จากเปเลถึงวินิซิอุส : 10 สุดยอดวอนเดอร์คิดตลอดกาลของบราซิล

นักเตะที่ได้รับการยกย่องว่ายอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของบราซิล และอาจจะยอดเยี่ยมที่สุดตลอดกาลของโลก เปเลได้แชมป์ฟุตบอลโลกตั้งแต่อายุ 17 ปี ประเดิมสนามนัดแรกกับซานโตสในวัย 15 ปี และยิงไปมากกว่า 1,000 ประตูตลอดชีวิตค้าแข้ง

เขาเป็นนักเตะคนเดียวที่ได้แชมป์ฟุตบอลโลก 3 สมัย และยังคงเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมชาติบราซิลด้วยจำนวน 77 ประตู จากการลงสนาม 92 นัด

พรสวรรค์ของซิโก้ทำให้เขาถูกขนานนามว่า "เปเล่ขาว" ในประเทศบ้านเกิด แม้ว่าจะไม่เคยได้แชมป์ฟุตบอลโลกมาครอบครอง แต่เขาก็ยังได้รับการยอมรับในฐานะนักเตะที่ดีที่สุดตลอดกาลคนหนึ่งของทวีปอเมริกาใต้

ซิโก้ลงเล่นนัดแรกให้ฟลาเมงโก้ในวัย 18 ปี และยิงไปมากกว่า 400 ประตูให้สโมสร ก่อนจะย้ายไปเล่นในยุโรปกับอูดิเนเซ กลับมาเล่นให้ฟลาเมงโก้อีกครั้ง และปิดฉากชีวิตค้าแข้งกับคาชิมา อันเลอร์ส รวมยิงได้ 48 ประตูให้ทีมขาติบราซิล

โรมาริโอ เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งกับ วาสโก ดา กามา ด้วยวัยเพียง 19 ปี และย้ายไปเล่นในยุโรปกับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน ในวัย 22 ปี ก่อนจะโด่งดังสุดขีดสมัยเล่นให้บาร์เซโลนา

ด้วยทักษะการคอนโทรลบอลที่ยอดเยี่ยมทำให้เขาเล่นได้ไปจนถึงอายุ 40 ปี เคยได้แชมป์ฟุตบอลโลก 1 สมัยเมื่อปี 1994 ยิงได้ทั้งสิ้น 55 ประตู จาก 70 นัดให้ทัพแซมบ้า

โรนัลโด้ ลงสนามนัดแรกให้ครูไซโรในวัยเพียง 16 ปี หลังจากผลงานที่โดดเด่นในบราซิล เขาตัดสินใจเดินตามรอยโรมาริโอด้วยการย้ายไปเล่นในยุโรปกับพีเอสวี ไอนด์โฮเฟน และบาร์เซโลนา ก่อนจะย้ายมาอยู่กับอินเตอรื มิลาน และเรอัล มาดริด ในภายหลัง

โรนัลโด้เป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติบราซิลชุดแชมป์ฟุตบอลโลก 1994 แต่ไม่ได้ลงสนามแม้แต่นัดเดียว อกหักในรอบชิงชนะเลิศฟุตบอลโลก 1998 ก่อนจะมาสมหวังในปี 2002 ยิงได้ 62 ประตู จาก 98 นัดในนามทีมชาติ และแม้ว่าจะมีอาการบาดเจ็บรบกวนตลอดชนิดค้าแข้ง เขาก็ยังถือเป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดที่เคยเล่นให้ทัพแซมบ้า

เดนิลสันเคยเป็นนักเตะที่มีค่าตัวแพงที่สุดในโลก ตอนที่ย้ายจากเซา เปาโล มาอยู่กับเรอัล เบติส เมือ่ปี 1998 แต่กลับไม่ค่อยประสบความสำเร็จนักในชีวิตค้าแข้ง โดยเฉพาะในทวีปยุโรป ด้วยสไตล์การเล่นที่ฉายเดี่ยวมากเกินไป และมักไม่ค่อยเข้ากับระบบของทีม

อย่างไรก็ดี เขาเป็นส่วนหนึ่งของทีมชาติชุดคว้าแชมป์ฟุตบอลโลก 2002 ได้ลงเล่น 5 นัดในฐานะตัวสำรอง รวมถึง 1 นาทีสั้นๆ ในเกมนัดชิงชนะเลิศกับเยอรมันด้วย

อาเดรียโนก็เหมือนเช่นเดนิลสัน ที่ไม่ได้ประสบความสำเร็จในชีวิตค้าแข้งเท่าที่หลายฝ่ายคาดหวังไว้แต่แรกเริ่ม หลังจากย้ายมาอยู่อินเตอร์ มิลาน ในวัย 19 ปี เขามีปัญหาเรื่องยาเสพติดและแอลกอฮอลจนไม่ได้รุ่งโรจน์อย่างที่ใครคาดหวังไว้

อย่างไรก็ดี อาเดรียโนยังยิงได้ถึง 27 ประตู จาก 48 นัดให้ทีมชาติบราซิล รวมถึงเคยคว้าแชมป์โคปา อเมริกา และคอนเฟดเดอเรชัน คัพ มาแล้ว

โรนัลดินโญ เป็นหนึ่งในนักเตะที่ดีที่สุดของทีมชาติบราซิลอย่างไม่ต้องสงสัย และเขาอาจจะเป็นนักเตะที่แฟนบอลชื่นชอบที่สุดคนหนึ่งเท่าที่เคยมีมา ด้วยลีลาการเล่นที่ตื่นตาตื่นใจกว่าใครตั้งแต่สมัยเริ่มค้าแข้งกับ เกรมิโอ ย้ายมาอยู่ในยุโรปกับ ปารีส แซงต์ แชร์กแมง และโด่งดังสุดขีดกับบาร์เซโลนา

เจ้าเหยินน้อย ได้บัลลงดอร์หนึ่งครั้งสมัยอยู่กับบาร์ซา ได้แชมป์ฟุตบอลโลก 2002 กับบราซิล ยิงได้ 33 ประตู จาก 97 นัดให้ทัพแซมบ้า และยังเป็นตำนานลูกหนังอยู่จนถึงทุกวันนี้

ได้รับการยกย่องจากเปเล่ว่าเป็นตัวแทนของเขาที่แท้จริง และทำผลงานได้อย่างโดดเด่นสมัยเล่นให้ซานโตสด้วยวัย 18 ปี 

อย่างไรก็ดี หลังจากย้ายไปเล่นให้เรอัล มาดริด ตามด้วยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ และเอซี มิลาน โรบินโญกลับทำผลงานไม่ได้สมตามที่หลายคนคาดหวังเอาไว้ตั้งแต่แรก ทว่าเจ้าตัวก็ยังฝากผลงาน 28 ประตูไว้กับการลงสนามในนามทีมชาติบราซิลรวม 100 นัด

เริ่มต้นชีวิตค้าแข้งในวัย 17 ปีกับซานโตส ก่อนจะย้ายไปอยู่กับบาร์เซโลนา และกลายเป็นนักเตะค่าตัวแพงที่สุดในโลกเมื่อย้ายมาเล่นให้ปารีส แซงต์ แชร์กแมง จนถึงปัจจุบัน

แข้งวัย 26 ปี ยิงไปถึง 57 ประตู จาก 90 นัดให้ทีมชาติบราซิลจนถึงตอนนี้ และยังมีโอกาสสร้างตำนานของเขาอีกมากทีเดียว แม้จะเพิ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักจากผลงานที่ไม่ค่อยดีนักในฟุตบอลโลก 2018 ที่ผ่านมา

วินิซิอุส จูเนียร์ เพิ่งจะอายุ 18 ปีไปหมาดๆ และมีอนาคตที่สดใสรออยู่ หลังจากเป็นดาวเด่นให้ฟลาเมงโก้ในบ้านเกิดของเขาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว

กองหน้ามากพรสวรรค์เซ็นสัญญากับฟลาเมงโก้ด้วยวัยเพียง 10 ปี และได้ลงเล่นอาชีพนัดแรกตอนอายุ 16 แม้จะยังไม่เคยเล่นให้ทีมชาติบราซิลชุดใหญ่ แต่ก็ได้รับการคาดหวังอย่างสูงว่าจะเป็นซูเปอร์สตาร์คนต่อไปของทัพแซมบ้า