นับตั้งแต่เริ่มมีการจัดแข่งขันศึกฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติอาเซียนครั้งแรกเมื่อปี 1996 มีเพียงแค่ 4 ชาติเท่านั้นที่เคยคว้าแชมป์ได้ ส่วนในศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ครั้งนี้ ก็น่าสนใจว่าจะมีแชมป์หน้าใหม่เกิดขึ้นหรือไม่
GOAL ได้สำรวจความคิดเห็นจากผู้สื่อข่าวในภูมิภาคอาเซียนของเรา ว่าแต่ละคนมีความคิดเห็นอย่างไรกับศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 และคิดว่าทีมไหนจะคว้าแชมป์ไปครองได้สำเร็จ
ธนะ วงษ์มณี - GOAL Thailand
ผมคิดว่าเวียดนามจะคว้าแชมป์ได้อีกครั้ง เพราะพวกเขาดูจะเป็นทีมที่ได้เตรียมความพร้อมก่อนการแข่งขันได้ดีที่สุด จากการที่วีลีกตัดจบการแข่งขัน รวมถึงการได้ลงเล่นในรอบสามของฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย ทำให้พวกเขาเป็นทีมที่ทั้งได้เตรียมพร้อมแบบเต็มที่ รวมถึงได้แข่งขันกับทีมระดับท็อปเอเชียด้วย เมื่อเทียบกับชาติอื่น ๆ พวกเขาดูมีพร้อมมากที่สุด
ส่วนทีมชาติไทยที่ต้องพบกับความล้มเหลวในปี 2018 ผมก็ยังคิดว่าพวกเขาจะยังไม่สามารถกลับมาคว้าแชมป์ได้ในครั้งนี้ แม้จะมีบรรดาดาวรุ่งที่พุ่งขึ้นมาอย่าง ศุภณัฏฐ์ เหมือนตา, เอกนิษฐ์ ปัญญา รวมถึง กฤษดา กาแมน ผสมผสานกับดาวดังจากเจลีกอย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และ ธีราทร บุญมาทัน แต่การมีโค้ชอย่าง มาโน โพลกิ้ง ซึ่งถนัดการเล่นเกมรุก และมีจุดอ่อนในเกมรับ รวมถึงยังไม่เคยคว้าแชมป์มาก่อนด้วย ทำให้ผมเชื่อว่าเรายังไม่ดีพอที่จะก้าวไปถึงแชมป์
ส่วนม้ามืดผมมองว่าอินโดนีเซียมีโอกาสจะเป็นทีมนั้น แม้ว่าจะพวกเขาจะไม่สามารถเรียกตัวนักเตะมาได้แบบเต็มสูบ จากการแข่งขันฟุตบอลลีกของประเทศก็ยังคงแข่งขันอยู่ แต่ผมคิดว่าอย่างน้อยพวกเขาก็อาจจะสอดแทรกไปถึงรอบรองชนะเลิศ
Erick Bui - GOAL Vietnam
แม้ว่าจะแพ้รวดในฟุตบอลโลก 2022 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบสาม แต่ผมเชื่อว่าจะกลับมาอยู่ในฟอร์มที่ดีที่สุดได้อีกครั้งในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ทีมเวิร์คและความแข็งแกร่งของพวกเขายังเป็นจุดแข็งที่เหนือกว่าทุกทีมในอาเซียนตอนนี้ และความมั่นใจในระดับสูงเมื่อเล่นกับทีมอื่นในอาเซียนนั้นเป็นปัจจัยสำคัญที่พวกเขามีอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม มีความกังวลเกี่ยวกับความฟิต เนื่องจากการที่วีลีกถูกระงับก่อนกำหนดในปีนี้ และยังขาดผู้เล่นหลักบางคนเนื่องจากอาการบาดเจ็บ กระนั้นสถิติไร้พ่ายของ ปาร์ค ฮัง-ซอ กับทีมในอาเซียน ก็อาจจะขยายออกไปได้อีกมาก หากผู้เล่นสามารถรักษาสมาธิของตัวเองไว้และไม่ประมาทคู่ต่อสู้ของพวกเขา
ส่วนกัมพูชามีศักยภาพที่ดีพอจะสร้างเซอร์ไพรส์ในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 พัฒนาการของฟุตบอลกัมพูชานั้นแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าค่อย ๆ ผลิตนักเตะดาวรุ่งที่มีคุณภาพอย่าง Sieng Chanthea, Leng Nora, Om Chanpolin และรายอื่น ๆ อีกมากมาย จุดเด่นของพวกเขาคือการเป็นทีมสายเลือดใหม่ ซึ่งนักเตะของทีมมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 24-25 ปีเท่านั้น
Tegar Paramartha - GOAL Indonesia
ผมคิดว่าเวียดนามจะป้องกันตำแหน่งแชมป์ไว้ได้ เพราะมาตรฐานของพวกเขาในตอนนี้เหนือกว่าทุกทีมในอาเซียน แม้ว่าพวกเขาจะแพ้รวดทุกเกมในฟุตบอลโลก 2022 รอบบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบสามก็ตาม แต่เป็นการแพ้ที่สูสี และสู้กับบรรดายักษ์ใหญ่ของเอเชียได้ดีทีเดียว
ส่วนอินโดนีเซียมักจะมีปัญหาการเตรียมทีมก่อนเริ่มการแข่งขันเสมอ และในครั้งนี้ก็เหมือนกับเมื่อปี 2016 ที่จะสามารถเรียกตัวนักเตะได้สูงสุดแค่ 2 คนต่อสโมสรเท่านั้น เนื่องจากฟุตบอลโลกของอินโดนีเซียก็ยังคงแข่งขันอยู่ด้วย
ผมจึงคิดว่าอินโดนีเซียจะต้องทำงานหนักมาก หากหวังจะฝ่าด่านเวียดนามและมาเลเซีย เพื่อเข้ารอบรองชนะเลิศ และหากพวกเขาผ่านรอบแบ่งกลุ่มไปได้ ผมคิดว่าอย่างดีที่สุดคือการจบด้วยรองแชมป์ แต่ลึก ๆ ผมก็หวังว่าตัวเองจะคิดผิด และอยากให้อินโดนีเซียคว้าแชมป์ได้เป็นครั้งแรก
และแน่นอนว่าผมต้องยกให้อินโดนีเซียเป็นม้ามืดในครั้งนี้ แม้จะมีข้อจำกัดในการเรียกตัวนักเตะ แต่จุดเด่นคือการเต็มไปด้วยนักเตะดาวรุ่งสายเลือดใหม่ และการมีโค้ชฝีมือดีอย่าง ชิน แท-ยง พวกเขาอาจจะสามารถสร้างปาฏิหาริย์ให้เกิดขึ้นได้!
Ooi Kin Fai - GOAL Malaysia
เวียดนามยังคงเป็นเต็งหนึ่งที่จะคว้าแชมป์เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ปาร์ค ฮัง-ซอ ยังสามารถรักษานักเตะกลุ่มเดิมที่เคยพาทีมคว้าแชมป์เมื่อปี 2018 ไว้ได้เกือบทั้งหมด และดูเหมือนว่าในครั้งนี้จะน่าเกรงขามยิ่งกว่าเดิมด้วย จากการที่นักเตะแต่ละคนก็สั่งสมประสบการณ์กันเพิ่มมากขึ้น
ส่วนมาเลเซียผมก็คาดหวังว่าพวกเขาจะเป็นหนึ่งในผู้ท้าชิงที่จะได้สู้กับเวียดนามในรอบชิงชนะเลิศ แม้จะมีความกังวลในเกมรับที่หัวใจหลักอย่าง ไอดิล ซอฟวาน อยู่ในวัยถึง 34 ปีแล้ว ขณะที่แนวรุกตัวเก่งอย่าง ซาฟาวี ราซิด ตอนนี้ก็ไม่ได้อยู่ในฟอร์มที่ดีนัก
ส่วนทีมที่มีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ ผมมองว่าน่าจะเป็นสิงคโปร์ ที่มีข้อได้เปรียบสำคัญคือการได้เป็นเจ้าภาพ และอาจจะเป็นทีมเดียวที่ได้มีแฟนบอลเข้าชมเกมในสนามด้วย สิ่งเหล่านี้อาจเป็นแรงจูงใจชั้นดีที่ช่วยให้พวกเขาก้าวไปประสบความสำเร็จ
Jay Parmar - GOAL Singapore
ทีมเต็งแชมป์แน่นอนว่าจะต้องเป็นเวียดนาม แชมป์เก่าจากครั้งก่อน และยังเป็นอดีตแชมป์ 2 สมัย รวมถึงเป็นทีมเดียวในอาเซียนที่อยู่ใน 100 อันดับแรกของฟีฟ่าแรงกิ้งด้วย ผมเชื่อว่าเวียดนามจะสามารถคว้าแชมป์ได้ 2 สมัยติดต่อกัน ได้แบบเดียวกับที่ทีมชาติไทยเคยทำได้เมื่อปี 2014 และ 2016
ส่วนม้ามืดผมมองว่าน่าจะเป็นมาเลเซีย ที่เคยสร้างเซอร์ไพรส์โค่นทีมชาติไทยในรอบรองชนะเลิศเมื่อครั้งก่อน แม้ว่าจะแพ้เวียดนามในรอบชิงชนะเลิศก็ตาม ซึ่งในครั้งนี้พวกเขาก็ยังน่าจับตามอง และหวังจะมีโอกาสล้างแค้นเวียดนามให้ได้
ขณะที่สิงคโปร์นับตั้งแต่คว้าแชมป์ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2012 หลังจากนั้นก็เคยผ่านรอบแบ่งกลุ่มได้อีกเลย ส่วนในครั้งนี้ พวกเขาก็ไม่ได้มีคุณภาพทีมที่ดีนัก แต่หากหวังจะเป็นม้ามืด ก็จะต้องเอาชนะทีมอย่างฟิลิปปินส์, เมียนมา และติมอร์ เลสเต ให้ได้ทั้งหมด
