สู้อย่างสิงห์! เชลซีตีไม่ตายไล่เจ๊าแมนฯ ซิตี้ 4-4

LIVE UPDATE พรีเมียร์ลีก : เชลซี - แมนฯ ซิตี้

พรีเมียร์ลีกอังกฤษ 2023-24 คู่เอกส่งท้ายโปรแกรมประจำสัปดาห์ที่ 19 เป็นการพบกันระหว่าง เชลซี เปิดรังเหย้า สแตมฟอร์ด บริดจ์ ต้อนรับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้

เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือเจ้าบ้าน วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น นิโคลัส แจ็คสัน ทำเกมรุกร่วมกับ โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ ราฮีม สเตอร์ลิง

ด้านทีมเยือนของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-2-3-1 เช่นกัน โดยใช้หน้าเป้าเป็น เออร์ลิง ฮาลันด์ ทำเกมรุกร่วมกับ ฟิล โฟเด้น, ฮูเลียน อัลวาเรซ และ เฌเรมี โดกู

ครึ่งแรกดำเนินมาจนถึงนาทีที่ 25 เป็นฝั่งของซิตี้มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ มาร์ก กูกูเรยา ไปดึงเสื้อของ เออร์ลิง ฮาลันด์ จนเสียการทรงตัว ก่อนจะเป็น ฮาลันด์ ลุกขึ้นมารับหน้าที่สังหารเองไม่พลาด ส่งให้เรือใบสีฟ้าบุกนำ 1-0

ทว่าถัดมานาทีที่ 29 เชลซีก็มาตามตีเสมอได้แบบทันควัน จากลูกเตะมุมฝั่งขวาที่ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ เปิดให้ ติอาโก้ ซิลวา โฉบมาโหม่งที่เสาแรกกระดอนเข้าเสาไกลไป ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1

จากนั้นนาทีที่ 37 กลายเป็นเชลซีมาพลิกขึ้นนำ จากจังหวะขึ้นเกมทางกราบขวาที่ โคล พาลเมอร์ ไหลบอลเข้าเขตโทษแล้วโดน ยอสโก้ กวาร์ดิโอล ทำบอลลั่นไปเข้าทาง รีซ เจมส์ ได้จ่ายต่อให้ ราฮีม สเตอร์ลิง แปด้วยขวาจ่อ ๆ ไม่เหลือ เป็นการยิงทีมเก่าของเจ้าตัวด้วย ช่วยให้สิงโตน้ำเงินครามแซงนำ 2-1

แต่แล้วนาทีที่ 45+1 ซิตี้ก็มาตามตีเสมอได้แบบเช่นกัน จากลูกเตะมุมฝั่งซ้ายที่ ฮูเลียน อัลวาเรซ เลือกจ่ายเรียดย้อนมาแถวสองให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา โยนต่อเข้าเขตโทษให้ มานูเอล อคานจี เทกตัวโหม่งตุงตาข่าย ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 2-2 และจบครึ่งแรกด้วยสกอร์นี้

ครึ่งหลังนาทีที่ 47 ซิตี้มาเป็นฝ่ายขึ้นนำอีกครั้ง จากจังหวะขึ้นเกมทางกราบขวาที่ ฟิล โฟเด้น จ่ายเข้าเขตโทษให้ ฮูเลียน อัลวาเรซ ตบเข้ากลางต่อให้ เออร์ลิง ฮาลันด์ พุ่งชาร์จระยะเผาขนไม่เหลือ เป็นลูกสองของเจ้าตัวในเกมนี้ด้วย ส่งให้เรือใบสีฟ้านำ 3-2

ทว่านาทีที่ 67 เชลซีก็มาตามตีเสมอได้อีกรอบ จากจังหวะที่ มอยเซส ไกเซโด้ ไหลบอลทางกราบซ้ายเข้ามาหน้าเขตโทษให้ คอเนอร์ กัลลาเกอร์ จับแล้วซัดด้วยขวาไปติดเซฟ เอแดร์ซอน มาเข้าทาง นิโคลัส แจ็คสัน ซ้ำดาบสองด้วยขวาไม่เหลือ ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 3-3

ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 86 ซิตี้มาได้ประตูขึ้นนำเป็นครั้งที่สามในเกมนี้ จากจังฟวะที่ โรดรี้ ซัดด้วยซ้ายหน้าเขตโทษไปโดน ติอาโก้ ซิลวา สกัดเปลี่ยนทางเข้าไป ทำให้เรือใบสีฟ้านำ 4-3

แต่แล้วช่วงทดเวลานาทีที่ 90+5 เชลซีก็มาได้จุดโทษบ้างเช่นกัน จากจังหวะที่ รูเบน ดิอาส ไปเสียบสกัดใส่ อาร์มันโด้ โบรยา ล้มลงไป ก่อนจะเป็น โคล พาลเมอร์ รับหน้าที่สังหารใส่ทีมเก่าที่เพิ่งย้ายออกมาเมื่อช่วงซัมเมอร์ไม่พลาด ทำให้สกอร์เสมอกัน 4-4

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมด้วยผลเสมอแบบสุดมัน 4-4 แบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยเชลซีอยู่อันดับ 10 มีเพิ่มเป็น 16 แต้ม ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้รั้งจ่าฝูงด้วยการมีเพิ่มเป็น 28 แต้ม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ; รีซ เจมส์ (มาโล กุสโต้ น.64), อักเซล ดิซาซี, ติอาโก้ ซิลวา, มาร์ก กูกูเรยา; มอยเซส ไกเซโด้ (อาร์มันโด้ โบรยา น.90), เอ็นโซ เฟร์นานเดซ (มิไคโล มูดริค น.64); โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์, ราฮีม สเตอร์ลิง; นิโคลัส แจ็คสัน (เลสลีย์ อูโกชุควู น.90+6)

สำรองไม่ได้ใช้ : เบอนัวต์ บาดิยาชิล, โนนี มาดูเอเก้, ยอร์เย เปโตรวิช, เอียน มัตเซน, อเล็กซ์ มาตอส

ใบเหลือง - มาร์ก กูกูเรยา น.22, โคล พาลเมอร์ น.23, มอยเซส ไกเซโด้ น.60, นิโคลัส แจ็คสัน น.90+4, ราฮีม สเตอร์ลิง น.90+7

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (4-2-3-1) : เอแดร์ซอน; ไคล์ วอล์คเกอร์, รูเบน ดิอาส, มานูเอล อคานจี, ยอสโก้ กวาร์ดิโอล; โรดรี้, แบร์นาร์โด้ ซิลวา; ฟิล โฟเด้น, ฮูเลียน อัลวาเรซ (มาเตโอ โควาซิช น.79), เฌเรมี โดกู (แจ็ค กรีลิช น.59); เออร์ลิง ฮาลันด์

สำรองไม่ได้ใช้ : คัลวิน ฟิลลิปส์, สเตฟาน ออร์เตก้า, มาเธอุส นูเนส, สกอตต์ คาร์สัน, ออสการ์ บ็อบบ์, ริโก้ ลูอิส

ใบเหลือง - เฌเรมี โดกู น.56, โรดรี้ น.72, แจ็ค กรีลิช น.90+4

โปรแกรมถ่ายทอดสด 

วันและเวลาแข่งขัน?