ก่อนถึงนิวคาสเซิล : ย้อนรอย เชลซี ซื้อใครมาบ้างหลังได้เจ้าของใหม่?

มาโช ย้ายมาจาก ซันเดอร์แลนด์ แบบไร้ค่าตัว และนับเป็นการเซ็นสัญญานักเตะคนแรกของ เชลซี ในยุค โรมัน อบราโมวิช ด้วย

นายด่านชาวออสเตรเลีย โชคร้ายได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าฉีกขาดในการซ้อมสัปดาห์แรกกับสโมสร ทำให้เขาไม่ได้ลงเล่นแม้แต่นาทีเดียวในฤดูกาลนั้น และถูกปล่อยตัวไปในปี 2004

การเซ็นสัญญานักเตะคนที่สองของ เชลซี ในยุคของ อบราโมวิช ยังคงเป็นตำแหน่งผู้รักษาประตู 

อัมโบรซิโอ ประเดิมเฝ้าเสาให้ทีมในเกม ลีกคัพ กับ น็อตต์ เคาน์ตี ซึ่งถึงสิงห์บลูจะชนะไป 4-2 แต่เกมนั้นเขาเต็มไปด้วยข้อผิดพลาด

รวมแล้วนายด่านชาวอิตาลี ลงสนามให้ เชลซี ไปทั้งสิ้น 8 นัด ก่อนจะย้ายไปในเดือนสิงหาคมปี 2004 หลังการมาของ ปีเตอร์ เช็ค

การจ่ายเงินซื้อนักเตะครั้งแรกในยุคของ อบราโมวิช คือการคว้าตัว เกล็น จอห์นสัน แบ็คขวาทีมชาติอังกฤษมาจาก เวสต์แฮม ด้วยค่าตัว 6 ล้านปอนด์

ฟูลแบ็คจอมลุยลงเล่นไป 32 นัดในฤดูกาลแรก และ 28 นัดในฤดูกาลต่อมา ซึ่งเป็นฤดูกาลที่ เชลซี คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เป็นครั้งแรกในรอบ 50 ปี

เฌเรมี เคยมีประสบการณ์ในฟุตบอลอังกฤษมาแล้วกับ มิดเดิลสโบรห์ ทำให้ไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวมาก และลงเล่นไป 39 นัดในฤดูกาลแรกกับ เชลซี 

การมาของ โชเซ มูรินโญ ในปี 2004 ทำให้เขามีโอกาสลงสนามน้อยลง แต่ช่วงเวลา 4 ปีในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ เขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 2 สมัย

เวย์น บริดจ์ คือแบ็คซ้ายดาวรุ่งที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดของอังกฤษในเวลานั้น ซึ่งเขาเลือกย้ายมาอยู่กับ เชลซี ด้วยวัย 22 ปี 

โดยรวมแล้วเขาลงสนามให้สิงห์บลูไปทั้งสิ้น 142 นัด ตลอดระยะเวลา 5 ปีครึ่ง คว้าแชมป์ได้ทั้งพรีเมียร์ลีก, เอฟเอ คัพ และลีกคัพ

เชลซี เอาชนะทีมอย่าง แมนฯยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ได้สำเร็จในการแย่งตัว ดาเมียน ดัฟฟ์ ปีกตัวเก่งของ แบล็คเบิร์น มาร่วมทีม

แนวรุกชาวไอร์แลนด์ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับสิงโตน้ำเงินคราม โดยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ 2 สมัย และแชมป์ ลีกคัพ ก่อนจะย้ายไปอยู่กับ นิวคาสเซิล ในปี 2006

โคล เป็นนักเตะอังกฤษคนที่สาม ที่ย้ายมาอยู่กับ เชลซี ในช่วงซัมเมอร์ของปี 2003 ซึ่งแฟนบอลคาดหวังว่าเขาจะเข้ามาทดแทนการอำลาทีมของ จานฟรังโก้ โซลา ตำนนานกองหน้าของสโมสร

แนวรุกทีมชาติอังกฤษลงเล่นไปถึง 50 นัดในฤดูกาลแรกกับสิงห์บลู และเป็นหนึ่งกำลังหลักของทีมตลอด 7 ปีกับสโมสร คว้าแชมพรีเมียร์ลีก 3 สมัย, เอฟเอคัพ 2 สมัย และลีกคัพ 1 สมัย 

เวรอน ย้ายมาจาก แมนฯยูไนเต็ด ด้วยค่าตัวถึง 15 ล้านปอนด์ แต่กลายเป็นหนึ่งในกาเซ็นสัญญาที่ผิดพลาดมากที่สุดของ เชลซี ในช่วงซัมเมอร์ปี 2003

มิดฟิลด์ชาวอาร์เจนตินา เจอปัญหาอาการบาดเจ็บเล่นงานบ่อยครั้ง ทำให้เขาลงเล่นในพรีเมียร์ลีกให้ เชลซี ไปทั้งสิ้นเพียง 7 นัดเท่านั้น

อีกหนึ่งการเซ็นสัญญาที่ล้มเหลวของ เชลซี ดาวยิงชาว โรมาเนีย เปิดตัวอย่างร้อนแรงด้วยการทำ 4 ประตู จาก 3 นัดแรกของเขากับสโมสร ก่อนจบฤดูกาลด้วยผลงาน 10 ประตูจาก 38 นัด

แต่ในเดือนกันยายน 2004 มูตู ถูกตรวจพบว่าใช้โคเคน และถูกยกเลิกสัญญาในเดือนตุลาคมปีดังกล่าว และถูกแบนเป็นเวลา 7 เดือน นอกจากนี้ในเวลาต่อมาเขายังถูกสภาป้องกันการทุจริตของฟีฟ่า หรือ DRC ตัดสินให้จ่ายค่าชดเชยให้ เชลซี เป็นเงิน 13.68 ล้านปอนด์ อีกด้วย

แม้จะย้ายมาอยู่กับ เชลซี ในเดือนสิงหาคมปี 2003 แต่ สเมอร์ติน ถูกปล่อยให้ ปอร์ทสมัธ ยืมตัวตลอดทั้งฤดูกาลทันที

เขาได้ประเดิมสนามให้สิงโตน้ำเงินครามครั้งแรกในฤดูกาล 2004-05 แต่มีบทบาทกับทีมเพียงเล็กน้อย เมื่อต้องเจอคู่แข่งอย่าง แฟรงค์ แลมพาร์ด, โคลด มาเกเลเล, เฌเรมี และ ติอาโก้ เมนเดส

เครสโป ทำไป 12 จากการลงสนาม 31 นัดให้กับ เชลซี ในฤดูกาล 2003-04 แต่ในฤดูกาลถัดมาเขาถูกปล่อยให้ เอซี มิลาน ยืมตัว หลังการย้ายมาของ ดิดิเยร์ ดร็อกบา

อย่างไรก็ตาม เขากลับมาเล่นในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ อีกครั้งในฤดูกาล 2005-06 และช่วยให้สโมสรคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้สำเร็จ ก่อนจะไปอยู่ อินเตอร์ มิลาน ด้วยสัญญายืมตัว จนกระทั่งย้ายถาวรในเวลาต่อมา

หลังอาการบาดเจ็บของ เจอร์เกน มาโช และ มาร์โค อัมโบรซิโอ ทำให้ เชลซี ต้องเซ็นสัญญากับ นีล ซุลลิแวน ในวัย 33 ปีขณะนั้น เข้ามาเสริมทัพแบบเร่งด่วน

ซุลลิแวน ลงเฝ้าเสาให้ทีมไป 8 นัดในฤดูกาล 2003-04 ก่อนถูกปล่อยให้ ลีดส์ ยูไนเต็ด ในฤดูกาลถัดมา

มาเกเลเล ถูกแฟน เชลซี ยกให้เป็นหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่ดีสุดตลอดกาลของสโมสร โดยเขาเข้ามาเป็นกำลังหลักของทีมทันทีที่ย้ายมาจาก เรอัล มาดริด

ตลอด 5 ฤดูกาลในถิ่น สแตมฟอร์ด บริดจ์ กองกลางชาวฝรั่งเศสมีส่วนสำคัญช่วยให้ทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย, เอฟเอ คัพ 1 สมัย และแชมป์ลีกคัพ 2 สมัย และเป็นหนึ่งในนักเตะขวัญใจตลอดกาลของแฟนบอล