตรผลฯ ในช่วงตลาดซื้อขายรอบพิเศษ
  • ณัฐวุฒิ สมบัติโยธาGoal

    6ณัฐวุฒิ สมบัติโยธา

    แนวรุกวัย 24 ปี ถูก ปราสาทสายฟ้า ดันขึ้นสู่ชุดใหญ่พร้อมกับ อานนท์ เมื่อปี 2014 แต่ก็ไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้เล่นตัวหลักได้ โดยปีนั้น ณัฐวุฒิ มีโอกาสลงเล่นในลีกเพียง 1 นัดเท่านั้น ก่อนย้ายออกจากทีมไปอยู่กับทั้ง ราชนาวี , ราชบุรี มิตรผลฯ , เชียงใหม่ เอฟซี และ การท่าเรือ เอฟซี ในปัจจุบัน
  • อานนท์ อมรเลิศศักดิ์Goalthailand

    7อานนท์ อมรเลิศศักดิ์

    แนวรุกวัย 23 ปี ถูก ปราสาทสายฟ้า ดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี  2014 แต่ก็แทบไม่มีโอกาสลงสนามมากนัก เช่นเดียวกับปีนั้น ที่ อานนท์ มีโอกาสลงเล่นในลีกเพียง 7 นัด และ ยิง 1 ประตู ก่อนจะย้ายออกจากทีมไปอยู่กับ บีจี ปทุมฯ เมื่อปี 2018 และ มาอยู่กับ ทรู แบงค็อกฯ ในปัจจุบัน
  • สันติราษฎร์ เวียงอินทร์Goal

    8สันติราษฎร์ เวียงอินทร์

    เจ้าของฉายาโอเว่นนครพนม โชว์ฟอร์มได้อย่างร้อนแรงกับ ศรีสะเกษ เอฟซี ทำให้ถูก ปราสาทสายฟ้า คว้าตัวมาร่วมทัพในปีนั้น แต่ตลอดฤดูกาล สันติราษฎร์ กลับไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวหลักได้ ประกอบกับถูกอาการบาดเจ็บเล่นงาน จนมีโอกาสลงเล่นในลีกไปเพียง 67 นาทีเท่านั้น จากนั้นพเนจร ออกไปอยู่กับหลายทีม กระทั่งปัจจุบันอยู่กับ คีรีวงศ์ เอฟซี ทีมในลีกสูงสุดกัมพูชา
  • ประกิต ดีพร้อม - บุรีรัมย์ ยูไนเต็ดGoalthailand

    9ประกิต ดีพร้อม

    แนวรุกวัย 32 ปี ย้ายเข้ามาอยู่กับ ปราสาทสายฟ้า ในปีนั้น ด้วยความคาดหวังที่สูงพอสมควร เมื่อถูกซื้อมาจาก ทีโอที ด้วยค่าตัวถึง 10 ล้านบาท แต่ ประกิต กลับไม่สามรถรักษาความสม่ำเสมอได้ และ ดูไม่ตอบโจทย์กับระบบการเล่นมากนัก ทำให้มีโอกาสลงสนามในลีกไปเพียง 13 นัด พร้อมยิง 1 ประตู ก่อนย้ายออกไปอยู่กับ ชลบุรี เอฟซี ในปีต่อมา และ ปัจจุบันอยู่กับ อุดรธานี เอฟซี ในศึกเอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก2)
  • สุภโชค สารชาติBuriram United

    10สุภโชค สารชาติ

    แนวรุกวัย 22 ปี เพิ่งถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ในปีนั้นครั้งแรก เมื่อช่วงเลกสอง ทำให้ยังไม่มีส่วนร่วมกับทีมมากนัก โดยมีโอกาสลงเล่นในลีกไปเพียง 5 นัด ก่อนที่ปัจจุบัน จะพัฒนาขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญที่ ปราสาทสายฟ้า ไม่ได้ และ เป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลอันดับ 7 ของสโมสร
  • นฤพล อารมณ์สวะ

    11นฤพล อารมณ์สวะ

    กองกลางวัย 32 ปี ย้ายจาก บีอีซี เทโรศาสน มาอยู่กับ ปราสาทสายฟ้า ในปีนั้น แต่ก็แทบไม่มีบทบาทกับทีม เมื่อโชคร้ายได้รับบาดเจ็บหนัก จนทำให้มีโอกาสลงสนามในลีกเพียง 9 นัดเท่านั้น ก่อนย้ายออกไปอยู่กับ ชลบุรี เอฟซี และ ปัจจุบันอยู่กับ นครราชสีมา เอฟซี
  • เชาว์วัฒน์ วีระชาติGoal Thailand

    12เชาว์วัตน์ วีระชาติ

    กองกลางวัย 24 ปี ถูก ปราสาทสายฟ้า ดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ครั้งแรกเมื่อปี 2014 และ แม้ว่าที่ผ่านมาจะไม่สามารถสอดแทรกขึ้นมาเป็นผู้เล่นตัวหลักได้ แต่ในปีนั้น เชาว์วัฒน์ ในฐานะดาวรุ่ง ก็มีสถิติลงสนามที่ไม่เลว เมื่อมีโอกาสลงเล่นในลีกไป 12 นัด ก่อนย้ายออกไปอยู่กับ บีจี ปทุมฯ ตั้งแต่ปี 2017 กระทั่งถึงปัจจุบัน นอกจากนี้ ยังมีโอกาสไปค้าแข้งกับ เซเรเซ โอซากา ในศึกเจ 3 ลีก เมื่อปี 2018 ด้วย
  • สุรัตน์ สุขะGoalthailand

    13สุรัตน์​ สุขะ

    อดีตกองกลางทีมชาติไทย ย้ายจาก เมลเบิร์น วิคตอรี่ มาอยู่กับ ปราสาทสายฟ้า ตั้งแต่ฤดูกาล 2013 โดย 2 ซีซั่นแรกนั้น สุรัตน์​ นับว่ามีบทบาทกับทีมพอสมควร แต่ในปี 2015 เขาได้รับโอกาสลงสนามเป็นตัวจริงในลีกเพียง 2 นัดเท่านั้น ก่อนย้ายออกจากทีม ไปอยู่กับ อุบล ยูเอ็มทีฯ เมื่อปี 2017 กระทั่งปัจจุบันแขวนสตั๊ดเป็นที่เรียบร้อย และ กำลังธุรกิจส่วนตัวเกี่ยวกับร้านขายของชำ
  • โก ซุล กิGoalthailand

    14โก ซุล กิ

    กองกลางชาวเกาหลีใต้ ย้ายเข้ามาเติมเต็มแผงมิดฟิลด์ของปราสาทสายฟ้า ให้สมบูรณ์แบบ และ แข็งแกร่งมากกว่าเดิมในปีนั้น โดยเฉพาะการเป็นผู้เล่นสไตล์ บ็อกซ์ ทู บ็อกซ์ เพียงไม่กี่รายในลีก มีส่วนสำคัญทั้งในแง่การสร้างสมดุล ขับเคลื่อน และ ตัดเกม ก่อนลงสนามในลีกไปถึง 30 นัด ยิง 8 ประตู กับ 7 แอสซิสต์ แต่หากนับรวมทุกรายการ โก ซุล กิ ลงเล่นไปถึง 52 นัดเลยทีเดียว เป็นรองเพียงแค่ ศิวรักษ์ เท่านั้น ที่เฝ้าเส้าไป 53 นัด

    ปัจจุบัน โก ซุล กิ ในวัย 34 ปี ยังค้าแข้งในประเทศไทย กับคู่แข่งแย่งแชมป์โดยตรงกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่าง การท่าเรือ เอฟซี

  • จักรพันธ์ แก้วพรมGoalthailand

    15จักรพันธ์ แก้วพรม

    กองกลางวัย 32 ปี เป็นอีกหนึ่งคีย์แมนสำคัญของ ปราสาทสายฟ้า ในปีนั้น เมื่อเปรียบเสมือนมันสมองเกมรุกของทีม ขับเคลื่อนแดนกลางร่วมกับ สุเชาว์ นุชนุ่ม และ โก ซุล กิ ได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเล่นร่วมกับ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต และ กิลแบร์โต มาเชนา ได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนลงสนามไปถึง 36 นัดรวมทุกรายการ และ ทำไป 5 ประตู  ขณะที่ปัจจุบัน จักพันธ์ ก็ยังค้าแข้งอยู่กับทีมแม้บทบาทจะน้อยลงก็ตาม
  • สุเชาว์ นุชนุ่มGoalthailand

    16สุเชาว์ นุชนุ่ม

    กองกลางวัย 37 ปี เป็นกัปตันทีมในปีนั้น แถมยังเป็นกำลังสำคัญที่คอยขับเคลื่อนแดนกลางร่วมกับ จักรพันธ์ แก้วพรม และ โก ซุล กิ โดยตอลดทั้งฤดูกาล สุเชาว์ โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม มีบทบาททั้งเกมรุก และ เกมรับ ก่อนลงสนามไปถึง 47 นัดรวมทุกรายการ พร้อมยิงไป 5 ประตู ขณะที่ปัจจุบัน ปิดฉากการค้าแข้ง 10 ปี กับทีมเป็นที่เรียบร้อย และ ย้ายกลับมาเล่นให้ทีมบ้านเกิด เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ในศึกไทยลีก 3
  • วันเฉลิม ยิ่งยง Buriram UnitedBuriram United & Bento

    17วันเฉลิม ยิ่งยง

    วันเฉลิม เป็นผู้เล่นอีกหนึ่งคนที่ย้ายจาก เพื่อนตำรวจ มาอยู่กับทีม แต่ด้วยวัยเพียง 21 ปี ในขณะนั้น ก็ทำให้ไม่สามารถเบียดแย่งตำแหน่งตัวจริงกับรุ่นพี่ในทีมได้ โดยมีโอกาสลงสนามเพียง 2  นัดเท่านั้นในลีก ก่อนย้ายออกไปอยู่กับ ชัยนาท ฮอร์นบิล และ ปัจจุบันอยู่กับ พีที ประจวบ เอฟซี
  • สุรีย์ สุขะGoal Thailand

    18สุรีย์ สุขะ

    อดีตตำนานแบ็คขวาทีมชาติไทย เปลี่ยนบทบาทมาเล่นเป็น เซนเตอร์ฮาล์ฟ ในปีนั้น แม้ว่าจะไม่ใช่ผู้เล่นตัวหลัก แต่ก็ลงสนามช่วยทีมไปถึง 19 นัดรวมทุกรายการ และ ปัจจุบันในวัย 38 ปี สุรีย์​ ยังโลดแล่นอยู่ในวงการลูกหนัง กับ  สิงห์ระฆังทอง กาญจนบุรี เอฟซี ในศึกไทยลีก 3
  • นุกูลกิจ ครุฑใหญ่BRUTD

    19นุกูลกิจ ครุฑใหญ่

    กองหลังวัย 28 ปี เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่ย้ายมาจาก บีอีซี เทโรศาสน แต่ก็แทบไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากนัก เมื่อลงเล่นในลีกไปเพียง 13 นัด ซึ่งแบ่งเป็นตัวจริงเพียง 5 นัดเท่านั้น ก่อนย้ายออกจาก ปราสาทสายฟ้า ไปอยู่กับ อุบล ยูเอ็มฯ เมื่อปี 2017 และ ปัจจุบันค้าแข้งให้กับ สุโขทัย เอฟซี พร้อมมีชื่อติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรก เป็นที่เรียบร้อย  หลังโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม

  • กรวิทย์ นามวิเศษGoal Thailand

    20กรวิทย์ นามวิเศษ

    กองหลังวัย 34 ปี ย้ายเข้ามาเป็นกำลังหลักของ ปราสาทสายฟ้า แบบไม่มีใครคาดคิด ทั้งที่เพิ่งหลุดจากแผนทำทีมของ ทรู แบงค็อกฯ และ ไม่ผ่านการคัดตัวกับ บีอีซี เทโรศาสน โดยปีนั้น กรวิทย์ ลงสนามไปถึง 51 นัด รวมทุกรายการ พร้อมทำไป 5 ประตู นอกจาก มีส่วนสำคัญช่วยทีมคว้าไปถึง  5  แชมป์แล้ว ยังถูก เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เรียกไปติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ครั้งแรกด้วย

    ปัจจุบัน กรวิทย์ นามวิเศษ เพิ่งย้ายจาก ชลบุรี เอฟซี มาอยู่กับ เมืองกาญจน์ ยูไนเต็ด ในศึกไทยลีก 3

  • ชิติพัทธ์ แทนกลางGoal Thailand

    21ชิติพัทธ์ แทนกลาง

    กองหลังวัย 29 ปี เป็นเยาวชนรุ่นแรก ที่อยู่กับทีมมาจนถึงปัจจุบัน โดยปีนั้น ชิติพัทธ์ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งผู้เล่นสำคัญในเกมรับ ที่ทำหน้าที่ร่วมกับ อันเดรส ตูเญซ และ กรวิทย์ นามวิเศษ​ ได้อย่างลงตัว จนช่วยให้ทีมเสียประตูน้อยสุดในลีกเพียง 24 ลูกเท่านั้น และ ได้รับโอกาสลงสนามไปถึง 31 นัดรวมทุกรายการ

  • อนาวิน จูจีนGoal Thailand

    22อนาวิน จูจีน

    การมาของ นฤบดินทร์ ทำให้ อนาวิน จูจีน มีบทบาทน้อยลงมากกว่าเดิมในปีนั้น แต่ วิงแบ็คขวาวัย 33 ปี ก็ยังถูกส่งลงสนามไปถึง 24 นัดรวมทุกรายการ และ ยิงไป 3 ประตู ก่อนที่ปัจจุบัน จะย้ายไปหาความท้าทายใหม่กับ เปตาลิง จายา ซิตี้ ในศึกมาเลเซีย ซูเปอร์ลีก และ เพิ่งเผชิญหน้ากับ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ในเกมที่เสอมกับ ยะโฮร์ฯ 2-2

  • นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดมGoal Thailand

    23นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม

    หลังพา บีอีซี เทโรศาสน คว้าแชมป์โตโยต้า ลีกคัพ เมื่อปี 2014 นฤบดินทร์ ก็ถูก ปราสาทสายฟ้า ดึงตัวมาร่วมทัพในปีนั้น ก่อนยึดตัวหลักทางฝั่งขวาได้ทันที ด้วยสถิติลงสนามไปถึง 36 นัดรวมทุกรายการ และ ปัจจุบัน ก็ยังอยู่เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของทีม พร้อมเปลี่ยนสถานะจากเด็กใหม่เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ขึ้นมาเป็นผู้เล่นระดับซีเนียร์ของทีม
  • Andrés TúñezGoal Thailand

    24อันเดรส ตูเญซ

    กองหลังทีมชาติเวเนซุเอลา ย้ายมาอยู่กับ ปราสาทสายฟ้า ตั้งแต่ฤดูกาล 2014 ก่อนยืนเป็นกำลังหลักของทีมมาโดยตลอด เช่นเดียวกับปีนั้น ที่ ตูเญซ ถือเป็นเซนเตอร์ฮาล์ฟ ที่ทีมขาดไม่ได้ นอกจากเกมรับที่เล่นได้อย่างแข็งแกร่ง จนช่วยให้ทีมเสียประตูน้อยที่สุดในลีกเพียง 24 ลูก เขายังทำไปถึง 18 ประตู รวมทุกรายการ เป็นดาวซัลโวสูงสุดอันดับ 3 ของทีม

    ปัจจุบัน ตูเญซ เพิ่งแยกทางกับทีมก่อนย้ายมาอยู่กับ บีจี ปทุมฯ ในช่วงตลาดซื้อขายรอบพิเศษ และ กำลังจะมีโอกาสลงสนามพบกับ ปราสาทสายฟ้า ครั้งแรก ในนัดตกค้าง วันที่ 10 ตุลาคม 2563

  • กฤษณ์พรหม บุญสารBRUTD

    25กฤษณ์พรหม บุญสาร

    แบ็คซ้ายวัย 26  ปี ย้ายจาก เพื่อนตำรวจ เข้ามาเป็นแบ็คอัพของ ธีราทร บุญมาทัน ในปีนั้น ทำให้ไม่มีบทบาทกับทีมมากนัก โดยมีโอกาสลงสนามเพียง 1 นัด ในลีกฐานะตัวสำรอง จากนั้นถูกปล่อยไปอยู่กับ อุบล ยูเอ็มทีฯ ปัจจุบันค้าแข้งกับ เกษตรศาสตร์ เอฟซี ในศึกเอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก2)
  • ธีราทร บุญมาทันBRUTD

    26ธีราทร บุญมาทัน

    แบ็คซ้ายวัย 30 ปี เป็นอีกหนึ่งคีย์แมนสำคัญที่ช่วยให้ ปราสาทสายฟ้า สร้างประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ เมื่อทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดทั้งฤดูกาล โดยเฉพาะการเป็นผู้เล่นที่ทำแอสซิสต์มากที่สุดในลีกถึง 19 ครั้ง และ ก็เป็นสถิติสูงที่สุดต่อหนึ่งฤดูกาล มาจนถึงเวลานี้

    ปัจจุบัน ธีราทร เพิ่งถูก โยโกฮามา เอฟ มารินอส ซื้อขาดจาก เอสซีจี เมืองทองฯ ในปีนี้ หลังฤดูกาลที่ผ่านมา มีส่วนสำคัญช่วยทีมคว้าแชมป์เจลีก ญี่ปุ่น มาครอง ในฐานะนักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ และ ยิ่งไปกว่านั้น เขายังทำไปแล้ว เกินกว่า 100 แอสซิสต์ หากนับรวมทุกทีมที่ลงเล่น

  • ยศพล เทียงดาห์Goal Thailand

    27ยศพล เทียงดาห์

    นายด่านวัย 28 ปี อยู่กับทีมมาตั้งแต่เยาวชน และ เป็นหนึ่งในขุนพลชุดนี้เช่นกัน แม้แทบไม่มีโอกาสเฝ้าเสา แต่ ยศพล ก็แสดงความเป็นมืออาชีพ และ ทำหน้าสแตนด์บายรุ่นพี่อย่าง ศิวรักษ์ ด้วยดีมาโดยตลอด กระทั่งปัจจุบัน ก็ยังอยู่กับทีมในฐานะมือสอง
  • ศิวรักษ์ เทศสูงเนินGoal Thailand

    28ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน

    นายด่านวัย 36 ปี รักษามาตรฐานระดับสูงมาได้ตลอด เช่นเดียวกับปีนั้น ที่ ศิวรักษ์ ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อเก็บคลีนชีตเป็นว่าเล่น โดยเฉพาะในลีกที่เก็บไปถึง 16 ครั้ง จาก 34 นัด เป็นสถิติมากที่สุดในลีก และ ยังช่วยให้ ปราสาทสายฟ้า เสียประตูที่น้อยสุดในลีกเพียง 24 ลูกเท่านั้น

    ปัจจุบัน ศิวรักษ์ ยังอยู่กับสโมสรเป็นปีที่ 10 ติดต่อกัน และ ยังครองมือหนึ่งไว้ได้อย่างเหนียวแน่น