
Goal
จาก สุริยา ถึง พีรดนย์ : ย้อนรอย 11 แข้งสองสีเสื้อ "เมืองทอง-บุรีรัมย์"

1พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี
(เมืองทอง 2015-2017 , บุรีรัมย์ 2021-22)
กองกลางดีกรีทีมชาติไทยวัย 28 ปี เป็นนักเตะรายล่าสุด ที่กำลังจะมีโอกาสลงเล่นให้ทั้ง เอสซีจี เมืองทองฯ และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โดย พีรดนย์ เคยคว้าดับเบิ้ลแชมป์ โตโยต้า ไทยลีก และ โตโยต้า ลีกคัพ กับ กิเลนผยอง มาแล้ว ในชุดดรีมทีม เมื่อปี 2016 แต่ให้หลังจากนั้นปีเดียว เขาก็ย้ายไปหาโอกาสลงเล่นสม่ำเสมอกับ สมุทรปราการ ซิตี้ ก่อนก้าวสู่กัปตันทีม ลงสนามไปเกินกว่า 100 นัด แต่จากปัญหาเจรจาสัญญาฉบับใหม่ไม่ลงตัว จึงเป็น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ทุ่มเงินคว้าตัวมาร่วมทัพทันที เพื่อทวงความสำเร็จในฤดูกาล 2021-22 หลังไม่มีแชมป์ใดๆ ติดมือเป็นครั้งแรในรอบ 10 ปี เมื่อซีซั่นที่ผ่านมา
Goalthailand2โคเอลโญ ชาชา
(บุรีรัมย์ 2017 , เมืองทอง 2018)
กองหน้าชาวบราซิล เป็นนักเตะต่างชาติเพียงคนเดียว ที่เคยลงเล่นให้ทั้ง ปราสาทสายฟ้า และ กิเลนผยอง โดยเขาเริ่มต้นย้ายมาค้าแข้งที่ไทยครั้งแรกกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก่อนเมื่อฤดูกาล 2017 แม้จะทำไปถึง 38 ประตู และ 11 แอสซิสต์ รวมทุกรายการ พร้อมมีส่วนสำคัญช่วยทีมคว้าแชมป์ไทยลีก แต่ด้วยปัญหาเรื่องวินัย เขาก็ถูกปล่อยออกจากทีมหลังจบปีนั้น และ เป็น เอสซีจี เมืองทองฯ ดึงไปร่วมทีมต่อ เมื่อฤดูกาล 2018 และ ยังทำผลงานได้ดี ยิงไป 15 ประตู 5 แอสซิสจ์ จาก 30 นัดรวมทุกรายการ ทว่าก็อยู่กับทีมได้เพียงปีเดียว ก่อนย้ายไปอยู่กับ ซองนัม เอฟซี ทีมในเคลีก เกาหลีใต้ และ ย้ายกลับมาเล่นที่ไทยอีกครั้งกับ สิงห์ เชียงรายฯ เมื่อฤดูกาล 2020
อย่างไรก็ตามปัจจุบัน ชาชา ในวัย 35 ปี แทบหมดอนาคตในวงการฟุตบอลแล้ว เมื่อถูก เอเอฟซี สั่งแบนยาวถึง 4 ปี ฐานละเมิดการใช้สารกระตุ้นต้องห้าม ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ 2020 รอบแบ่งกลุ่ม ในเกมที่ กว่างโซ้งมหาภัย พบกับ เมลเบิร์น วิคตอรี่ จากออสเตรเลีย

3นุกูลกิจ ครุฑใหญ่
(บุรีรัมย์ 2015 , เมืองทอง 2017 เลกสอง-2018)
แนวรับทีมชาติไทยวัย 28 ปี เคยค้าแข้งกับบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ช่วงสั้นๆ เมื่อฤดูกาล 2015 แม้ไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากนัก แต่เขาก็ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดประวัติศาสตร์ เป็นทีมแรกของเอเชีย ที่คว้าแชมป์ได้ถึง 5 รายการภายในหนึ่งฤดูกาล ก่อนย้ายไปอยู่กับ อุบล ยูเอ็มทีฯ และ ช่วงเลกสอง ฤดูกาล 2017 ก็ถูก เอสซีจี เมืองทองฯ ดึงตัวไปร่วมทัพ ทว่าก็อยู่กับทีมได้เพียง 1 ปีครึ่ง เพราะฤดูกาล 2019 เขาย้ายออกไปอยู่กับ ตราด เอฟซี และ มาอยู่กับ สุโขทัย เอฟซี ในปัจจุบัน

4ชาริล ชัปปุยส์
(บุรีรัมย์ 2013-2014 , เมืองทอง 2017 เลกสอง - ปัจจุบัน)
มิดฟิลด์ลูกครึ่งไทย-สวิส เริ่มต้นย้ายมาค้าแข้งในไทยครั้งแรกกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 2013 ก่อนช่วยทีมคว้าเทรเบิ้ลแชมป์ได้ทันที ทว่าซีซั่นต่อมา จากการที่มีอาการบาดเจ็บและโชว์ฟอร์มดร็อปลงไป ทำให้เขาสูญเสียตำแหน่งตัวจริง จากนั้นย้ายไปอยู่กับ สุพรรณบุรี เอฟซี ก่อนถูก เอสซีจี เมืองทองฯ คว้าตัวมาร่วมทัพ เมื่อช่วงเลกสอง ฤดูกาล 2017 กลายเป็นหนึ่งในแข้งสองสีเสื้อที่เคยลงเล่นให้ทั้ง ปราสาทสายฟ้า และ กิเลนผยอง ก่อนหมดสัญญากับทีม และ ย้ายมาอยู่กับ การท่าเรือ เอฟซี ตั้งแต่ฤดูกาลที่ผ่านมา

5ประกิต ดีพร้อม
(เมืองทอง 2007 และ 2017 เลกสอง - บุรีรัมย์ 2015-2016)
อดีตแนวรุกทีมชาติไทย เคยค้าแข้งให้กิเลนผยอง มาแล้วสมัยยังอยู่ดิวิชั่น 2 เมื่อปี 2007 ก่อนที่ปี 2015 เขาจะกลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เคยค้าแข้งให้สองมหาอำนาจลูกหนังของไทย เมื่อย้ายจาก ทีโอที เอสซี ไปอยู่กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ก่อนถูก ชลบุรี เอฟซี คว้าไปร่วมทัพเมื่อช่วงเลกสองของปี 2016 กระทั่งช่วงเลกสอง ซีซั่น 2017 เขาก็ถูก เมืองทอง ดึงกลับสู่ถิ่นเก่าอีกครั้งรอบ 10 ปีพอดี แต่ปัจจุบันย้ายมาอยู่กับ อุดรธานี เอฟซี ทีมในศึกเอ็ม-150 แชมเปี้ยนชิพ (ไทยลีก2) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
Goalthailand6ธีราทร บุญมาทัน
(บุรีรัมย์ 2009-2016 , เมืองทอง 2016 เลกสอง-2017)
แบ็คซ้ายทีมชาติไทยวัย 31 ปี เป็นดีลที่เซอร์ไพรส์ที่สุดของการสลับขั้วระหว่าง บุรีรัมย์ และ เมืองทอง เมื่อเขาเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของปราสาทสายฟ้า อยู่ค้าแข้งกับทีมตั้งแต่เปลี่ยนจากการไฟฟ้าฯ กวาดเแชมป์ไปถึง 20 รายการ กระทั่งช่วงเลกสอง ฤดูกาล 2016 เขาก็ถูก กิเลนผยอง คว้าตัวไปร่วมทัพ ด้วยค่าตัวสูงถึง 30 ล้านบาท แพงที่สุดเป็นอันดับ 2 ในขณะนั้น และ มีส่วนสำคัญช่วยทีมทวงแชมป์ไทยลีกคืนจาก อดีดต้นสังกัดเก่า ปราสาทสายฟ้า ได้ทันที
ก่อนที่ฤดูกาล 2018 จะย้ายออกไปพิสูจน์ตัวเองที่ญี่ปุ่น กับ วิสเซล โกเบ ด้วยสัญญายืมตัว และ ทำผลงานได้ดี จนถูก โยโกฮามา เอฟ มารินอส ยืมไปใช้งานต่อเนื่อง เมื่อฤดูกาล 2019 พร้อมประสบความสำเร็จยิ่งใหญ่ กลายเป็นนักเตะไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่ผงาดคว้าแชมป์เจลีก จนถูก มารินอส ซื้อขาดมาอยู่กับทีมถาวร ในปัจจุบัน
Goalthailand7อดิศักดิ์ ไกรษร
(เมืองทอง 2009 , 2016-2019 และ 2021-22 , บุรีรัมย์ 2011-2014)
กองหน้าทีมชาติไทยเติบโตมากับ เมืองทอง ยูไนเต็ด เมื่อสโมสรแห่งนี้เป็นทีมแรกที่มอบสัญญาค้าแข้งให้เขาเมื่อปี 2009 ทว่าในฐานะที่เป็นผู้เล่นดาวรุ่งอยู่ในขณะนั้นเขาก็ถูกปล่อยไปเก็บประสบการณ์กับ ภูเก็ต เอฟซี ด้วยสัญญายืมตัว ก่อนจะโชว์ฟอร์มได้อย่างเฉิดฉายจนถูกต้นสังกัดบ้านเกิดอย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ซื้อตัวไปร่วมทัพ และมีส่วนพาทีมคว้าแชมป์ไทยลีก 3 สมัย , ช้าง เอฟเอคัพ 3 , โตโยต้า ลีกคัพ 3 สมัย และ ถ้วย ก. 2 สมัย ก่อนจะปล่อยไปอยู่กับ บีอีซี เทโรศาสน เมื่อปี 2015 และ ถูก กิเลนผยอง ดึงกลับมาร่วมทัพอีกครั้งเมื่อฤดูกาล 2016
ขณะที่ปัจจุบัน ก็เพิ่งถูก เอสซีจี เมืองทองฯ ดึงตัวกลับมาจาก การท่าเรือ เอฟซี เพื่อเป็นหนึ่งในกำลังสำคัญ คอยประคองน้องๆ ในการสู้ศึกซีซั่น 2021-22
Goal8นฤพล อารมณ์สวะ
(เมืองทอง 2009-2010 , บุรีรัมย์ 2015)
มิดฟิลด์วัย 32 ปี คือหนึ่งในผู้เล่นชุดคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกครั้งแรกของเมืองทองฯ เมื่อปี 2009 จากนั้นย้ายไปอยู่กับ บีอีซี เทโรศาสน , ราชบุรี มิตรผล เอฟซี และกลับมาสวมเสื้อ “มังกรไฟ” อีกครั้งเมื่อฤดูกาล 2014 ก่อนทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมประกอบกับความสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแดนกลาง เขาถูก บุรีรัมย์ฯ คว้าตัวไปร่วมทัพเมื่อฤดูกาล 2015 ทว่าจากการที่ถูกอาการบาดเจ็บรบกวนอยู่ตลอดเขาไม่สามารถยึดตัวหลักของทีมได้ ทำให้ถูกปล่อยออกจากทีม และ ปัจจุบันอยู่กับ นครราชสีมา เอฟซี
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด9ชิตชนก ไชยเสนสุรินธร
(บุรีรัมย์ฯ-เมืองทองฯ ฤดูกาล 2013)
แนวรุกดาวรุ่งลูกครึ่งไทย-ลาว ถูกจับตามองพอสมควรหลังย้ายจาก อิแวร์ดง ทีมในดิวิชั่น 2 สวิตเซอร์แลนด์ มาค้าแข้งในประเทศไทยครั้งแรกกับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เมื่อปี 2013 ทว่าอาการบาดเจ็บทำให้เขาแทบไม่มีโอกาสพิสูจน์ตัวเอง ก่อนที่เลกสองจะถูก เมืองทองฯ คว้าตัวไปร่วมทัพ กลายเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เคยค้าแข้งให้สองสโมสรยักษ์ใหญ่ของไทย กระนั้นก็ยังไม่สามารถแจ้งเกิดได้อีก ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ บีอีซี เทโรศาสน ตามด้วย พีทีที ระยอง , สุพรรณบุรี เอฟซี และ ไปล่าฝันที่ยุโรปอีกครั้งกับ เอฟซี คิอัสโซ ทีมในลีกรองของสวิตเซอร์แลนด์
กระทั่งปัจจุบันเริ่มพิสูจน์ตัวเองได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จนถูก บีจี ปทุมฯ ทีมแชมป์โตโยต้า ไทยลีก คว้าตัวมาจาก นครราชสีมา เอฟซี เพื่อสู้ศึกในฤดูกาล 2021-22
Goalthailand10จักรพันธ์ แก้วพรม
(เมืองทองฯ 2010 , บุรีรัมย์ 2011-ปัจจุบัน)
กองกลางเชิงสูงเติบโตมากับ บีอีซี เทโรศาสน ก่อนถูกเมืองทองฯ กระชากตัวไปร่วมทัพเมื่อปี 2010 และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ซึ่งลงสนามช่วยทีมทุกรายการไปถึง 43 นัดยิง 4 ประตู คว้าดาวรุ่งยอดเยี่ยของสโมสร ก่อนที่ฤดูกาลถัดมาจากการเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขชาว จ.บุรีรัมย์ "โน๊ต" ก็ถูกปราสาทสายฟ้าคว้าตัวไปร่วมทัพ จากนั้นพาทีมประสบความสำเร็จมากมาย กระทั่งปัจจุบัน ก็ยังอยู่เป็นหนึ่งในกำลังสำคัญของสโมสร
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด11สุริยา ดอมไธสง
(เมืองทอง 2009 , บุรีรัมย์ 2010-2013)
อดีตกองหน้าทีมชาติไทย เป็นหนึ่งในผู้เล่นชุดแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกครั้งแรกของเมืองทองเมื่อปี 2009 ก่อนที่ฤดูกาลถัดมาจากการที่เขามีถิ่นกำเนิดที่ จ.บุรีรัมย์ ก็ถูกปราสาทสายฟ้าคว้าตัวไปร่วมทัพ ประสบความสำเร็จทั้งการลงเล่นให้ บุรีรัมย์ เอฟซี และ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กระทั่งฤดูกาล 2014 ด้วยวัยที่โรยราแต่ก็มีประสบการณ์ลูกหนังอันเปี่ยมล้นเจ้าตัวก็ถูกปล่อยไปอยู่กับทีมน้องอย่าง สุรินทร์ ซิตี้ ที่เต็มไปด้วยเยาวชนของทีม ในฐานะโค้ชแอนเพลย์เยอร์
ก่อนที่ปัจจุบันกลับมาเป็นหนึ่งในทีมสตาฟฟ์โค้ชเยาวชน ของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด
โฆษณา

