ภาพรวม
ทีมชาติอินโดนีเซีย เป็นหนึ่งในตัวเต็งที่จะคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ คัพ มาโดยตลอด แต่พวกเขาไม่เคยไปได้ไกลถึงตำแหน่งแชมป์เลย ทำให้ความสำเร็จสูงสุดของทัพการูด้าในรายการนี้คือเพียงรองชนะเลิศถึง 5 สมัย ในปี 2000, 2002, 2004, 2010 และ 2016
มาในปีนี้ พวกเขาจึงหมายมั่นปั้นมืออย่างยิ่งว่าจะประสบความสำเร็จในเอเอฟเอฟ คัพ 2018 ให้ได้ โดยมี บิมา ซัคติ อดีตกองกลางกัปตันทีมชาติอินโดนีเซีย ซึ่งเคยเป็นผู้ช่วยของหลุยส์ มีญา เฮดโค้ชคนก่อน เป็นผู้นำทัพ
ในเกมทีมชาติสามนัดหลังสุด บิมาก็แสดงให้เห็นแล้วว่า เขายังรักษาผลงานของทีมชาติอินโดนีเซีย เอาไว้ได้ ด้วยการชนะทีมชาติมอริเชียส 1-0 ชนะเมียนมา 3-0 และเสมอกับฮ่องกง 1-1 ก่อนจะเดินทางไปสิงคโปร์ในวันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน เพื่อเตรียมตัวเล่นนัดแรก
รายชื่อนักเตะ
Goalผู้รักษาประตู อันดริตานีย์ อาร์ดิยาซา (เปอร์ซิจา), มูฮัมหมัด ริโด้ (เบอร์เนียว เอฟซี), อาวัน เซโต้ (บายังการา)
กองหลัง ปูตู เกเด (บายังการา), กาวิน ควาน (บาริโต ปูเตรา), ฮานซามู ยามา (บาริโต ปูเตรา), ฟัครุดดิน อาร์ยานโต้ (มาดูรา ยูไนเต็ด), บากาส อาดี (อาเรมา เอฟซี), ริคกี้ ฟาจรินช (บาหลี ยูไนเต็ด), อัลฟาธ ฟาเธียร์ (มาดูรา ยูไนเต็ด), ริซกี้ โปรา (บาริโต ปูเตรา)
กองกลาง ซุลเฟียนดี้ (ศรีวิจายา), มูฮัมหมัด ฮาร์เกียนโต้ (บายังการา), บายู ปราดานา (มิตรา คูการ์), สเตฟาโน ลิลิปาลีย์ (บาหลี ยูไนเต็ด), อีวาน ดิมาส (สลังงอร์), เซปเตียน เดวิด (มิตรา คูการ์), อิรฟาน จายา (เปอร์เซบายา), ซัดดิล รามดานี (เปอร์เซลา), เฟบริ ฮาริยาดี้ (เปอร์ซิบ), ริโก้ ซิมานจุนตัค (เปอร์ซิจา)
กองหน้า เดดิค เซเตียวาน (อาเรมา เอฟซี), อัลแบร์โต้ กอนซัลเวส (ศรีวิจายา)
เฮดโค้ช
ตอนที่สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียประกาศแต่งตั้ง บิมา ซัคติ ขึ้นเป็นเฮดโค้ช มีกระแสความคลางแคลงใจเกิดขึ้นมากมาย แม้ว่าเขาจะได้รับการยอมรับในฐานะนักเตะที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง และเป็นต้นแบบของบรรดาดาวรุ่งมากมาย แต่ในฐานะกุนซือแล้ว เขาเพิ่งได้ เอ ไลเซนส์ ของเอเอฟซี ในปีนี้ และมีประสบการณ์จริงบนสนามจริงเป็นศูนย์
อย่างไรก็ดี เขาคือคนที่ทำงานใกล้ชิดกับ หลุยส์ มิญา เฮดโค้ชคนก่อนมากที่สุดในฐานะผู้ช่วย และมีหลายคนเชื่อว่าอินโดนีเซียจะไปได้สวยจากการมีประสบการณ์ใกล้ชิดกับโค้ชระดับโลก รวมถึงมีทีมโค้ชที่แข็งแกร่งเพื่อสู้ศึกเอเอฟเอฟ คัพ ในครั้งนี้
นอกจากนี้ บิมายังขึ้นชื่อในเรื่องของการเป็นคนเคร่งในระเบียบวินัย และผู้เล่นที่ไม่อาจอยู่ภายใต้กฎของเขาก็อาจต้องเจอปัญหาไม่น้อยสำหรับโอกาสลงสนามในรายการนี้
แท็กติกและแผนการเล่น
Goalปรัชญาการทำทีมของบิมาจะเน้นใช้ปีกที่รวดเร็ว และยึดกับระบบเดิมของหลุยส์ มิญา คือ 4-3-3 ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนไปเล่น 4-2-3-1 ได้ หากสถานการณ์บังคับ
บิมามักเลือกใช้กองหน้าเพียงคนเดียว หรือเล่นด้วยแผน false-nine เพื่อเน้นการครองบอลเป็นหลัก
หากอินโดนีเซียสามารถทำผลงานได้ในระดับเดียวกับที่พวกเขาทำได้ใน เอเชียนเกมส์ 2018 การเป็น 6 ทีมสุดท้ายก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้ และความฝันในการคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรกของพวกเขาก็อาจจะเป็นจริงขึ้นมาในทัวร์นาเมนต์นี้