ดิอาซเบิ้ล! ลิเวอร์พูลยำใหญ่แมนฯ ยูฯ คาบ้าน 3-0

LIVE UPDATE พรีเมียร์ลีก : แมนฯ ยูไนเต็ด - ลิเวอร์พูล

พรีเมียร์ลีก 2024/25 คู่บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ที่ 3 เป็นการพบกันระหว่าง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เปิดรังเหย้า โอลด์ แทร็ฟฟอร์ด ทำศึกแดงเดือดพบกับ ลิเวอร์พูล

เอริค เทน ฮาก กุนซือปีศาจแดง วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น โจชัว เซิร์กซี ทำเกมรุกร่วมกับ อเลฮานโดร การ์นาโช, บรูโน แฟร์นันด์ส และ มาร์คัส แรชฟอร์ด

ด้านหงส์แดงของ อาร์เนอ สล็อต เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า และ หลุยส์ ดิอาซ

เริ่มเกมได้ 8 นาที ฝั่งของลิเวอร์พูลเกือบได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ หลุยส์ ดิอาซ ไหลบอลทางกราบซ้ายแล้วลูกเลยตัวกลางอย่าง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลึกไปเข้าทาง เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ แปด้วยขวาไปโดน ดิโอโก้ ดาโลต์ สกัดออกจากหน้าปากประตู แต่บอลก็ข้ามเส้นไปแล้ว ทว่าเมื่อผู้ตัดสินเช็ค VAR ประตูนี้ก็ถูกริบไป เพราะทาง ซาลาห์ อยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า

แต่แล้วนาทีที่ 35 ลิเวอร์พูลก็มาทำประขึ้นนำจนได้ จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ หยอดบอลทางกราบขวาลึกไปเสาไกลให้ หลุยส์ ดิอาซ เทกตัวโหม่งตุงตาข่าย ส่งให้หงส์แดงในชุดเยือนสีบาวบุกนำ 1-0

ถัดมานาทีที่ 42 ลิเวอร์พูลมาบวกลูกสองเพิ่มได้อีก จากจังหวะที่ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ไหลบอลทางกราบขวาเข้ากลางให้ หลุยส์ ดิอาซ ตวัดยิงเร็วด้วยขวาอย่างเด็ดขาด เป็นลูกสองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ช่วยให้ทีมเยือนหนีห่างเป็น 2-0 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาทีที่ 56 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูที่สามเพิ่มเติมอีก จากจังหวะที่ โดมินิค โซโบสไล ไหลบอลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ตวัดยิงด้วยซ้ายไม่เหลือ ส่งให้หงส์แดงนำห่าง 3-0

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นลิเวอร์พูลบุกมาถล่มเอาชนะขาดลอยถึง 3-0 เก็บ 9 แต้มเต็ม จากการชนะ 3 นัดรวด รั้งอันดับ 2 เป็นรองทีมจ่าฝูงอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แค่ประตูที่ยิงได้เท่านั้น และยังเป็นทีมเดียวที่ยังไม่เสียประตูในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้เลยด้วย ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดอยู่อันดับ 14 ยังมี 3 แต้มเท่าเดิม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด (4-2-3-1) : อ็องเดร โอนานา; นุสแซร์ มัซราวี, มัตไธส์ เดอ ลิกต์ (แฮร์รี แม็คไกวร์ น.69), ลิซานโดร มาร์ติเนซ, ดิโอโก้ ดาโลต์; ค็อบบี้ เมนู, คาเซมิโร (โทบี้ คอลลีเยอร์ น.46); อเลฮานโดร การ์นาโช (อาหมัด ดิยัลโล น.69), บรูโน แฟร์นันด์ส, มาร์คัส แรชฟอร์ด; โจชัว เซิร์กซี (คริสเตียน อีริคเซน น.86)

สำรองไม่ได้ใช้ : อัลตาย มายินดีร์, อันโตนี, ทอม ฮีตัน, จอนนี อีแวนส์, อีธาน วีทลีย์

ใบเหลือง - โจชัว เซิร์กซี น.23, ลิซานโดร มาร์ติเนซ น.40, ค็อบบี้ เมนู น.45+1, มัตไธส์ เดอ ลิกต์ น.65

ลิเวอร์พูล (4-3-3) : ควีวีน เคลเลเฮอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ (คอเนอร์ แบรดลีย์ น.76), อิบราฮิมา โกนาเต้, เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน (คอสตาส ซิมิคาส น.83); ไรอัน กราเฟนแบร์ก, อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์, โดมินิค โซโบสไล; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า (ดาร์วิน นูนเญซ น.76), หลุยส์ ดิอาซ (โกดี้ คักโป น.66)

สำรองไม่ได้ใช้ : โจ โกเมซ, วาตารุ เอนโด, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, ควีวีน เคลเลเฮอร์, จาเรลล์ ควอนซาห์

ใบเหลือง - เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ น.55

โปรแกรมถ่ายทอดสด 

เช็คโปรแกรมถ่ายทอดสดทุกคู่ได้ที่นี่

วันและเวลาแข่งขัน