ซโวนิมีร์ โบบัน ผู้อำนวยการด้านฟุตบอลของสหพันธ์ฟุตบอลยุโรป (ยูฟ่า) ออกมายืนยันว่าจะไม่มีการทดเวลาอย่างยาวนานในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รวมถึงทุกรายการแข่งขันของยูฟ่า โดยให้เหตุผลว่าเป็นกฎที่ไร้สาระอย่างยิ่ง
ก่อนหน้านี้ สมาคมฟุตบอลอังกฤษ (เอฟเอ) ได้เริ่มใช้กฎการทดเวลาแบบใหม่ แบบที่ใช้ในฟุตบอลโลก 2022 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้ในเกมคอมมิวนิตี้ ชิลด์ มีการทดเวลารวมถึง 14 นาที (แม้ขึ้นป้ายจริง 8 นาที) รวมถึงในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลหลายคู่ก็มีการทดเวลาเกินกว่า 10 นาทีด้วย
อย่างไรก็ตาม ทางยูฟ่าไม่เห็นด้วยที่จะนำกฎนี้มาใช้ เพราะต้องการเซฟร่างกายของนักเตะไม่ให้กรำศึกหนักมากจนเกินไป
"มันไร้สาระอย่างยิ่ง" โบบัน ผอ.ฟุตบอลของยูฟ่า ซึ่งเป็นตำนานนักเตะของทีมชาติโครเอเชีย กล่าว
“เกี่ยวกับสวัสดิภาพของนักเตะ มันเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ เพราะผมในฐานะที่เคยเป็นนักฟุตบอลมาก่อน เมื่อคุณเล่นไปได้ 60 หรือ 65 นาที หลังจากนั้นช่วง 30 นาทีสุดท้ายคุณจะเริ่มรู้สึกเหนื่อยมากแล้ว แล้วทำไมจะต้องไปเล่นเพิ่มอีก 12, 13, 14 หรือ 15 นาทีเพื่ออะไร"
“บ่อยแค่ไหนที่เราพูดวิจารณ์เกี่ยวกับปฏิทินและเกมที่มากเกินไป เราไม่เคยฟังนักเตะและโค้ชกันเลย มันบ้าไปแล้ว! มันมากเกินไป ดังนั้นเราจะไม่ทำเช่นนี้ แนวทางของเราแตกต่างออกไป”
ขณะที่สหพันธ์นักฟุตบอลอาชีพนานาชาติ (ฟิฟโปร) ก็ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกับสมาคมนักฟุตบอลอาชีพอังกฤษ (พีเอฟเอ) และ สมาคมนักฟุตบอลอาชีพฝรั่งเศส (UNFP) แสดงจุดยืนเห็นด้วยกับยูฟ่าที่เลือกไม่ใช่กฎทดเวลานาน
“นี่เป็นการตัดสินใจที่ยอดเยี่ยมที่มีนักฟุตบอลเป็นศูนย์กลาง ซึ่งจะสร้างความแตกต่างให้กับนักฟุตบอลทั่วยุโรป” เดวิด เทอร์เรีย ประธานฟิฟโปรของยุโรป และรองประธานของ UNFP กล่าว
“ความร่วมมือที่ประสบผลสำเร็จกับยูฟ่า ตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมกันของเราในการยกระดับสวัสดิการของผู้เล่น"
“แนวทางการทำงานร่วมกันนี้ทำให้เรามั่นใจสำหรับความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างยูฟ่า, นักฟุตบอลอาชีพ และสหภาพแรงงานของพวกเขา”
ส่วนทาง มาเฮต้า มาลังโก้ ซีอีโอของพีเอฟเอ และสมาชิกคณะกรรมการของฟิฟโปร กล่าวว่า “ภาระงานของนักฟุตบอลเป็นปัญหาอันดับหนึ่ง เมื่อผมได้พูดคุยกับสมาชิกในสโมสรที่จะแข่งขันเพื่อสโมสรและทีมชาติ มันไม่ยั่งยืนโดยสิ้นเชิง เห็นได้ชัดว่าพวกเขากำลังต้องตัดสินใจที่ยากลำบากเกี่ยวกับวิธีการปกป้องสุขภาพและการออกกำลังกายของตนเอง"
“ความคิดเห็นจา กซโวนิมีร์ โบบัน (ผอ.ฟุตบอลของยูฟ่า) แสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจ จากประสบการณ์ของเขาเอง เขาเข้าใจมุมมองของนักฟุตบอลและความจริงที่ว่าท้ายที่สุดแล้ว นี่คือปัญหาความเป็นอยู่ของนักฟุตบอล ผมจะพูดมันต่อไป เราไม่สามารถกดดันนักฟุตบอลต่อไปได้จนกว่าพวกเขาจะพัง”