
Goal
ก่อนถึง BGPU : ย้อนรอย 12 แชมป์มหัศจรรย์แห่งโลกลูกหนัง
Getty Images1เลสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก 2015-16)
เลสเตอร์ ซิตี้ หักทุกปากกาเซียนด้วยการผงาดขึ้นคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกเมื่อฤดูกาล 2015-16 ซึ่งเป็แชมป์ลีกครั้งแรกในรอบ 132 ปีของการตั้งสโมสร ก่อนเริ่มฤดูกาลไม่มีใครคาดว่าทีมของ คลาดิโอ รานิเอรี จะมาได้ไกลถึงเพียงนี้ โดยที่ทีมจะไร้ซูเปอร์สตาร์ระดับโลกเหมือนคู่แข่งรายอื่น
Goalthailand2บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (โตโยต้า ไทยลีก 2020/21)
ย้อนกลับไปในปี 2018 บีจี ปทุมฯ ต้องตกชั้นลงไปเล่นไทยลีก 2 แบบช็อกแฟนบอล ก่อนจะใช้เวลาเพียงปีเดียวกลับขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุดอีกครั้งในปี 2020 ซึ่งการกลับมาหนนี้เป้าหมายของประธานสโมสรอย่าง ปวิณ ภิรมย์ภักดี ที่ให้สัมภาษณ์ก่อนเปิดฤดูกาลคือ ต้องการประคองตัวอยู่รอดปลอดภัยในลีกสูงสุด แต่นานวันผลงานยิ่งแกร่งไม่เคยลิ้มรสความพ่ายแพ้ ช่วงตลาดรอบพิเศษพวกเขาเสริมทัพดุดัน กระทั่งค่ำคืนวันที่ 4 มีนาคม 2564 จะสามารถการันตีคว้าแชมป์ไทยลีก 2020/21 ซึ่งนอกจากจะเป็นทีมที่คว้าแชมป์เร็วสุดในประวัติศาสตร์ พวกเขายังมีลุ้นเป็นแชมป์ไร้พ่ายทีมที่ 3 ต่อจาก เอสซีจี เมืองทองฯ และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อีกด้วย
Muangthong United3เอสซีจี เมืองทองฯ (ไทยพรีเมียร์ลีก 2009)
เอสซีจี เมืองทองฯ เลื่อนชั้นมาเล่นในศึกไทยพรีเมียร์ลีกเป็นครั้งแรกในปี 2009 ในฐานะแชมป์ดิวิชั่น 1 ด้วยความเป็นทีมน้องใหม่ไม่มีใครคาดคิดว่า พวกเขาจะเป็นแชมป์ ขณะที่สโมสรเองมีเป้าหมายขอยู่รอดปลอดภัยในขวบปีแรกบนลีกสูงสุด แต่ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชแต๊ก" อรรถพล ปุษปาคม บวกศักยภาพของผู้เล่นที่มี ส่งผลให้ กิเลนผยอง กลายเป็นม้ามืดจารึกหน้าประวัติศาสตร์ที่ยากจะถูกลบ เมื่อสามารถคว้าแชมป์ตั้งแต่ปีแรกที่ขึ้นมาเล่นในลีกสูงสุด พร้อมกับสร้างนักเตะอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา , พิชิตพงษ์ เฉยฉิว และอีกหลายคน ที่ต่อยอดความสำเร็จในปีต่อๆมา กลายเป็นหนึ่งในสโมสรที่ดีที่สุดของไทย
Social Media4แอตเลติโก มาดริด (ลาลีกา 2014)
ในยุคที่สองมหาอำนาจลูกหนังแดนกระทิงดุอย่าง เรอัล มาดริดและบาร์เซโลนา แทบจะผูกขาดการคว้าแชมป์ลีกสูงสุด แต่ทัพตราหมีภายใต้บัญชาของ ดีเอโก้ ซิเมโอเน กลับสามารถสร้างทีมที่เล่นด้วยความแข็งแกร่งและดุดันทั้งรุกและรับ จัดการโค่นสองยักษใหญ่ลงจากคอนได้อย่างน่ายกย่อง แถมเกมสุดท้ายยังเป็นการบุกคว้าแชมป์ได้ถึงคัมป์นู รังเหย้าของบาร์ซาอีกด้วย
Getty5วีแกน แอธเลติก (เอฟเอคัพ 2013)
เดอะ ลาติกส์ สร้างเซอร์ไพรส์กรุยทางสู่แชมป์บอลถ้วยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของอังกฤษได้แบบเหลือเชื่อ หลังมาได้ เบน วัตสัน โหม่งประตูชัยในช่วงทดเจ็บของรอบชิงชนะเลิศ พลิกล็อคชนะแมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-0 แต่แชมป์นี้กลับต้องแลกมาด้วยการร่วงตกชั้นจากพรีเมียร์ลีกสู่ลีกแชมเปี้ยนชิพ แถมในปัจจุบันยังกู่ไม่กลับ ร่วงไปอีกขั้นลงไปเล่นในลีกวันแล้วด้วย
Getty Images6ปอร์โต้ (ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก 2004)
โจเซ มูรินโญ เปิดตัวให้โลกฟุตบอลได้รู้จัก ด้วยการพาม้านอกสายตาอย่าง เอฟซี ปอร์โต้ ครองแชมป์ยุโรปได้แบบไม่มีใครคาดคิด ซึ่งแกนหลักส่วนใหญ่ในชุดนั้นก็กลายมาเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติโปรตุเกสในเวลาต่อมาด้วยทั้ง เดโก้, ริคาร์โด้ คาร์วัลโญ รวมถึง เปาโล แฟร์เรย์รา
Getty7มงต์เปลลิเยร์ (ลีกเอิง 2012)
ก่อนจะเข้าสู่ยุคปารีส แซงต์ แชร์กแมง เรืองอำนาจ มงต์เปลลิเยร์ ภายใต้การคุมทีมของ เรเน ชิราร์ ซึ่งนำสโมสรเล็กๆทางตอนใต้ของฝรั่งเศส ปาดหน้าทั้งเปแอสเช, ลีลล์ รวมถึงโอลิมปิก ลียง คว้าแชมป์ได้แบบสุดเซอร์ไพรส์ แถมยังเป็นการแจ้งเกิด โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ซึ่งคว้าดาวซัลโวมาครองด้วยผลงาน 21 ประตูได้อีกด้วย
Getty Images8เดนมาร์ก (ยูโร 1992)
"เทพนิยายเดนส์" อันน่าจดจำ เริ่มต้นขึ้นจากการที่ทัพโคนมได้สิทธิ์เข้าแข่งขันแทนยูโกสลาเวีย ซึ่งถูกแบนจากปัญหาการเมือง โดยพวกเขาได้รับแจ้งเพียงกี่สัปดาห์ก่อนที่ทัวร์นาเมนต์จะเริ่ม ทำให้ต้องไปตามล่าตัวเหล่านักเตะที่หลายรายลาพักร้อนไปแล้วมาร่วมทีมแบบสุดฉุกละหุก แต่การมาในฐานะมวยแทน ทำให้เดนมาร์กเล่นแบบไร้ความกดดัน จนสุดท้ายก็จัดการล้มตัวเต็งอย่างเยอรมัน 2-0 ในรอบชิงชนะเลิศ คว้าแชมป์ได้แบบน่ามหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง
9น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ (ดิวิชั่น 1 (เดิม) 1978 และ ยูโรเปี้ยน คัพ 1979,1980)
ไบรอัน คลัฟ กุนซือปากตะไกรผู้ล่วงลับ ผู้พาทัพเจ้าป่าสร้างตำนานที่น่าเหลือเชื่อที่สุดของวงการฟุตบอลอังกฤษ หลังสามารถคว้าแชมป์ดิวิชั่น 1 ยุคโบราณ (พรีเมียร์ลีกในปัจจุบัน) ได้ทันทีในปี 1978 ทั้งที่เพิ่งจะเลื่อนชั้นขึ้นมา แถมยังอหังการถึงขั้นก้าวไปผงาดคว้าแชมป์ยูโรเปี้ยน คัพ ได้ในสองปีต่อมา 2 สมัยติดต่อกันอีกด้วย
Getty10กรีซ (ยูโร 2004)
ถือเป็นกุนซือที่ถูกฉลองกับการคุมทีมเล็กอย่างแท้จริง สำหรับ อ็อตโต เรห์หาเก้ล หลังเคยพาไกเซอร์สเลาเทิร์นคว้าแชมป์บุนเดสลีกาในปี 1998 ก่อนจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ได้อีกครั้งในการคุมทีมชาติกรีซสู้ศึกยูโร 2004 โดยสามารถเอาชนะชาติเจ้าภาพอย่างโปรตุเกสได้ทั้งสองนัดที่พบกันในเกมเปิดสนาม และนัดชิงชนะเลิศอีกด้วย สร้างตำนาน "เทพนิยายกรีก" ให้โลกได้จดจำอย่างน่าทึ่ง
Getty11ไกเซอร์สเลาเทิร์น (บุนเดสลีกา 1998)
ปีศาจแดงแห่งเบ็ตเซนแบร์ก ถือเป็นสโมสรเดียวในประวัติศาสตร์ที่สามารถคว้าแชมป์บุนเดสลีกาได้สำเร็จ ตั้งแต่ปีแรกที่เลื่อนชั้นขึ้นมาจากลีกาสอง หลังทำคะแนนปาดหน้ายักษ์ใหญ่ของประเทศอย่าง บาเยิร์น มิวนิค ไปเพียงแค่ 2 แต้มเท่านั้น โดยแชมป์ครั้งนี้ยังได้แจ้งเกิดดาวรุ่งดวงใหม่ในเวลานั้นอย่าง มิชาเอล บัลลัค อีกด้วย
Zambia intentará defender el título conquistado el año pasado.12แซมเบีย (แอฟริกัน คัพ ออฟ เนชั่นส์ 2012)
การผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศศึกชิงแชมป์แห่งชาติแอฟริกากับยอดทีมของทวีปอย่างไอวอรีโคสต์ ซึ่งอุดมไปด้วยซูเปอร์สตาร์มากมาย หลายคนคงคิดว่า แซมเบีย ที่แทบไม่มีดาวดังเลยจะต้องพ่ายแพ้แน่นอน แต่พวกเขากลับสู้สุดใจจนสามารถยื้อมาถึงช่วงดวลจุดโทษ ก่อนพลิกล็อคชนะไป 8-7 คว้าแชมป์รายการนี้ครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์
โฆษณา