นับตั้งแต่กลุ่มทุนของ ท็อดด์ โบห์ลี เข้ามาเทคโอเวอร์ เชลซี พวกเขาได้เซ็นสัญญากับนักเตะชื่อดังมากมายทั้ง มิไคโล มูดริค, เอ็นโซ เฟร์นันเดซ, มอยเซส ไกเซโก้ และ นิโคลัส แจ็คสัน ด้วยสัญญายาวถึง 8 ปี
ขณะที่ โรมิโอ ลาเวีย, โนนี มาดูเอเก้, โรเบิร์ต ซานเชซ, เบอนัวต์ บาเดียชิลล์ และแข้งรายอื่นๆ มีสัญญาอยู่ที่ประมาณ 7 ปี
นโยบายการเซ็นสัญญาดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่สโมสรเสีย อันโตนิโอ รูดิเกอร์ และ อันเดรส คริสเตนเซน ให้กับ เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา แบบไร้ค่าตัว
The Telegraph สื่อดังของอังกฤษรายงานว่าหลังเข้ามาเทคโอเวอร์สโมสรต่อจาก โรมัน อบราโมวิช เจ้าของทีมคนใหม่ชาวอเมริกันกำชับว่าต้องเซ็นสัญญากับนักเตะในระยะเวลาที่นานขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงการเสียตัวแข้งดังไปแบบฟรีๆอีก
ทีมบริหารของ โบห์ลี มองว่าการเซ็นสัญญาสามหรือสี่ปี ทำให้พวกเขามีเวลาน้อยเกินไปในการเจรจาต่อสัญญากับนักเตะ และทำให้ทีมมีอำนาจในการต่อรองน้อยลง
ทั้งนี้ เชลซี ยังทำผลงานได้ไม่ดีนักในฤดูกาลนี้ โดยเก็บชัยชนะได้เพียงนัดเดียวหลังออกสตาร์ทมา 4 นัดในพรีเมียร์ลีก


