รัวครึ่งหลัง! นิวคาสเซิลยิงยับดับซ่าเชลซี 4-1

LIVE UPDATE พรีเมียร์ลีก : นิวคาสเซิล - เชลซี

พรีเมียร์ลีก 2023-24 ประจำโปรแกรมสัปดาห์ที่ 13 เป็นการพบกันระหว่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เปิดรังเหย้า เซนต์ เจมส์ พาร์ค ต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี

เอ็ดดี้ ฮาว กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น มิเกล อัลมิรอน, อเล็กซานเดอร์ อิซัค และ แอนโธนี กอร์ดอน

ด้านทีมเยือนที่ต้องใช้ผู้ช่วยอย่าง เฆซุส เปเรซ คุมทัพข้างสนามแทน เมาริซิโอ โปเช็ตติโน ซึ่งติดโทษแบน วางหมากมาในแผน 4-2-3-1 ใช้หน้าเป้าเป็น นิโคลัส แจ็คสัน ทำเกมรุกร่วมกับ โคล พาลเมอร์, คอเนอร์ กัลลาเกอร์ และ ราฮีม สเตอร์ลิง

เริ่มเกมได้ 13 นาที เป็นฝั่งของนิวคาสเซิลมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ลูอิส ไมลีย์ จ่ายทะลุช่องเข้าเขตโทษ อเล็กซานเดอร์ อิซัค จับแล้วพลิกตัวยิงด้วยขวาตุงตาข่าย ส่งให้สาลิกาดงออกนำ 1-0

แต่แล้วนาทีที่ 23 กลายเป็นเชลซีมาได้ประตูตีเสมอ จากลูกฟรีคิกบริเวณหัวกะโหลกหน้าเขตโทษที่ ราฮีม สเตอร์ลิง ปั่นด้วยขวาโค้งเสียบใต้คานอย่างสวยงาม ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยผลนี้

ครึ่งหลังนิวคาสเซิลมาได้ประตูขึ้นนำอีกครั้ง ในนาทีที่ 60 จากจังหวะที่ แอนโธนี กอร์ดอน เปิดบอลทางกราบซ้ายเข้าเขตโทษให้ จามาล ลาสเซลส์ เทกตัวโหม่งอย่างเด็ดขาด ช่วยให้เจ้าบ้านนำอีกรอบ 2-1

ถัดมานาทีที่ 61 สาลิกาดงมาบวกลูกสามเพิ่มได้อีก จากความผิดพลาดของ ติอาโก้ ซิลวา ซึ่งทำบอลลั่นหน้าเขตโทษไปเข้าทาง โชเอลินตอน รับส้มลากหลุดไปยิงด้วยขวาจ่อ ๆ ไม่เหลือ ส่งให้เดอะ แม็คพายส์หนีห่างเป็น 3-1

สถานการณ์ของเชลซียิงย่ำแย่ลงไปอีก เมื่อมาเหลือ 10 คน ในนาทีที่ 73 จากจังหวะที่ รีซ เจมส์ ไปตัดฟาวล์ใส่ แอนโธนี กอร์ดอน จนโดนใบเหลืองที่สองเป็นใบแดงไล่ออกไป

ช่วงท้ายเกมนาทีที่ 83 นิวคาสเซิลมาได้ประตูที่สี่ จากจังหวะที่ มิเกล อัลมิรอน แทงทะลุช่องให้ แอนโธนี กอร์ดอน ลากไปแต่งเข้าเหลี่ยมยิงด้วยขวาอย่างเฉียบคม ช่วยให้สาลิกาดงทิ้งห่าง 4-1

จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมเป็นนิวคาสเซิล ยูไนเต็ดชนะไป 4-1 เก็บเพิ่มเป็น 23 คะแนน รั้งอันดับ 6 ส่วนเชลซีอยู่อันดับ 10 ยังมี 16 คะแนนเท่าเดิม

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (4-3-3) : นิค โป๊ป; คีแรน ทริปเปียร์, ฟาเบียน แชร์, จามาล ลาสเซลส์ (พอล ดัมเมตต์ น.86), ติโน ลิฟราเมนโต้; ลูอิส ไมลีย์ (อมาดู ดิยัลโล น.90+3), บรูโน กิมาไรส์, โชเอลินตอน; มิเกล อัลมิรอน (อเล็กซ์ เมอร์ฟี น.87), อเล็กซานเดอร์ อิซัค (แม็ตต์ ริทชี น.81), แอนโธนี กอร์ดอน (ไมเคิล เอ็นดิเวนี น.90+2)

สำรอง : มาร์ติน ดูบราฟก้า, ลอริส คาริอุส, มาร์ค จิลเลสพี, เบน พาร์กินสัน

ใบเหลือง - คีแรน ทริปเปียร์ น.22, โชเอลินตอน น.45+3, จามาล ลาสเซลส์ น.46, แม็ตต์ ริทชี น.90+2

เชลซี (4-2-3-1) : โรเบิร์ต ซานเชซ; รีซ เจมส์, ติอาโก้ ซิลวา, เบอนัวต์ บาดิยาชิล, มาร์ก กูกูเรยา; เลสลีย์ อูโกชุควู (มอยเซส ไกเซโด้ น.69), เอ็นโซ เฟร์นานเดซ; โคล พาลเมอร์ (ลีวาย โคลวิลล์ น.75), คอเนอร์ กัลลาเกอร์ (มิไคโล มูดริค น.69), ราฮีม สเตอร์ลิง (โนนี มาดูเอเก้ น.87); นิโคลัส แจ็คสัน (อาร์มันโด้ โบรยา น.69)

สำรองไม่ได้ใช้ : อักเซล ดิซาซี, ยอร์เย เปโตรวิช, เอียน มัตเซน, อเล็กซ์ มาตอส

ใบเหลือง - เลสลีย์ อูโกชุควู น.41, รีซ เจมส์ น.55, น.73, ราฮีม สเตอร์ลิง น.59, มาร์ก กูกูเรยา น.77, ลีวาย โคลวิลล์ น.81

ใบแดง - รีซ เจมส์ น.73 (สองใบเหลือง)

โปรแกรมถ่ายทอดสด 

เช็คโปรแกรมถ่ายทอดสดทุกคู่ได้ที่นี่

วันและเวลาแข่งขัน