Phil Foden Manchester City academy graduates GFXGetty/GOAL

จากไรท์-ฟิลลิปส์ ถึง โฟเดน : 12 สุดยอดผลผลิตอะคาเดมี แมนฯซิตี้

  • Alan Oakes

    อลัน โอ๊คส์

    โอ๊คส์ รับใช้ แมนฯซิตี้ ไปถึง 676 นัดในช่วงปี 1959 - 1976 แม้ว่าจะไม่เคยติดทีมชาติอังกฤษ แต่เขาเป็นหนึ่งในนักเตะที่ประสบความสำเร็จมากสุดในยุคนั้น โดยคว้าแชมป์ได้ทั้ง เอฟเอ คัพ, ลีกคัพ และ คัพ วินเนอร์ส คัพ

    หลังจากแขวนสตั๊ดเขาถูกเสนอชื่อเข้าไปอยู่ในหอเกียรติยศของ ซิตี้ ด้วย

  • โฆษณา
  • Neil Young

    นีล ยัง

    ยัง ลงสนามให้ แมนฯซิตี้ 415 เกม ในระยะเวลา 10 ปี เป็นหนึ่งในขวัญใจตลอดกาลของสโมสรเคียงข้างตำนานอย่าง โคลิน เบลล์, ฟรานซิส ลี และ ไมค์ ซัมเมอร์บี

    เขาทำไปทั้งสิ้น 108 ประตู และหนึ่งในประตูที่สำคัญสุดคือในนัดชิงชนะเลิศเอฟเอ คัพ ปี 1969 กับ เลสเตอร์ ซิตี้ และ ประตูในนัดชิงชนะเลิศ คัพ วินเนอร์ส คัพ ด้วย

  • Joe Corrigan Manchester City 1981Getty

    โจ คาร์ริแกน

    คาร์ริแกน เป็นหนึ่งในผู้รักษาประตูฝีมือดี แต่โชคร้ายที่เขาเกิดในยุคเดียวกับ ปีเตอร์ ชิลตัน และ เรย์ คลีเมนต์ สองตำนานจอมหนึบของทีมชาติอังกฤษ แต่เขายังได้โอกาสลงเฝ้าเสาให้สิงโตคำราม 9 นัด

    เขาย้ายมาอยู่กับเรือใบสีฟ้าตั้งแต่อายุ 15 ปี และเปิดตัวกับทีมชุดใหญ่ตอนอายุ 18 ปี ลงสนามไปทั้งสิ้น 603 นัดตลอดระยะเวลา 15 ปี โดยหลังแขวนถุงมือเขากลายเป็นโค้ชผู้รักษาประตูที่ประสบความสำเร็จกับ ลิเวอร์พูล และ เวสต์บรอมวิช

  • Peter BarnesGetty

    ปีเตอร์ บาร์นส์

    แฟนบอลของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อาจคุนเคยชื่อของ ปีเตอร์ บาร์นส์ อยู่บ้าง แต่ที่จริงแล้วแนวรุกรายนี้คือเด็กปั้นจากทีมเยาวชนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

    บาร์นส์ ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ของ ซิตี้ ด้วยวัยเพียง 17 ปี และอีกสองปีต่อมาเขาได้รับเลือกให้เป็นดาวรุ่งยอดเยี่ยมแห่งปีของ PFA หลังทำประตูในเกมลีกคัพ ช่วยให้ทีมเอาชนะ นิวคาสเซิล และถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษ

  • Ian Bishop and Paul LakeGetty Images

    พอล เลค

    พอล เลค ถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในผลผลิตจากอะคาเดมีที่ดีสุดของ แมนฯซิตี้ โดยเขาเป็นดาวเด่นของทีมชุดคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ ปี 1986 และถูกมองว่าจะกลายเป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษในอนาคต

    เขาเกือบถูกเรียกตัวติดทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่เมื่อปี 1990 แต่ได้รับบาดเจ็บที่เข่าอย่างรุนแรงเสียก่อน แม้จะผ่านการผ่าตัดหลายครั้ง แต่น่าเสียดายที่อีก 6 ปีต่อมาเขาต้องแขวนสตั๊ด

  • Shaun Wright-PhillipsGetty Images

    ฌอน ไรท์-ฟิลลิปส์

    ไรท์-ฟิลลิปส์ เป็นลูกชายของ เอียน ไรท์ ตำนานกองหน้าของ อาร์เซนอล เขาเป็นอีกหนึ่งความภาคภูมิใจของอะคาเดมีสโมสร

    แม้จะมีส่วนสูงเพียง 5 ฟุต 5 นิ้ว แต่เขามีสไตล์การเล่นเกมรุกที่ดุดันโดนใจแฟนบอล โดยเขาถูก เชลซี ซื้อตัวไปร่วมทีมด้วยค่าตัวถึง 20 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2005 แต่อีกสามปีต่อมาเขากัลบมาอยู่กับ ซิตี้ อีกครั้ง และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ คัพ ได้เมื่อปี 2011

  • Daniel Sturridge

    ดาเนียล สเตอร์ริดจ์

    สเตอร์ริดจ์ เติบโตมาจากอะคาเดมีของ แมนฯซิตี้ ช่วยให้ทีมเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอ ยูธ คัพ 2 ครั้ง ก่อนจะได้ประเดิมสนามกับทีมชุดใหญ่ด้วยวัยเพียง 17 ปี

    เขาได้รับการจับตามองอย่างมากหลังจากย้ายไป เชลซี และ ลิเวอร์พูล แต่ด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บทำให้เจ้าตัวมีเส้นทางลูกหนังที่ไม่สวยหรูอย่างที่หลายคนคาดหวัง

  • Micah Richards Manchester CityGetty

    ไมกาห์ ริชาร์ดส์

    ริชาร์ดส์ เป็นอีกหนึ่งผลผลิตชั้นยอดของอะคาเดมี แมนฯซิตี้ โดยเมื่อปี 2005 เขาได้โอกาสขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ และทำประตูตีเสมอ แอสตัน วิลลา ในช่วงทดเวลาเจ็บในศึก เอฟเอ คัพ

    หนึ่งปีถัดมาเขากลายเป็นกองหลังอายุน้อยที่สุดที่ลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษ อย่างไรก็ตาม ปัญหาอาการบาดเจ็บทำให้เส้นทางลูกหนังของเขาไปไม่ไกลเท่าที่ควร ปัจจุบันเขาเป็นคอมเมนเตเตอร์ฟุตบอลชื่อดังทางรายการทีวี

  • Kasper Schmeichel

    แคสเปอร์ ชไมเคิล

    แคสเปอร์ ได้เป็นตัวเลือกแรกในช่วงต้นฤดูกาล 2007-08 เก็บได้สามคลีนชีตพา แมนฯซิตี้ ขึ้นนำเป็นจ่าฝูง แต่อีกไม่นานเขาก็เสียตำแหน่งให้กับ โจ ฮาร์ท

    อย่างไรก็ตาม เขาประสบความสำเร็จอย่างมากหลังย้ายจากเรือใบสีฟ้าไปอยู่กับ เลสเตอร์ ซิตี้ โดยคว้าได้ทั้งแชมป์พรีเมียร์ลีก และ เอฟเอ คัพ และลงเล่นให้ทีมชาติเดนมาร์กไปแล้วเกือบ 100 นัด

  • Kieran Trippier

    คีแรน ทริปเปียร์

    ทริปเปียร์ มาอยู่กับอะคาเดมีของ แมนฯซิตี้ ตั้งแต่อายุ 9 ปี และช่วยให้ทีมคว้าแชมป์ เอฟเอ ยูธ คัพ เมื่อป 2008 แต่ไม่เคยได้ลงเล่นกับทีมชุดใหญ่

    แบ็คขวาจอมลุยมีเส้นทางการค้าแข้งที่ประสบความสำเร็จ โดยเขาคว้าแชมป์ ลาลีกา กับแอตเลติโก มาดริด, ลงเล่นนัดชิงชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก กับ สเปอร์ส และเป็นนักเตะอังกฤษคนที่สองต่อจาก เซอร์บ็อบบี้ ชาร์ลตัน ที่ยิงประตูในรอบรองชนะเลิศฟุตบอลโลก

  • Jadon Sancho Manchester CityGetty Images

    จาดอน ซานโช

    เป๊ป กวาร์ดิโอลา ชื่นชอบในฝีเท้าของ ซานโช อย่างมาก แต่แนวรุกทีมชาติอังกฤษกลับไม่เคยได้เล่นกับทีมชุดใหญ่ของสโมสร และเลือกที่จะย้ายไปอยู่กับ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์

    กับทีมเสือเหลืองเขากลายเป็นหนึ่งในดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในยุโรป จนทำให้ แมนฯยูไนเต็ด ยอมทุ่มเงิน 73 ล้านปอนด์ ดึงตัวเขากลับมาค้าแข้งในพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

  • Phil Foden

    ฟิล โฟเดน

    โฟเดน อายุเพียง 22 ปี แต่เขาเป็นนักเตะจากอะคาเดมีของสโมสรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด โดย เป๊ป กวาร์ดิโอลา ดึงตัวเขามาเล่นในทีมชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 17 ปี

    ดาวเตะทีมชาติอังกฤษคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมากแล้ว 4 สมัย ครั้งหนึ่ง มิเกล อาร์เตต้า เคยพูดถึงศักยภาพของ โฟเดน เอาไว้ว่า 'ไร้ขีดจำกัด'