แข่งขันวันอังคาร ที่ 21 มกราคม 2563
สนามบุรีรัมย์ สเตเดียม (ช้างอารีนา)
เวลา 18.30 น.
ถ่ายทอดสดทาง PPTV HD36
จังหวะสำคัญในเกม
วันที่ 21 มกราคม 2563 ที่บุรีรัมย์ สเตเเดียม เจ้าถิ่น บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด รองแชมป์โตโยต้า ไทยลีก เมื่อปีที่ผ่านมา เปิดบ้านพบกับ โฮจิมินห์ ซิตี้ รองแชมป์วี-ลีก เวียดนาม ปีล่าสุด ในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2020 รอบคัดเลือก รอบ 2
ปราสาทสายฟ้า ส่ง สุภโชค สารชาติ และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา ที่เพิ่งกลับมาจาก ทีมชาติไทย U23 ออกสตาร์ทเป็นตัวจริงทันที พร้อมแกนหลักอย่าง อันเดรส ตูเญซ และ ศศลักษณ์ ไหประโคน รวมถึง 3 แข้งต่างชาติใหม่ จอง แจ ยอง , เบอร์นาร์โด กูเอสตา และ ริคาร์โด บูเอโน
ขณะที่ โฮจิมิสห์ นำทัพมาโดยซูเปอร์สตาร์อย่าง เหงียน คง เฟือง รวมถึงสองกองหน้าต่างชาติ มาธิอัส ฮัดวา และ วิคเตอร์ โพรเดล
เริ่มเกม ปราสาทสายฟ้า พยายามครองบอลบุกเข้าใส่ แต่แทบไม่มีโอกาสจบสกอร์จะแจ้ง หลังทีมเยือนอย่าง โฮจิมินห์ มาเน้นรัดกุม
และนาทีที่ 28 โฮจิมินห์ ยังได้ลุ้นก่อน โง ฮอง ทินห์ ปั่นฟรีคิกหน้าเขตโทษ บอลชนคานเด้งออมาอย่างน่าเสียดาย
นาทีที่ 38 ปราสาทสายฟ้า ได้ลุ้นคืนบ้าง ศศลักษณ์ ไหประโคน เปิดฟรีคิกยัดเข้าเขตโทษ แต่น่าเสียดายที่จังหวะสุดท้าย เพื่อนในทีมเข้าชาร์จไม่ถึง
จบครึ่งแรก สกอร์ยังอยู่ที่ 0-0
กลับสู่ครึ่งหลัง ปราสาทสายฟ้า ขึ้นนำเร็ว 1-0 นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม ทำชิ่งกับ สุภโชค สารชาติ หลุดขึ้นมาทางฝั่งขวา ก่อนตบเข้าเขตโทษให้ เบอร์นาโด กูเอสตา แปเข้าไปไม่เหลือซาก
นาทีที่ 72 ปราสาทสายฟ้า ทิ้งห่างเป็น 2-0 ศศลักษณ์ ไหประโคน เปิดเตะมุมเข้าเขตโทษ แนวรับทีมเยือนเคลียร์ไม่ขาด บอลมาเข้าทาง ริคาร์โด บูเอโน วอลเลย์สวนตูมเดียวเข้าไปอย่างเด็ดขาด
อย่างไรก็ตามนาทีที่ 77 โฮจิมินห์ ไล่มาเป็น 1-2 จากจังหวะบอลยาวด้านขวาเข้าเขตโทษ และเป็น ปาเป้ ดิอาคิเต โถมโขกผ่านมือ ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน เข้าไปอย่างสวยงาม
เวลาที่เหลือไม่มีประตูเพิ่ม จบเกม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านชนะ โฮจิมินห์ ซิตี้ หวุดหวิด 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบเพลย์ออฟ โดยจะบุกไปเยือน เซี่ยงไฮ้ เอสไอพีจี (จีน) วันที่ 28 มกราคม 2563
11 ผู้เล่นตัวจริง
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (GK) - นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม , พรรษา เหมวิบูลย์ , อันเดรส ตูเญซ , ศศลักษณ์ ไหประโคน - จอง แจ ยอง , รัตนากร ใหม่คามิ - เบอร์นาร์โด กูเอสตา , สุภโชค สารชาติ , ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา - ริคาร์โด บูเอโน
โฮจิมินห์ ซิตี้ : เหงียน ทันห์ ทัง (GK) - ซาม งอค ดุ๊ค , โง ฮอง ทินห์ , ทรัน พิ ซอน , เล ดุ๊ค เลือง , วู ง็อค ทินห์ , เหงียน คง เฟือง , วิคเตอร์ โพรเดล , เปเป้ ดิอาคิเต , มาธิอัส ฮัดวา , วู อาน ตวน
ความพร้อมก่อนเกม
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ปราสาทสายฟ้า ได้สิทธิ์เข้ามาเล่นรอบเพลย์ออฟ ในฐานะรองแชมป์โตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2019 โดยที่ผ่านมา โบซิดาร์ บันโดวิช พาทีมทำผลงานในช่วงปรีซีซั่นได้อย่างยอดเยี่ยม เมื่อชนะคู่แข่ง 4 นัดติตด่อกัน ขณะที่ความพร้อมขาดเพียง ศุภชัย ใจเด็ด ที่เจ็บมาจากทีมชาติไทย U23 ส่วน สุภโชค สารชาติ และ ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา พร้อมเต็มที่
เช่นเดียวกับผู้เล่นคนสำคัญรายอื่นๆ อย่าง อันเดรส ตูเญซ, พรรษา เหมวิบูลย์ และ ศศลักษณ์ ไหประโคน รวมถึง 3 แข้งต่างชาติรายใหม่ทั้ง จอง แจ ยอง, ริคาร์โด บูเอโน และ เบร์นาร์โด กูเอสตา ที่สำคัญ ยังได้ จักรพันธ์ แก้วพรม หายเจ็บยาว กลับมาเป็นตัวเลือกบนแผงมิดฟิลด์
“เราเตรียมทีมมา 5 สัปดาห์ จนถึงตอนนี้นักเตะเราพร้อมเต็มที่”
“เราเพิ่งได้นักเตะทีมชาติกลับมาสมทบ และ มีเวลาพัก 2 วัน ซึ่งเรามีปัญหาแค่ อาร์ม (ศุภชัย ใจเด็ด) ที่เล่นไม่ได้ ส่วน เชค (สุภโชค สารชาติ) และ แบงค์ (ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา) ยังมีอาการล้า แต่ก็คิดว่าทั้งคู่น่าจะไม่มีปัญหาอะไร และ พร้อมช่วยเราในเกมนี้”
“นักเตะต่างชาติที่เข้ามาใหม่ เริ่มปรับตัวได้ดีขึ้นเรื่อยๆ อย่างที่บอกเรามีเวลาซ้อมด้วยกันถึง 5 สัปดาห์ เท่าที่ดู ทุกคนเล่นเข้ากับทีม และ ทำตามแท็คติคได้ดี ก็คิดว่าทั้งหมดที่เข้ามาจะช่วยเราได้”
“เราต้องเคารพคู่แข่ง โฮจิมินห์ เป็นทีมที่ดี และ ไม่ใช่เกมที่ง่าย ในฐานะที่เราเล่นในบ้าน เราต้องมีสมาธิ ต้องมีความเชื่อ และ แน่นอนว่า ผม รวมถึง นักเตะทุกคนจะสู้จนถึงวินาทีสุดท้าย และ หวังว่าแฟนบอลจะเข้ามาให้กำลังใจเราด้วย”
โฮจิมินห์ ซิตี้ : ชุง แฮ ซอง กุนซือชาวเกาหลีใต้ เพิ่งพาทีมอุ่นเครื่องแพ้ อุลซาน ฮุนได 0-1 เมื่อวันที่ 17 มกราคม ที่ผ่านมา ก่อนที่วันถัดมา จะนำลูกทีมเดินทางมาปรับตัวที่ จ.บุรีรัมย์ ทันที โดยความพร้อมเกมนี้ ไม่มีปัญหาจัดทัพ คาดว่าดาวดังอย่าง เหงียน คง เฟือง จะออกสตาร์ทเป็นตัวชูโรง พร้อมกองหน้ารายใหม่อย่าง อมิโด บัลเด ที่ผ่านประสบการณ์ค้าแข้งที่ยุโรป มาแล้ว
“ทุกคนส่วนใหญ่ที่ทำงานในฟุตบอลเอเชีย รู้จัก บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ดี พวกเขาเป็นทีมใหญ่ และ มีประสบการณ์ แถมเคยชนะ ชุนบุค ฮุน มอร์เตอร์ส ได้ด้วย แน่นอนว่า มันเป็นเรื่องยากสำหรับเรา ที่จะทราบข้อมูลของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด แบบละเอียด เพราะเราเล่นคนละลีกกัน”
“สิ่งที่เราพอทราบ คือเรารู้ว่าบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เสียแชมป์ลีกเมื่อปีก่อน ด้วยเรื่องของเฮดทูเฮด แต่นั่นก็เป็นข้อมูลเล็กน้อยมาก เราไม่รู้เลยว่า บุรีรัมย์ เล่นแบบไหน ดังนั้น ผมจึงบอกทีมของผมว่า สิ่งสำคัญคือการเตรียมความพร้อมก่อนเกม และ พร้อมโฟกัสกับเกม แล้วเรามาดูกันในเวลา 90 นาที”
“ในฐานะโค้ชชาวเกาหลีใต้ ผมไม่ได้เข้าใจ 100 % ถึงความเป็นคู่รักคู่แค้นระหว่างงบอลไทย กับ เวียดนาม แต่ก็ยอมรับว่าเรื่องนี้สำคัญ เพราะอย่าง ทีมเกาหลีใต้ ก็เป็นคู่แค้นกับ ทีมญี่ปุ่น ผมจึงมีความรู้สึกว่า มันมีความคล้ายกันบางอย่างเหมือนไทย กับ เวียดนาม”