นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ หัวเรือใหญ่ผู้จัดการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 เขียนบทสรุปของการจัดการแข่งขันที่ผ่านไปได้ด้วยดี ซึ่งช่วงหนึ่งได้กล่าวถึงการถูกกลั่นแกล้งจากผู้ไม่หวังดี จนทำให้เจอปัญหาระหว่างเตรียมงาน
คิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ปิดฉากลงไปเมื่อวันที่ 7 กันยายน ที่ผ่านมา โดยทีมชาติอิรัก เอาชนะ ทีมชาติไทย 1-0 คว้าแชมป์ปีนี้ไปครอง หลังทัวร์นาเมนต์ปิดฉากลง ฝ่ายจัดการแข่งขันของจังหวัดกาญจนบุรี ได้รับเสียงชื่นชมล้นหลามถึงความสามารถที่จัดการแข่งมีคุณภาพสมศักดิ์ศรีรายการ คิงส์คัพ
อย่างไรก็ตามหลังทัวร์นาเมนต์จบลง นพ.ประวัติ กิจธรรมกูลนิจ หัวเรือสำคัญของการจัด คิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ได้ออกมาเผยสิ่งที่หลายคนไม่รู้ เมื่อมีการกลั่นแกล้งเกิดขึ้น จนทำให้ทีมงานเจอปัญหาระหว่างเตรียมงานต่างๆ แ
“การกลั่นแกล้ง เจตนาร้าย กะทำให้ อบจ.ขายหน้า แต่ผมเองต้องเก็บมันไว้ ในช่วงที่มีการรื้อสนามหญ้า และมีการลงหญ้าใหม่ มีกลุ่มคนที่ไม่ได้หวังดีกับ อบจ. ไม่รักบ้านเกิดตัวเอง ตัดสายไฟเครื่องปั้มน้ำที่บริเวณริมแม่น้ำแควที่เอามารดน้ำสนามหญ้า ทำให้หญ้าขาดน้ำ”
“กว่าจะหาสาเหตุเจอและแก้ไขได้ หญ้าตายกว่า 200 ตารางเมตร ที่สำคัญ พวกมันตัดสายไฟไป 4 ครั้งด้วยกัน สองครั้งแรกแก้ไขเสร็จ ก็ติดกล้องเพื่อจับผู้ร้าย มันก็มาตัดอีกจริงแต่กล้องดันจับไม่ได้ และสุดท้ายก็โดนครั้งที่4 ก่อนแข่ง 2 วัน มันตัดเราซ่อม อยู่อย่างนี้ ตัดได้ตัดไป”
“และวันแข่งมีมือดีไปปิดวาล์วน้ำอีก ทำให้น้ำไม่ไหลไปช่วงนึง แต่สุดท้ายเราก็ผ่านมันมาได้ ที่ผมไม่ได้บอกทุกคนก่อนเพราะผมไม่อยากให้เสียบรรยากาศ และพยายามเก็บและแก้ปัญหาเอง ต้องขอบคุณกองช่างที่ผ่าฟันอุปสรรคมาพร้อมๆกัน”
นพ.ประวัติ เผยเพิ่มเติมถึงโอกาสจัดคิงส์คัพ ในครั้งถัดไปว่า “อยากจัดอีก แต่พอก่อน อยากให้จังหวัดอื่นจัดบ้าง จะได้กระจายความตื่นตัว กระจายเศรษฐกิจ ไปทั่วๆ”
“กาญจนบุรีพร้อมเก็บข้อมูลความผิดพลาด ข้อเสีย และวิธีการแก้ไข พร้อมส่งต่อพิมพ์เขียวให้จังหว้ดอื่นๆ ได้จะได้ไม่ต้องไปเริ่มต้นใหม่และลองผิดลองถูก แต่ถ้าไม่มีจังหวัดไหนยื่นเป็นเจ้าภาพ ทางเราก็ยินดีจัดอีกนะ สนุกดี”


