Getty/GOALซาดิโอ มาเน ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นตลอด 6 ปีกับ ลิเวอร์พูล ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาคือหนึ่งในกำลังสำคัญที่พาทีมประสบความสำเร็จในช่วงที่ผ่านมา
ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ ทำให้เขาถูกมองว่าเป็นการซื้อตัวที่เสี่ยงของ เยอร์เก้น คล็อปป์ แต่เขาพิสูจน์ตัวเองได้ตั้งแต่ฤดูกาลแรก จนทำให้ไม่มีใครพูดถึงค่าตัวของเขาอีกเลย
มาเน ทิ้งความทรงจำดีๆไว้มากมายให้แฟน ลิเวอร์พูล ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บาเยิร์น มิวนิค และนี่คือ 10 โมเมนต์สำคัญของเขาในถิ่นแอนฟิลด์
Gettyบางทีประตูที่ดีสุดของ มาเน กับลิเวอร์พูล อาจเกิดขึ้นตั้งแต่เกมประเดิมสนามของเขาในการบุกเยือน อาร์เซนอล
มาเน เอาชนะแนวรับของไอ้ปืนใหญ่ทั้ง นาโช มอนเรอัล และ คัลลัม แชมเบอร์ ก่อนซัดด้วยซ้ายผ่านมือของ ปีเตอร์ เช็คเข้าไปอย่างสวยงาม
จบเกม ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายชนะ 4-3 ซึ่งหลังจบเกมนี้ ไม่มีใครพูดถึงเรื่องค่าตัวของเขาอีกเลย
Gettyเมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ ครั้งแรกของ ซาดิโอ มาเน เป็นเหมือนความฝัน เมื่อเขาเป็นผู้ทำประตูชัยให้ทีมในนาที 94 ที่กูดิสัน ปาร์ค
มันอาจเป็นประตูที่เรียบง่ายแต่มีความหมายอย่างมาก ดูได้จากการดีใจอย่างบ้าคลั่งของทั้งเพื่อนร่วมทีมและแฟนบอลหงส์แดง
มาเน มีสถิติที่ดีในการเล่น เมอร์ซีย์ไซด์ ดาร์บี้ เขาทำไป 4 ประตู และแพ้เพียงครั้งเดียวเท่านั้นในการพบ เอฟเวอร์ตัน 13 นัด
Gettyฤดูกาลแรกของ มาเน กับ ลิเวอร์พูล อาจจบลงเร็วกว่าที่ควรทั้งปัญหาอาการบาดเจ็บและต้องไปรับใช้ทีมชาติใน แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชันส์
อย่างไรก็ตาม เขาได้รับเลือกให้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสร ด้วยฟอร์มการเล่นอันโดดเด่นช่วยให้ทีมผ่านเข้าไปเล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ได้สำเร็จ
หนึ่งในเกมสำคัญของฤดูกาลคือการพบ สเปอร์ส ในเดือนกุมภาพันธ์ 2017 ตอนนั้น ลิเวอร์พูล กำลังอยู่ในฟอร์มที่ย่ำแย่ไม่ชนะในลีกมา 5 เกมติด, ตกรอบฟุตบอลถ้วยสองรายการทั้ง เอฟเอ คัพ และ ลีกคัพ
สเปอร์ส คือหนึงในทีมแย่งตำแหน่งท็อปโฟร์เวลานั้น และ มาเน ซัดคนเดียว 2 ประตูช่วยให้ทีมชนะ 2-0 เก็บสามแต้มสำคัญ ที่ส่งผลถึงการได้ไปเล่นถ้วยใบใหญ่ของยุโรปตอนจบฤดูกาล
Gettyลิเวอร์พูล ต้องบุกเยือน บาเยิร์น มิวนิค ในเกมเลกสองของรอบ 16 ทีมสุดท้าย ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ปี 2019 หลังเสมอมาแบบไร้สกอร์ในเลกแรกที่ แอนฟิดล์
อย่างไรก็ตามหงส์แดงพลิกล็อคหักปากเซียนด้วยการบุกเอาชนะเสือใต้ถึงถิ่น 3-1 โดยเฉพาะประตูนาทีที่ 26 ของ มาเน ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมาก ซึ่งฤดูกาลนั้นพวกเขาก้าวไปถึงตำแหน่งแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6
Gettyฤดูกาล 2019-20 ลิเวอร์พูล ที่กำลังลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีก ต้องเจองานยากในการบุกเยือน แอสตัน วิลลา โดยที่เหลือเวลาอีกเพียง 4 นาที แต่พวกเขายังตามหลังเจ้าถิ่น 0-1 ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ กำลังจะชนะ เซาแธมป์ตัน
แต่แล้ว แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ยิงตีเสมอให้หงส์แดงได้สำเร็จ ก่อนที่นาทีสุดท้ายของการทดเวลา ซาดิโอ มาเน จะมาซัดประตูชัยช่วยให้ทีมเก็บสามแต้มสำคัญแบบสุดเหลือเชื่อ และเป็นหนึ่งในเกมสำคัญที่ส่งผลให้พวกเขาเป็นแชมป์ในฤดูกาลนั้น
Gettyเป๊ป กวาร์ดิโอลา ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า 'ซาดิโอ มาเน เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์พิเศษแต่บางครั้งก็เป็นพวกชอบพุ่งล้ม' โดยที่ไม่รู้เลยว่ากำลังจะต้องเจอการสวนกลับแบบเจ็บแสบรออยู่
ไม่กี่วันถัดมากุนซือชาวสเปนต้องมีสีหน้าบูดบึ้งที่แอนฟิลด์ ลิเวอร์พูล เป็นฝ่ายเอาชนะไปได้ 3-1 ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยม
โดยเฉพาะดาวเตะเซเนกัลที่ลากเลื้อยปั่นป่วนแนวรับเรือใบสีฟ้าตลอดทั้งเกม รวมถึงเป็นผู้ทำประตูปิดท้ายให้ทีมด้วย
Gettyนักเตะชั้นยอดมักจะทำประตูสำคัญได้ในเกมใหญ่เสมอ คำพูดนี้อธิบายตัวตนของ ซาดิโอ มาเน ได้เป็นอย่างดี
ไม่มีนักตะคนใดในประวัติศาสตร์ของ ลิเวอร์พูล ที่ทำประตูในรอบน็อคเอาท์ แชมเปี้ยนส์ลีก ได้มากเท่ามาเน
โดยเขาทำไปถึง 15 ประตู ในเกมที่พบคู่แข่งอย่าง บาเยิร์น มิวนิค, ไลป์ซิก, แมนฯซิตี้, โรมา, เบนฟิก้า, บียาร์เรอัล และในนัดชิงชนะเลิศปี 2018 กับ เรอัล มาดริด
หากไม่ใช่เพราะฟอร์มอันเหนียวหนึบของ ธิโบต์ กูร์ตัวส์ เขาอาจเพิ่มสถิติได้ในเกมนัดชิงชนะเลิศปี 2022 ที่ผ่านมา
นอกจากนี้เขายังชอบทำประตูชัยในเกมดาร์บี้แมตช์ รวมถึงทำ 7 ประตูในการพบ แมนฯซิตี้ และ อาร์เซนอล, 6 ประตูในการพบ เชลซี และยิงสองประตูในนัดชิงชนะเลิศยูโรเปี้ยน ซูเปอร์คัพ ปี 2019 ด้วย
Gettyในยุคของ เยอร์เก้น คล็อปป์ ไม่มีใครปฏิเสธว่าแนวรุกสำคัญของทีมคือสามประสาน ซาดิโอ มาเน, โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน ที่แฟนบอลยกขึ้นหิ้งให้เป็นแนวรุกระดับตำนานของทีม
ในห้าฤดูกาลที่เล่นด้วยกัน ทั้งสามคนสร้างสถิติน่าเหลือเชื่อด้วยการทำรวมกัน 338 ประตู ซึ่งในฤดูกาล 2017-18 ทั้งสามคนทำได้ถึง 91 ประตู
โดยรวมแล้วทั้งสามคนออกสตาร์ทเป็นตัวจริงร่วมกัน 137 เกม และใน 104 เกมต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่ทำประตูได้ และมีถึง 15 เกมที่ทำประตูได้ครบทั้งสามคน ซึ่งรวมถึงเกมที่นาจดจำกับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ และ โรมา ในปี 2018 และล่าสุดคือในเกมชนะ วัตฟอร์ด 5-0 เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว
Gettyปีแรกของ มาเน กับลิเวอร์พูลเขาเล่นเป็นปีกขวา ทำได้ 13 ประตูและได้เป็นนักเตะยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของสโมสร จากนั้นการมาของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำให้เขาต้องย้ายไปเล่นทางซ้าย ซึ่งเขาทำหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยมและถูกยกให้เป็นแนวรุกระดับโลก
ฤดูกาลที่ผ่านมาหลายนัดที่เขาต้องรับบทกองหน้าตัวเป้าและทำผลงานได้ดีเช่นกัน แสดงให้เห็นถึงไหวพริบและทักษะลูกหนังอันเป็นเลิศของเขา จนทำให้ เยอร์เก้น คล็อปป์ เอ่ยปากชมว่า มาเน คือนักเตะที่มหัศจรรย์และทำให้เขาประหลาดใจอยู่เสมอ
Gettyซาดิโอ มาเน ทำตามสัญญาที่เขาให้ไว้แก่ ลี สวอน แฟนบอลหงส์แดงที่เป็นอาสาสมัครช่วยสังคม ด้วยการทำท่าดีใจแบบจูบนิ้วแล้วชูขึ้นฟ้า หลังจากที่ยิงประตูคริสตัล พาเลซ ได้ในเกมที่พวกเขาเป็นฝ่ายชนะขาดลอย 7-0 เมื่อปี 2020
ลี สวอน คือแฟนบอลหงส์แดงผู้อุทิศตนทำงานเพื่อสังคมในธนาคารอาหารระหว่างช่วงโควิด-19 และถูกเชิญให้ไปเยี่ยมชมสนามแอนฟิลด์เมื่อเดือนที่แล้ว รวมถึงได้มีการพูดคุยผ่านทางวิดีโอกับมาเน ซึ่งมาเนก็ได้ขอบคุณลีที่ทำงานอย่างหนักเพื่อสังคมมาตลอด
ในระหว่างการพูดคุย มาเนได้ถามลีว่า "นายก็รู้จักฉันดีนะ ฉันอยากจะเลียนแบบท่าดีใจของนาย ถ้านายมีท่าดีใจอะไร ทำให้ฉันดูหน่อย" แล้วลีก็แสดงท่าดีใจแบบจูบที่นิ้วและชูขึ้นท้องฟ้าให้มาเนดู ซึ่งเบื้องหลังของท่าดีใจดังกล่าว เป็นการสดุดีแด่คุณปู่ของลีที่จากไปแล้ว และเป็นแฟนบอลลิเวอร์พูลตัวยงเช่นกัน
หลังจากที่ยิงประตูได้ในนาทีที่ 35 ของการแข่งขัน มาเนได้ทำท่าดังกล่าวก่อนที่จะถูกเปลี่ยนตัวออกจากสนามเมื่อวันเสาร์ตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับลี
