อาร์เซนอลยิ้ม! ลิเวอร์พูลอดขึ้นจ่าฝูงเจ๊าแมนฯ ยูฯ 2-2

LIVE UPDATE พรีเมียร์ลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล

พรีเมียร์ลีก 2023/24 คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ที่ 32 เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังเหย้า โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำศึกแดงเดือดพบกับ ลิเวอร์พูล

เอริค เทน ฮาก กุนซือปีศาจแดง วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น ราสมุส ฮอยลุนด์ ทำเกมรุกร่วมกับ อเลฮานโดร การ์นาโช, บรูโน แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด

ด้านหงส์แดงของ เยอร์เก้น คล็อปป์ เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และ หลุยส์ ดิอาซ

ครึ่งแรกดำเนินมาจนถึงนาทีที่ 23 เป็นฝั่งของลิเวอร์พูลมาได้ประตูขึ้นนำ จากลูกเตะมุมฝั่งขวาที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดให้ ดาร์วิน นูนเญซ โหม่งเช็ดต่อให้ หลุย์ ดิอาซ วอลเลย์ด้วยขวาจ่อ ๆ ไม่เหลือ ส่งให้ทีมเยือนบุกนำ 1-0 และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาทีที่ 50 กลายเป็นยูไนเต็ดมาได้ประตูตีเสมอ จากความผิดพลาดของ จาเรลล์ ควอนซาห์ ซึ่งจ่ายบอลไม่ดีไปเข้าทาง บรูโน แฟร์นันด์ส ฉวยโอกาสยิงลูกใบไม้ร่วงย้อยหนีมือ ควีวีน เคลเลเลอร์ เข้าไปซุกก้นตาข่าย ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1

ต่อด้วยนาทีที่ 67 ปีศาจแดงมาพลิกขึ้นนำ จากจังหวะขึ้นเกมทางกราบซ้ายที่ อารอน วาน-บิสซาก้า ไหลบอลให้ ค็อบบี้ ไมนู หมุนตัวปั่นโค้ง ๆ ด้วยขวาเสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสวยงาม ช่วยให้เจ้าบ้านแซงนำ 2-1

แต่แล้วช่วงท้ายเกมนาทีที่ 84 หงส์แดงมาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ไปโดน อารอน วาน-บิสซาก้า สกัดล้มลงไป ก่อนจะเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาด ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 2-2

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมด้วยผลเสมอ 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดมีเพิ่มเป็น 49 แต้ม อยู่อันดับ 6 ส่วนลิเวอร์พูลมีเพิ่มเป็น 71 แต้ม เท่ากับจ่าฝูงอย่างอาร์เซนอล ทว่าผลต่างประตูได้เสียเป็นรอง ทำให้รั้งอันดับ 2

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : อ็องเดร โอนานา; อารอน วาน-บิสซาก้า, แฮร์รี แม็คไกวร์, วิลลี คัมบวาลา, ดิโอโก้ ดาโลต์; ค็อบบี้ ไมนู (เมสัน เมาท์ น.84), คาเซมิโร; อเลฮานโดร การ์นาโช (โซฟียาน อัมราบัต น.79), บรูโน แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด (อันโตนี น.66); ราสมุส ฮอยลุนด์

สำรองไม่ได้ใช้ : อัลตาย มายินดีร์, คริสเตียน อีริคเซน, อาหมัด ดิยัลโล, โอมารี ฟอร์สัน, แฮร์รี อามาสส์, ฮาบีบ โอกุนเนเย

ใบเหลือง - วิลลี คัมบวาลา น.74, อ็องเดร โอนานา น.80, เมสัน เมาท์ น.90+3, อันโตนี น.90+4, คาเซมิโร น.90+7

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวีน เคลเลเฮอร์; คอเนอร์ แบรดลีย์ (โจ โกเมซ น.66), จาเรลล์ ควอนซาห์, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน; อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, วาตารุ เอนโด (ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ น.69), โดมินิค โซโบสไล (เคอร์ติส โจนส์ น.66); โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ (โกดี้ คักโป น.68), หลุยส์ ดิอาซ

สำรองไม่ได้ใช้ : อิบราฮิมา โกนาเต้, อาเดรียน, คอสตาส ซิมิคาส, ไรอัน กราเฟนแบร์ก, เจย์เด้น แดนน์ส

ใบเหลือง - คอเนอร์ แบรดลีย์ น.7, เคอร์ติส โจนส์ น.89

โปรแกรมถ่ายทอดสด 

เช็คโปรแกรมถ่ายทอดสดทุกคู่ได้ที่นี่

วันและเวลาแข่งขัน