จากเชียร์เรอร์ ถึงอิซัค : 15 อันดับนักเตะค่าตัวแพงสุดของนิวคาสเซิล

นิวคาสเซิล สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการคว้าตัว อลัน เชียร์เรอร์ มาร่วมทีมด้วยค่าตัวเป็นสถิติโลกในเวลานั้น ทั้งที่กองหน้าทีมชาติอังกฤษตกเป็นข่าวเชื่อมโยงกับทีมดังทั่วยุโรป

อย่างไรก็ตาม'ฮ็อทช็อต'ตอบแทนสโมสรได้คุ้มค่าทุกเม็ดเงิน เมื่อทำไปถึง 206 ประตูกับ 58 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 405 เกม และยังคงเป็นเข้าของสถิติดาวซัลโวสูงสุดของพรีเมียร์ลีกมาจนถึงปัจจุบันด้วยผลงาน 260 ประตู

แซงต์-มักซิแม็ง ย้ายมาร่วมทัพ นิวคาสเซิล ในช่วงซัมเมอร์ปี 2019 ด้วยค่าตัวถึง 16.20 ล้านปอนด์ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า

แนวรุกชาวฝรั่งเศสมีสไตล์การเล่นที่เอ็นเตอร์เทนแฟนบอล และกำลังมีข่าวเชื่อมโยงกับหลายทีมในพรีเมียร์ลีก และการย้ายทีมครั้งต่อไปของเขาเชื่อได้เลยว่าสาลิกาดงจะได้รับค่าตอบแทนคุ้มค่าแน่นอน

นิวคาสเซิล คว้าตัว โตแว็ง มาร่วมทีมเมื่อปี 2015 ด้วยค่าตัว 16.52 ล้านปอนด์ พร้อมความคาดหวังค่อนข้างสูงจากแฟนบอล

อย่างไรก็ตาม กองหน้าชาวฝรั่งเศสล้มเหลวในการปรับตัวเข้ากับสโมสร และถูก มาร์กเซย ยืมตัวกลับไปร่วมทีมหลังจากย้ายมาเล่นในอังกฤษเพียง 7 เดือน

มิโตรวิช ย้ายมาร่วมทัพ นิวคาสเซิล เมื่อช่วงซัมเมอร์ปี 2015 ด้วยค่าตัว 16.65 ล้านปอนด์ โดยทำไปเพียง 10 ประตูกับ 4 แอสซิสต์ จากการลงสนาม 40 เกมให้สโมสร

หัวหอกชาวเซอร์เบียผลงานไม่เปรี้ยงกับสาลิกาดงก่อนถูก ฟูแลม ยืมตัวไปร่วมทีมเมื่อเดือนมกราคมปี 2018 ก่อนจะถูกปล่อยตัวถาวรด้วยค่าตัว 22.23 ล้านปอนด์

นิวคาสเซิล คว้าตัว ไวจ์นัลดุม มาด้วยค่าตัว 18 ล้านปอนด์จาก พีเอสวี ไอน์โฮเฟน และกลายเป็นการเซ็นสัญญาที่ยอดเยี่ยมเมื่อทำไปถึง 11 ประตูกับ 5 แอสซิสต์ ในฤดูกาลแรกกับสโมสร

หลังทำผลงานได้โดดเด่นทำให้ ลิเวอร์พูล ต้องการได้ตัวเขาไปร่วมทีม ซึ่งนักเตะก็ต้องการย้ายขณะที่สาลิกาดงก็ได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่าเช่นกัน

ลูเก้ ย้ายมาอยู่ นิวคาสเซิล ด้วยค่าตัวถึง 18 ล้านปอนด์ พร้อมคาดหวังอย่างสูง แต่เขากลับลงเล่นให้ทีมไปเพียง 21 นัดในพรีเมียร์ลีกตลอด 2 ฤดูกาล และทำได้เพียง 1 ประตู เท่านั้น

คงไม่เกินไปนักที่จะบอกว่านี่คือการเซ็นสัญญาที่ล้มเหลวของสาลิกาดง และสโมสรต้องปล่อยตัวเขาออกด้วยค่าตัวเพียง 7.20 ล้านปอนด์เท่านั้น

นิวคาสเซิล คว้าตัว วิลสัน มาจาก บอร์นมัธ เมื่อปี 2020 ด้วยราคา 20.03 ล้านปอนด์ เพือเสริมความอันตรายในแนวรุก

วิลสัน พิสูจน์แล้วว่าเป็นการเสริมทัพที่ดีเมื่อเขาทำประตูได้ถึงเลขสองหลักในฤดูกาลแรกกับสโมสร อย่างไรก็ตามเขาเจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานบ่อยครั้งทำให้ผลงานไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร

นิวคาสเซิล ทุ่มเงิน 21.60 ล้านปอนด์คว้าตัว อัลมิรอน มาร่วมทัพ และกลายเป็นหนึ่งในนักเตะขวัญใจแฟนบอลในเวลานี้

อัลมิรอน พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นหนึ่งในนักเตะที่ย้ายมาจาก เมเจอร์ลีก แล้วทำผลงานได้ดีในพรีเมียร์ลีก โดยเขาลงเล่นไปแล้วมากกว่า 100 นัดให้สาลิกาดง และเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญในโปรเจ็คสร้างทีมใหม่ของสโมสร

นิวคาสเซิล คว้าตัว โอเวน มาจาก เรอัล มาดริด ด้วยค่าตัว 22.50 ล้านปอนด์ เพราะหัวหอกทีมชาติอังกฤษต้องการทีมเพื่อแสดงฝีเท้าสำหรับติดทัพสิงโตคำรามไปลุยซึกฟุตบอลโลก 2006

โอเวน โชคร้ายได้รับบาดเจ็บกระดูกเท้าแตก แม้จะฟื้นตัวทันเวลาสำหรับฟุตบอลโลก แต่หลังจากนั้นเขาบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าหัวเข่าขวาฉีกต้องพักเกือบทั้งฤดูกาลที่สองของเขากับสโมสร และอำลาทีมไปแบบไม่มีอะไรน่าจดจำเท่าที่ควร

วิลล็อค ย้ายมาอยู่กับ นิวคาสเซิล ด้วยสัญญายืมตัวเมื่อปี 2020 และกลายเป็นนักเตะที่ดีสุดของสโมสรในฤดูกาล 2020-21

จากนั้นเขาแจ้งกับ อาร์เซนอล ถึงความต้องการย้ายทีม จนในที่สุดสาลิกาดงยอมจ่ายเงิน 26.46 ล้านปอนด์ เพื่อคว้าตัวเขามาร่วมทีมแบบถาวร

นิวคาสเซิล ต้องการกองหน้ารายใหม่มาเสริมทัพในช่วงเดือนมกราคมของปี 2022 เพื่อมาช่วยทีมในการหนีตกชั้น และยอมทุ่มเงินถึง 27 ล้านปอนด์ ในการคว้าตัว คริส วู้ด

การได้ตัว วู้ด มาร่วมทีมไม่เพียงแต่เป็นการเสริมความแข็งแกร่งให้ทีมเท่านั้น แต่ยังเป็นตัดกำลัง เบิร์นลีย์ คู่แข่งหนีตกชั้นของพวกเขาในเวลานั้นด้วย

บอทแมน คือหนึ่งในกองหลังที่ได้รับการยกย่องว่าดีที่สุดของ ลีกเอิง และตกเป็นข่าวเชื่อมโยงอย่างหนักกับ เอซี มิลาน ยักษ์ใหญ่แห่ง กัลโช เซเรีย อา

แต่กลายเป็น นิวคาสเซิล ที่สร้างเซอร์ไพรส์คว้าตัวแนวรับชาวดัตช์มาร่วมทีมด้วยค่าตัวถึง 33.30 ล้านปอนด์ ซึ่งเขาเป็นหนึ่งในโปรเจ็ตสร้างทีมของสโมสร

นิวคาสเซิล คว้าตัว กิมาไรส์ มาร่วมทีมในช่วงตลาดนักเตะเดือนมกราคมของปี 2022 โดยที่นักเตะได้รับความสนใจจากทั้ง อาร์เซนอล และ ยูเวนตุส

นับตั้งแต่ย้ายมาร่วมทีม กิมาไรส์ ปรับตัวได้อย่างรวดเร็วกับสโมสร และดูเหมือนจะกลายเป็นกำลังหลักของทีมไปอีกนาน

ฤดูกาล 2018-19 โจลินตัน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับ ฮอฟเฟนไฮม์ ด้วยผลงาน 14 ประตูในบุนเดสลีกา จนทำให้ นิวคาสเซิล ยอมทุ่มเงิน 39.60 ล้านปอนด์มาร่วมทีม ซึ่งเป็นสถิติสโมสรในเวลานั้น

โจลินตัน มีปัญหาในการปรับตัวกับสองฤดูกาลแรกของเขาในพรีเมียร์ลีก ก่อนจะมาพบตำแหน่งที่ดีสุดของเขาในฐานะตัวริมเส้น

นิวคาสเซิล ประกาศให้ทุกสโมสรในยุโรปรู้ว่าพวกเขาพร้อมแล้วที่จะก้าวขึ้นมาเป็นเจ้าบุญทุ่มรายใหม่ เมื่อคว้าตัว อิซัค มาร่วมทีมด้วยค่าตัวถึง 63 ล้านปอนด์ ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา

การมาของ อิซัค จะช่วยยกระดับแนวรุกของสาลิกาดงได้อย่างแน่นอน ต้องมาดูกันว่าเขาจะพาสโมสรไปอยู่ตรงจุดไหนหลังจบฤดูกาล