เอริค ตอฮิร ประธานสหพันธ์ฟุตบอลอินโดนีเซีย (PSSI) ยืนยันแยกทางกับ ชิน แท-ยง กุนซือชาวเกาหลีใต้ เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันจันทร์ที่ 6 มกราคม 2568 หลังทำผลงานในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 18 ทีม ไม่ตรงตามเป้าหมาย รวมถึงศึกอาเซียน คัพ 2024 ที่ร่วงตกรอบแรก
ก่อนหน้านี้ อินโดนีเซีย ต่อสัญญาใหม่กับชิน แท-ยง ออกไปจนถึงปี 2027 อย่างไรก็ตาม อดีตเฮดโค้ชทีมชาติเกาหลีใต้ กลับทำผลงานในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสาม (18 ทีม) ได้ไม่ดีนัก เมื่อมี 6 คะแนน จาก 6 นัด รั้งอันดับ 3 ของกลุ่ม B
ขณะที่ล่าสุด ชิน แท-ยง พาทีมชาติอินโดนีเซียล้มเหลวในการแข่งขันอาเซียน คัพ 2024 ด้วยการร่วงตกรอบแรก ทั้งที่เป้าหมายที่ เอริค ตอฮิร วางไว้ คือการเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศเป็นอย่างน้อย
เมื่อช่วงเที่ยงวันที่ 6 มกราคม 2568 สหพันธ์ฟุตบอลอินโดนีเซีย (PSSI) จัดการประชุมวาระพิเศษ ซึ่งมี เอริค ตอฮิร เป็นประธาน ก่อนได้ข้อสรุปยุติสัญญากับ ชิน แท-ยง อย่างเป็นทางการ และจะดำเนินการสรรหาโค้ชคนใหม่มาทำหน้าที่แทน เพื่อยกระดับทีมชาติอินโดนีเซีย รวมถึงสานต่อความหวังลุ้นไปฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย
"การตัดสินใจเกิดขึ้นจากการพิจารณาและประเมินอย่างรอบคอบโดยสหพันธ์ฟุตบอลอินโดนีเซีย และหน่วยงานที่ประเมินผลงานของทีมชาติในระยะยาว"
"PSSI ขอขอบคุณความทุ่มเททั้งหมดของ ชิน แท-ยง ที่มีต่อทีมชาติอินโดนีเซีย เราขออวยพรให้ ชิน แท-ยง โชคดีในอนาคต" แถลงการณ์ของสหพันธ์ฟุตบอลอินโดนีเซีย
สำหรับ ชิน แท-ยง ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเฮดโค้ชของทีมชาติอินโดนีเซีย เมื่อปี 2020 ซึ่งได้รับมอบหมายให้วางรากฐานฟุตบอลอินโดนีเซียใหม่ทั้งหมดตั้งแต่ระดับเยาวชน คุมทีม U20, U23 และชุดใหญ่ ผลงานโดดเด่น คือ การพาทีมชาติอินโดนีเซียชุดใหญ่ผ่านเข้ารอบน็อคเอาท์เอเชียน คัพ 2023 ครั้งแรก, พาทีม U23 เข้าถึงรอบรองชนะเลิศ ศึกชิงแชมป์เอเชีย เมื่อปี 2024 (จบอันดับ 4 ของทัวร์นาเมนต์) แต่พลาดตั๋วไปลุยโอลิมปิก เกมส์ อย่างน่าเสียดาย และ พาทีมชุดใหญ่ผ่านเข้ารอบ 18 ทีม ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย ได้เป็นครั้งแรก