จาก “เฮงซัง” ถึง “กวินทร์ : ย้อนรอยนักเตะไทยที่ค้าแข้งในญี่ปุ่นตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน

อดีตกองกลางระดับตำนานทีมชาติไทย คือผู้บุกเบิกแข้งไทยสู่แดนซามูไรอย่างแท้จริง... 

“โค้ชเฮง” โชว์ฝีเท้าในรายการควีนส์คัพปี 1976 จนเป็นที่ประทับใจสโมสรยันมาร์ ดีเซล ทีมดังจากญี่ปุ่นที่เข้าร่วมแข่งขันด้วย ก่อนจับเซ็นสัญญาไปร่วมทีมทันทีในปี 1977 การค้าแข้งในแดนซามูไรของ “โค้ชเฮง” ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เมื่อได้รับเลือกให้เป็นหนึ่งในนักฟุตบอลยอดเยี่ยมประจำฤดูกาล และเป็นผู้ที่ทำประตูสูงสุดในฟุตบอลถ้วยของญี่ปุ่นจากผลงาน 6 ประตู และยิงประตูในลีกของญี่ปุ่นได้ทั้งสิ้น 14 ประตู 

นอกจากนี้ยังเคยย้ายไปเล่นกับ มัตสึชิตะ(กัมบะ โอซาก้า ในปัจจุบัน) ซึ่งหลังแขวนสตั๊ดยังผันตัวไปรับบทบาทโค้ชของทีมช่วงปี 1988-1995 ก่อนจะกลับมาคุมทีมในไทย และกลับไปรับงานคุมทีม ไกนาเร ต็อดโตริ ในปี 2007-2009 ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขามีส่วนผลักดันแข้งไทยไปเล่นที่ญี่ปุ่น รวมถึงสองดาวรุ่งอย่าง วรชิต กนิตศรีบำเพ็ญ ที่เคยบินไปทดสอบฝีเท้า และ สิทธิโชค ภาโส ที่ได้เซ็นสัญญากับ คาโงชิมา เอฟซี 

กองกลางดีกรีแชมป์ซีเกมส์ 3 สมัย เจ้าของฉายา “มิดฟิลด์อัจฉริยะ” เป็นนักเตะที่มีสไตล์การเล่นโดดเด่นเฉพาะตัว ทักษะยอดเยี่ยม วางบอลแม่นยำ เขาเคยย้ายไปเล่นกับ แทจิน มัตสึยาม(เอฮิเมะ เอฟซี ในปัจจุบัน) ในปี 1985 ก่อนจะเป็นใบเบิกทางสู่ยุโรปกับสโมสร วีบอร์ก ในประเทศเดนมาร์ก

พิชัย คงศรี หรือ “หลอเรดาร์” อดีตกองหน้าชั้นยอดวงการลูกหนังไทยเป็นอีกรายหนึ่งที่เคยย้ายไปค้าแข้งในประเทศญี่ปุ่นช่วงสั้นๆ โดยเซ็นสัญญากับ แทจิน มัตสึยามา ทีมเดียวกับ วรวรรณ ชิตะวานิช ในปี 2528

เขาคือกองหลังที่ดีที่สุดคนหนึ่งเท่าที่วงการฟุตบอลไทยเคยมีจนถูกยกเป็นตำนานหมายเลข 7 ของทีมชาติไทย ฝีเท้าของเขาจัดว่ายอดเยี่ยมเป็นปราการหลังที่ครบเครื่องไม่ว่าจะความแข็งแกร่ง ดุดัน กระทั่งถูก วิทยา เลาหกุล กุนซือมัตสึชิตะในเวลานั้นชักชวนไปร่วมทีมในปี 1989 ซึ่งสามารถสร้างฟอร์มการเล่นได้เหนือคาดคาดหมาย ก่อนจะย้ายกลับเมืองไทยในเวลาต่อมา

รณชัย เป็นแข้งลูกหม้อของสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ก่อนจะไต่เต้าสู่ชุดใหญ่ โดยช่วงปี 1990 ได้รับโอกาสสำคัญในชีวิตเมื่อถูก มัตสึชิตะ ซึ่งมี “โค้ชเฮง” วิทยา เลาหกุล เป็นกุนซือในเวลานั้น คว้าตัวไปร่วมทีม โดยค้าแข้งอยู่สองฤดูกาล หลังจากนั้นเขาย้ายกลับมาเล่นในเมืองไทย ก่อนกลายเป็นดาวซัลโวไทยลีกยุคแรกในปี 1998 จากผลงานยิง 23 ประตู

ปี 1990 ชื่อของ คอสโมออยส์ เป็นที่รู้จักของแฟนฟุตบอลไทยหลังให้ความสนใจพ่อค้าแข้งแดนสยาม และคว้าไปร่วมทีมหลายราย ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ พิชิตพล อุทัยกุล อดีตนักฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ย้ายไปร่วมทัพในปีดังกล่าว

ในปี 1993 ประเทศญี่ปุ่นจัดตั้งลีกฟุตบอลอาชีพเต็มตัวขึ้นครั้งแรกในชื่อ เจลีก ซึ่งเวลานั้นนักเตะไทยห่างหายไปจากวงการลูกหนังซามูไรอยู่พักใหญ่ ก่อนมาถึงยุคของ อดุล หละโสะ กองกลางพันธ์ดุ ที่ฝีเท้าโดดเด่นในเวลานั้นถูก ไกนาเร ต็อดโตริ คว้าไปร่วมทัพในปี 2008

อย่างไรก็ตาม “บังดุล” ไม่ถูกนับว่าเป็นแข้งไทยคนแรกในเจลีก เพราะเวลานั้นต้นสังกัดของเขาเล่นอยู่ใน เจเอฟแอลลีก ซึ่งไม่ได้รับการถือว่าเป็นเจลีก เพราะยังไม่ใช่ลีกอาชีพเต็มตัว (ลีกกึ่งอาชีพ) แต่ก็นับเป็นผู้บุกเบิกตลาดแข้งไทยในญี่ปุ่นยุคใหม่ที่ได้รับความสนใจไม่น้อย

เจลีกยกระดับมาตรสูงขึ้น และจัดเป็นลีกฟุตบอลอาชีพที่ดีที่สุดของเอเชียมีผู้เล่นระดับโลกหลายคนย้ายมาเล่นที่นี่ในช่วงบั้นปลายการค้าแข้ง ดังนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายที่นักเตะอาเซียนสักคนจะมีโอกาสย้ายไปค้าแข้ง ทว่าฝีเท้าของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ สร้างปรากฏการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ได้สำเร็จจากฝีเท้าที่โดดเด่นในทีมชาติ และสโมสรเอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด กระทั่งถูก คอนซาโดเล ซัปโปโร คว้าตัวไปร่วมทีมในปี 2017 ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี ครึ่ง

จอมทัพชาวไทยสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมพร้อมพิสูจน์ให้เห็นว่านักเตะไทยสามารถเล่นในเจลีกได้จนทำให้ตลาดแข้งไทยกลับมาได้รับความสนใจจากทีมในญี่ปุ่นอีกครั้ง ซึ่ง ชนาธิป ถูกซื้อขาดในปีต่อมา และยังคงเป็นกำลังสำคัญของทีมจนถึงเวลานี้ โดยฤดูกาล 2019 เขาเพิ่งพา “นกเค้าแมวเมืองเหนือ” คว้ารองแชมป์ลูวาน คัพ ได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์สโมสร

ดาวรุ่งจาก ชลบุรี เอฟซี ถูก คาโงชิมา ยูไนเต็ด สโมสรในเจลีก 3 ดึงตัวไปร่วมทีมในปี 2017 เขากลายเป็นแข้งไทยคนแรกที่ค้าแข้งในเจลีกอย่างเป็นทางการ เนื่องจากเวลานั้นสัญญาของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่ย้ายไปอยู่กับ คอนซาโดเล ซัปโปโร จะเริ่มต้นในเลกสองของฤดูกาล 2017 ส่วน สิทธิโชค ภาโส มีสัญญาเริ่มต้นตั้งแต่ 1 กุมภาพันธ์เป็นต้นไป

สิทธิโชค ประเดิมสนามให้ต้นสังกัดครั้งแรกในเกมที่บุกไปแพ้ คาตัลเลอร์ โตยามา 0-1 โดยถูกเปลี่ยนลงมาเป็นสำรอง อย่างไรก็ตามด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่อำนวย ต้องใช้ชีวิตคนเดียวไม่มีล่ามคอยช่วย ทำให้เขาเจออุปสรรคมากมาย และได้รับโอกาสลงสนามไปเพียง 5 นัด ก่อนย้ายกลับมาค้าแข้งกับ ชลบุรี เอฟซี อีกครั้งในฤดูกาล 2018

ดาวรุ่ง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ได้รับโอกาสสำคัญเมื่อ เอฟซี โตเกียว ซึ่งเป็นทีมพันธมิตรเซ็นสัญญายืมตัวไปร่วมทีมในฤดูกาล 2017 เพียงระยะเวลาไม่นานเขาถูกเปลี่ยนจากปีกความเร็วสูงกลายเป็นวิ่งแบ็คจอมบุกที่ก้าวมาเป็นกำลังสำคัญของทีมใน รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ในเจลีก 3 ร่วมกับวันเดอร์คิดแดนซามูไรอย่าง ทาเคฟุสะ คุโบะ

โดยเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลที่พบกับ เซเรโซ โอซากา U-23 จักรกฤษณ์ กลายเป็นผู้เล่นไทยคนแรกที่ยิงประตูได้ในลีกฟุตบอลอาชีพของญี่ปุ่น หลังใช้เวลาเพียง 21 วินาที ซัดประตูให้ต้นสังกัดออกนำคู่แข่ง ก่อนจบลงด้วยชัยชนะของทีมด้วยสกอร์ 2-1 จากผลงานอันน่าประทับใจทำให้เขาถูกขยายสัญญายืมตัวอีกหนึ่งฤดูกาล

จักรกฤษณ์ ลงสนามในการค้าแข้งที่ญี่ปุ่นไปทั้งสิ้น 33 นัด ยิง 2 ประตู และจ่ายให้เพื่อนร่วมทีมไป 1 ก่อนจะย้ายกลับมาเล่นในไทยเมื่อฤดูกาล 2019 ที่ผ่านมา

แบ็คซ้ายตัวเก่งทีมชาติไทย สร้างความฮือฮาหลังย้ายไปร่วมทีม วิสเซล โกเบ ยอดทีมแห่งศึกเจ1ลีก ด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาล 2018 ก่อนจะค่อยๆขยับขึ้นมาเป็นตัวหลักของสโมสร นอกจากนี้ยังมีโอกาสเล่นร่วมกับ อันเดรส อิเนียสตา กองกลางระดับโลกจาก บาร์เซโลนา ที่ย้ายมาร่วมทีมในภายหลังอีกด้วย

ธีราทร ลงสนามในลีกให้ โกเบ 28 นัด เป็นตัวจริงถึง 23 เกม ฝีเท้าของเขากลายเป็นที่จับตาของสโมสรคู่แข่ง ก่อนท้ายที่สุดจะย้ายไปเป็นสมาชิกใหม่ของ โยโกฮามา เอฟ มารินอส ในฤดูกาล 2019 และได้รับโอกาสลงสนามอย่างต่อเนื่อง

ในเกมกับ เอฟซี โตเกียว แบ็คซ้ายวัย 30 ปี เป็นผู้ซัดประตูขึ้นนำให้ “ทัพกะลาสี” และจบลงด้วยชัยชนะ 3-0 พร้อมกลายเป็นแข้งไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าแชมป์เจลีกมาครองได้สำเร็จ รวมแล้ว ธีราทร ลงรับใช้ มารินอส ในลีกไปทั้งสิ้น 25 นัด ยิง 3 ประตู และทำ 4 แอสซิสต์ ก่อนจะถูกซื้อขาดจาก “กิเลนผยอง” ในปีต่อมา ซึ่งปัจจุบันกำลังช่วยต้นสังกัดลุ้นป้องกันแชมป์ลีกอีกสมัย

แม้จะย้ายไปเล่นในเจลีกเพียงฤดูกาลเดียว แต่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแข้งที่ประสบความสำเร็จไม่น้อย โดย ธีรศิลป์ แดงดา ย้ายไปร่วมทีม ซานเฟรซเซ ฮิโรชิมา ในฤดูกาล 2018 ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี เขาใช้เวลาไม่นานก่อนสร้างประวัติศาสตร์เป็นผู้เล่นไทยคนแรกที่ยิงประตูได้ในเจ1ลีก หลังซัดประตูใส่ คอนซาโดเล ซัปโปโร และเป็นประตูชัยพาทีมชนะ 1-0 ก่อนที่ฤดูกาลนั้นจะจบด้วยตำแหน่งรองแชมป์ลีก โดยในปีดังกล่าว ธีรศิลป์ ยิงไป 7 ประตู 3 แอสซิสต์ จากการลงสนามทุกรายการ 37 นัด 

หลังจากนั้นย้ายกลับมาเล่นกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด อีกครั้งในฤดูกาล 2019 ก่อนที่ฤดูกาลล่าสุดจะถูก ชิมิสุ เอสพัลส์ คว้าตัวไปร่วมทัพด้วยสัญญาซื้อขาด 2 ปี ซึ่งเพียงเกมแรกที่ลงสนามให้ต้นสังกัดใหม่ หัวหอกวัย 31 ปี  ยิงประตูได้ทันทีในเกมที่แพ้ เอฟซี โตเกียว 1-3 ซึ่งลูกยิงดังกล่าวถูกเลือกเป็น 1 ใน 10 ประตูยอดเยี่ยมของการแข่งขันเจลีกสัปดาห์แรกอีกด้วย

กองกลางวัย 23 ปี ย้ายจาก บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ไปค้าแข้งกับ เซเรโซ โอซากา สโมสรดังแห่งศึกเจลีก กับทีมในรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ด้วยสัญญายืมตัวหนึ่งฤดูกาล เขากลายเป็นนักเตะไทยรายที่ 3 ที่ย้ายไปเล่นในญี่ปุ่นในฤดูกาล 2018 ต่อจาก ธีรศิลป์ แดงดา (ซานเฟรชเช ฮิโรชิมา) และ ธีราทร บุญมาทัน (วิสเซิล โกเบ) อย่างไรก็ตามต้องเผชิญกับอาการบาดเจ็บรบกวนทำให้โอกาสลงสนามค่อนข้างน้อย ก่อนจะย้ายกลับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในปี 2019

บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ส่งดาวรุ่งในอคาเดมีอย่าง ตะวัน โครตสุโพธิ์ บินไปเก็บประสบการณ์กับ เซเรโซ โอซากา ด้วยสัญญายืมตัว 1 ปี ในฤดูกาล 2019 และได้รับโอกาสสนามช่วยทีมรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ไปทั้งสิ้น 13 นัด ก่อนจะถูก เซเรโซฯ ขยายสัญญายืมตัวอีก 1 ปี

ปีกลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส เปี่ยมด้วยความเร็ว แข็งแกร่ง และความคล่องตัว เขาโชว์ลีลาการะชากลากเลื้อยจนทำผลงานได้น่าประทับใจกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ส่งผลให้ โทคุชิมา วอร์ติส สโมสรแห่งศึกเจลีก 2 ญี่ปุ่น ตัดสินใจดึงไปร่วมทัพด้วยสัญญายืมตัวในฤดูกาล 2019 ทว่าเส้นทางการค้าแข้งในแดนซามูไรไม่ประสบความสำเร็จนัก จักรกฤษ แทบไม่ได้รับโอกาสลงสนาม ก่อนจะถูกยกเลิกสัญญาเพียงเลกเดียว และกลับมาเล่นให้ “เดอะ แรบบิท” ในที่สุด

นายด่านชาวไทย ต้องประสบปัญหาอาการบาดเจ็บรบกวน กระทั่งหลุดจากตำแหน่งผู้รักษาประตูของ โอเอช ลูเวิน ทีมดังลีกรองเบลเยียม ขณะเดียวกัน คอนซาโดเล ซัปโปโร ต้นสังกัดของ ชนาธิป สรงกระสินธ์ กำลังมองหาผู้รักษาประตูคนใหม่มาใช้งานแทนที่ กู ซึง ยุน นายด่านมือหนึ่งชาวเกาหลีใต้ ที่ต้องกลับไปเป็นทหาร ที่บ้านเกิด จึงตัดสินใจยืมตัว กวินทร์ มาเฝ้าเสาด้วยสัญญา 1 ปี ล่าสุดเพิ่งลงเกมอุ่นเครื่องช่วย “นกเค้าแมวเมืองเหนือ” เอาชนะ คาชิมา อันท์เลอร์ส 4-2 โดยมีลุ้นแย่งตำแหน่งมือหนึ่งของทีมในฤดูกาลนี้