ปารีส แซงต์-แชร์กแมง กลายเป็นหนึ่งในทีมที่ทำธุรกิจซื้อขายนักเตะได้ยอดเยี่ยมที่สุดในตลาดซัมเมอร์ปีนี้ ด้วยการที่จัดการเช็กบิล จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม มิดฟิลด์ทีมชาติเนเธอร์แลนด์มาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัว หลังจากหมดสัญญากับ ลิเวอร์พูล
ต่อเนื่องด้วยการทุ่มเงินคว้า อัชราฟ ฮาคิมี แบ็คขวาความเร็วสูงจากอินเตอร์ มิลาน มาร่วมทีม ต่อเนื่องด้วย เซร์คิโอ รามอส ปราการหลังจอมเก๋า ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่ย้ายมาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัวหลังหมดสัญญากับเรอัล มาดริด
ล่าสุดเสริมทัพแบบจัดเต็มด้วยการคว้าตัว จานลุยจิ ดอนนารุมมา นายประตูทีมชาติอิตาลีชุดแชมป์ยูโร 2020 มาร่วมทีมแบบไม่มีค่าตัวอีกเช่นกัน หลังหมดสัญญากับ เอซี มิลาน ผนึกกับนักเตะชั้นยอดอย่าง มาร์โก แวร์รัตติ, มาร์ควินญอส, คิลิยัน เอ็มบัปเป้ และ เนย์มาร์ ทำให้พวกเขากลายเป็นหนึ่งในทีมที่มีขุมกำลังยอดเยี่ยมที่สุดในยุโรปเลยก็ว่าได้
โกลขอพาคุณไปดูกันว่าพวกเขาจะจัดทัพอย่างไรบ้างเพื่อลุ้นแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พวกเขาเฝ้ารอในฤดูกาลนี้
4-2-3-1
เมาริซิโอ โปเช็ตติโน เป็นโค้ชที่ขึ้นชื่อและมีความเก่งกาจในการใช้แผน 4-2-3-1 และด้วยการเสริมทัพในซัมเมอร์นี้จะทำให้ระบบนี้ของเขามีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก
แม้ว่าจะตกเป็นข่าวกับ เรอัล มาดริด แต่คาดว่า คิลิยัน เอ็มบัปเป้ น่าจะอยู่กับทีมต่อไปและเป็นตัวหลักในการขึ้นเกมรุกทางฝั่งซ้ายของทีม หรือโยกไปรับบทกองหน้าหมายเลข 9 ของทีมหาก เมาโร อิคาร์ดี้ ไม่ตอบโจทย์
Playing Surfaceนอกจากนี้ในแนวรุก เนย์มาร์ รับบทจอมทัพตัวอิสระ เล่นร่วมกับ อังเคล ดิ มาเรีย ผู้ทำประตูชัยพาอาร์เจนตินาคว้าแชมป์โคปา อเมริกา ที่จะประจำการทางกราบขวา
ขณะที่ ไวจ์นัลดุม น่าจะได้เล่นร่วมกับ มาร์โก แวร์รัตติ ผนึกพลังกันในแดนกลาง โดยมี เซร์คิโอ รามอส จับคู่กับรับกับ มาร์ควินญอส ด้านแบ็คขวา ฮาคิมี ประจำการคอยสนับสนุนเกมรุกในแบบที่เขาถนัด
ด้านตำแหน่งผู้รักษาประตู ดอนนารุมมา น่าจะต้องแย่งตำแหน่งกับเจ้าของมือหนึ่งเดิมอย่าง เคย์ลอร์ นาวาส อย่างดุเดือด
3-4-3
อีกหนึ่งแผนที่น่าจะเป็นไปได้สำหรับเปแอสเชในฤดูกาลหน้า ซึ่งเป็นอีกแผนที่จะสามารถหยิบมาใช้งานได้เมื่อเจอสถานการณ์หรือคู่แข่งที่แตกต่างออกไป
เซร์คิโอ รามอส ยังเป็นหัวใจหลักของแผนขนาบวิงแบ็คตัวใหม่ ฮาคิมี ที่จะเติมเกมรุกขึ้นไปได้อย่างอิสระมากขึ้น เช่นเดียวกับ แบร์นาต ในกราบซ้ายถ้าเจ้าตัวสามารถรักษาความฟิตได้ตลอดทั้งฤดูกาล
Playing Surfaceคู่กลางตัวหลักยังคงเป็น ไวจ์นัลดุม และ แวร์รัตติ โดยขยับ เอ็มบัปเป้ มาเล่นกองหน้าตัวใน โดยมี เนย์มาร์ และ ดิ มาเรีย คอยสร้างสรรค์เกม โดยที่ยังคงสมดุลทั้งเกมรุกและเกมรับในแบบที่ทีมต้องการ
4-3-3
ถ้าหากว่า โปเช็ตติโน อยากเพิ่มความเแข็งแกร่งในแผงมิดฟิลด์ เขาสามารถปรับมาเล่นในระบบ 4-3-3 ในเกมที่คู่แข่งอาศัยการช่วงชิงโอกาสกลางสนาม
โดยเพิ่ม กานา เกย์ ลงไปในแผนนี้ ซึ่งจะทำให้ เนย์มาร์ อาจต้องขยับขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งตัวรุกทางฝั่งซ้ายมากขึ้น
Playing Surfaceนอกจาก กานา เกย์ แล้ว พวกเขายังมีตัวเลือกอย่าง อันเดร เอร์เรรา และ เลอันโดร ปาเรเดส ที่พร้อมลงสนามขึ้นอยู่กับแผนและคู่แข่งของพวกเขาแต่ละเกม รวมไปถึง ยูเลียน ดรักซ์เลอร์ ที่หากทีมต้องการเกมรุกแบบเต็มสูบ
4-2-2-2
มีบ่อยครั้งเช่นเดียวกันที่ เปแอสเช เลือกใช้ระบบ 4-2-2-2 เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมาเพื่อเปิดเกมรุกใส่คู่แข่งแบบเต็มรูปแบบ และถ้าหากพวกเขาเลือกใช้แผนนี้อีกครั้ง เอ็มบัปเป้ อาจจะถูกขยับไปจับคู่กับ อิคาร์ดี้ ในเกมรุก
Playing Surfaceดิ มาเรีย และ เนย์มาร์ ฉีกออกมาทำเกมรุกริมเส้นมากขึ้น โดยที่ ไวจ์นัลดุม และ แวร์รัตติ ปักหลักครองบอลและคุมจังหวะกลางสนาม
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นแผนในรูปแบบไหนเรียกได้ว่า เปแอสเช มีทรัยากรเพียบพร้อมแทบทุกตำแหน่งให้เลือกใช้งานได้หลายรูปแบบและแผนการเล่นจากการเสริมทัพอันยอดเยี่ยมในซัมเมอร์นี้ของทีมจนถึงตอนนี้ และหากพวกเขายังมีนักเตะขาเข้ามาร่วมทีมอีกยิ่งจะทำให้โอกาสในการครองความยิ่งใหญ่ในฟุตบอลยุโรปของพวกเขามีมากขึ้นไปอีก