ดรีมทีมสีส้ม : 11 นักเตะชุดที่ดีสุดตลอดกาลของ เนเธอร์แลนด์

ตำนานผู้รักษาประตูของ อาแย็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ประเดิมเฝ้าเสาให้ทีมชาติเมื่อเดือนมิถุนายนปี 1995 และครองมือหนึ่งของทีมมาอย่างยาวนาน จนประกาศเลิกเล่นทีมชาติหลังยูโร 2008 แต่กลับมาช่วยทีมอีกครั้งในช่วงสั้นๆในศึกฟุตบอลโลก 2010 รอบคัดเลือก เนื่องจากทีมเจอวิกฤติขาดแคลนผู้รักษาประตู

แม้ผู้รักษาประตูอย่าง ฮันส์ ฟาน บรูเคเลน และ แยน ฟาน เบเวเรน จะยอดเยี่ยมแค่ไหน แต่ไม่มีใครเหนือกว่า ฟาน เดอ ซาร์ ในตำแหน่งนี้

ซูร์เบียร์ ครองตำแหน่งแบ็คขวาตัวจริงของ เนเธอร์แลนด์ ในช่วงปี 1966 ถึง 1978 และเป็นตำนานของ อาแย็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ลงเล่นทีมชาติไปทั้งสิ้น 60 นัด ทำไป 3 ประตู

เขาเป็นกำลังสำคัญของอัศวินสีส้มชุดที่เข้าชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1974 และ 1978 แต่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ทั้งสองเกม

คูมัน คือหนึ่งในกองหลังที่ได้รับการยกย่องว่าดีสุดตลอดกาลของเนเธอร์แลนด์และของโลก โดยเฉพาะในเรื่องการทำประตู

เขาเปิดตัวกับทีมชาติในเกมกับ สวีเดน เมื่อเดือนเมษายน ปี 1983 และเป็นกำลังสำคัญของทีมอย่างยาวนาน ช่วงเวลาที่ดีสุดของเขาคือในยูโร 1988 ที่เขาเป็นคนยิงจุดโทษให้ขุนพลดัตช์เอาชนะ เยอรมัน ในรอบรองชนะเลิศ ก่อนจะผ่านเข้าไปชนะสหภาพโซเวียต 2-0 ในนัดชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์ทัวร?นาเม้นท์ระดับชาติรายการเดียวของพวกเขาได้สำเร็จ

เนเธอร์แลนด์ มีกองหลังชั้นยอดมากมายทั้ง ยาป สตัม, อารี ฮาน และ แฟรงค์ เดอ บัวร์ แต่สุดท้ายแล้ว แฟรงค์ ไรจ์การ์ด คือคนที่เหมาะจะมาเป็นคู่ขาของ คูมัน มากที่สุด

ตำนานของ เอซี มิลาน ประเดิมสนามให้ทีมชาติเมื่อปี 1981 เป็นส่วนหนึ่งของทีมชุดแชมป์ยูโร 1988 และเล่นร่วมกับ คูมัน ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ รวมทั้งสิ้นรับใช้ทีมชาติไป 73 นัด ทำไป 10 ประตู

รุด โครล คือแบ็คซ้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเนเธอร์แลนด์ เขาเปิดตัวในเกมกับทีมชาติอังกฤษเมื่อปี 1969 และลงสนามไปทั้งสิ้น 83 นัด ก่อนจะเลิกเล่นไปเมื่อปี 1983

เขาเป็นกำลังสำคัญช่วยให้อัศวินสีส้มผ่านเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลกปี 1974 และเป็นคนแอสซิสต์ให้ โยฮัน ครัฟฟ์ ยิงประตูบราซิล รวมถึงทำประตูสุดสวยได้ในเกมกับอาร์เจนตินาด้วย

นีสเก้นส์ ได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในกองกลางที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเนเธอร์แลนด์ และเป็นกำลังสำคัญของทีมชุดรองแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1974 และ 1978

อดีตยอดแข้งของ อาแย็กซ์ อัมสเตอร์ดัม และ บาร์เซโลนา ลงสนามให้ทีมชาติไปทั้งสิ้น 49 นัด ทำไป 17 ประตู และเป็นนักเตะที่ทำประตูเร็วสุดในฟุตบอลโลกนัดชิงชนะเลิศ โดยใช้เวลาเพียง 1 นาทีกับอีก 30 วินาทีเท่านั้น ในเกมพบ เยอรมัน เมื่อปี 1974

ฟาน ฮาเนเกม เป็นอีกหนึ่งสมาชิกคนสำคัญของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ชุดรองแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1974 โดยมีเท้าซ้ายที่เปิดบอลได้อย่างแม่นยำ

เขาลงรับใช้ทีมชาติไปทั้งสิ้น 52 นัด จัดเป็นกองกลางที่สมบูรณ์แบบทั้ง้กมรับและรุก จนได้รับเลือกให้ติดทีมก่อนอีกหนึ่งยอดนักเตะอย่าง เอ็ดการ์ ดาวิดส์

ร็อบเบน ลงเล่นให้ทีมชาติไปทั้งสิ้น 96 นัด ทำไป 37 ประตู โดยเล่นในตำแหน่งปีกขวาตลอดระยะเวลา 14 ปี กับทีมชุดใหญ่ และเป็นหนึ่งในตัวริมเส้นที่ได้รับการยกย่องว่าอันตรายที่สุดคนหนึ่งคนโลก

ดาวเตะระดับตำนานของ บาเยิร์น มิวนิค ลงเล่นฟุตบอลโลกถึง 4 ครั้ง ลงสนามไป 15 นัด ทำไป 6 ประตูกับ 6 แอสซิสต์

กุลลิท เป็นนักเตะที่มีความสามารถรอบด้านมากที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยเขาเล่นได้ทั้งกองหน้า, กองกลาง และ กองหลัง ซึ่งทำได้ยอดเยี่ยมทุกตำแหน่ง

เขาประเดิมสนามให้ทีมชาติเมื่อปี 1981 และเป็นกัปตันทีมชุดคว้าแชมป์ยูโร 1988 แต่ช่วงเวลาของเขากับทีมชาติจบลงในปี 1994 เมื่อเขามีปัญหากับ ดิค อั๊ดโวคาท กุนซือในเวลานั้น ทำให้เขาเดินออกจากแคมป์ทีมชาติก่อนฟุตบอลโลก 1994 จะเริ่มเพียงไม่นาน และไม่กลับมารับใช้ทัพอัศวินสีส้มอีกเลย

โยฮัน ครัฟฟ์ คือหนึ่งในนักเตะที่ดีสุดตลอดกาลของโลก โดยมี บัลลงดอร์ 3 สมัย เป็นตัวการันตีความยอดเยี่ยม

อัจฉริยะลูกหนังชาวดัตช์ อยู่ในทีมชุดรองแชมป์ฟุตบอลโลกปี 1974 และ อันดับสาม ยูโร 1976 ก่อนจะปฏิเสธการลงเล่นในฟุตบอลโลกปี 1978 ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยหลังพบว่ามีคนพยายามจะลักพาตัวเขาและครอบครัว

รวมทั้งสิ้น ครัฟฟ์ ลงสนามให้ทีมชาติไป 48 นัด ทำไป 33 ประตู

ฟาน บาสเทน ได้รับการยกย่องว่าคือกองหน้าที่ดีสุดตลอดกาลของ เนเธอร์แลนด์ และเป็นเจ้าของรางวัลบัลลงดอร์ถึง 3 สมัย

เขาพาพลพรรคอัศวินสีส้มคว้าแชมป์ยูโร 1988 และเป็นดาวซัลโวของทัวร์นาเม้นท์ด้วยผลงาน 5 ประตู ซึ่งรวมถึงลูกวอลเลย์อันเป็นตำนานในเกมรอบชิงชนะเลิศกับสหภาพโซเวียต

แต่หนึ่งสถิติที่น่าเหลือเชื่อคือ เขาไม่เคยทำประตูในศึกฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย ได้เลย