มาโน โพลกิ้ง กุนซือทีมชาติไทย ชื่นชมคุณภาพลูกทีม หลังชนะ ฟิลิปปินส์ 2-1 ผ่านเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 เป็นทีมแรกได้สำเร็จ วันที่ 14 ธันวาคม 2564
กองหน้าวัย 33 ปี เหมาคนเดียวสองประตูในเกมนี้ พร้อมทุบสถิติของ นอห์ อลัม ชาห์ ขึ้นเป็นดาวยิงสูงสุดตลอดกาลคนใหม่แห่งศึก เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ ด้วยผลงาน 19 ประตู และ ยังมีโอกาสยิงเพิ่มได้อีก
"ผมยอมรับว่าเกมนี้ถือเป็นเกมที่ยากพอสมควรสำหรับพวกเรา ในครึ่งแรกเราควบคุมสถานการณ์ได้ทั้งหมด และสิ่งต่างๆเป็นเหมือนกับที่เราคุยกันไว้ก่อนเกม เราสร้างโอกาสทำประตูได้มากมาย และพวกเขา(ฟิลิปปินส์)แทบไม่ได้สร้างความอันตรายให้กับพวกเราเลย ตั้งแต่เริ่มเกม จนมาโดนลูกตั้งเตะ เป็นเพราะพวกเขามีนักเตะที่เล่นลูกกลางอากาศได้ดีหลายคน และนั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นในครึ่งหลัง และเราพยายามโชว์ฟอร์มที่ดีออกมา"
"หลังจากที่สกอร์กลับมาเท่ากันที่ 1-1 เราพยายามเดินหน้าต่อไป และมันแสดงให้เห็นว่าขุมกำลังของเรามีคุณภาพสูงมาก เราสร้างโอกาส จนมาได้จุดโทษ และธีรศิลป์ แดงดา ก็ยิงเข้าไป มันเป็นสามคะแนนที่สำคัญมากๆสำหรับเรา และเราได้ผ่านเข้ารอบรองชนะเลิศได้สำเร็จ ทำให้มีเวลาพัก เตรียมทีมมากขึ้นหลังจากนี้ เรามีความสุข มันไม่ง่าย และดีใจที่เราได้สามคะแนน"
"หลังเกมที่แล้ว ผมเคยพูดถึง ธีรศิลป์ ไปแล้วว่า เขาคือนักเตะที่ดีที่สุดที่ผมเคยเจอในการเป็นโค้ช เขาเป็นกองหน้าที่จบสกอร์ได้อย่างยอดเยี่ยม อย่างที่เห็นในประตูแรก ถือว่าเป็นประตูระดับโลก เลยก็ว่าได้ หวังว่ามุ้ยจะช่วยให้เราประสบความสำเร็จได้ และต้องชื่นชมในตัวมุ้ย หลังผ่านเกมแรกที่ มุ้ย ยิงไม่ได้และโดนเปลี่ยนออก หลายคนตั้งคำถาม แต่ผมยังเชื่อมั่นในตัวเขาเสมอ เพราะเขาคือคนสำคัญ พอถึงเกมสำคัญ ที่ต้องตัดสิน มุ้ยก็แสดงให้เห็น"
"เกมในสายบี เป็นเกมสำคัญ ระหว่าง เวียดนาม กับ อินโดนีเซีย ผมไม่อยากคาดเดาว่าใครจะเป็นแชมป์กลุ่ม แต่จะไปดู ตอนนี้เราต้องมีสมาธิ เอาชนะเกมต่อไปให้ได้ เพื่อเป็นแชมป์กลุ่ม เราต้องวิเคราะห์คู่ต่อสู้ให้ดีที่สุด"
ด้าน ธีรศิลป์ แดงดา กล่าวว่า "สองประตูที่ทำได้ในเกมนี้ ถือเป็นวันที่ดีสำหรับผมวันหนึ่ง และมีความสุขมากๆ และที่มีความสุขมากที่สุดคือเราสามารถเก็บชัยชนะได้ และผ่านเข้ารอบต่อไป ผมมีความสุขทั้งการทำประตูและชัยชนะของทีม"
สถานการณ์ปัจจุบัน ทีมชาติไทย การันตีเข้าสู่รอบรองชนะเลิศ เป็นทีมแรกแน่นอนแล้ว แม้เหลือโปรแกรม รอบแบ่งกลุ่ม นัดสุดท้าย พบกับเจ้าภาพ สิงคโปร์ วันที่ 18 ธันวาคม 2564