นวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี เชื่อมั่นไทยสู้ทุกทีมได้หากตั้งใจจริง พร้อมยืนยันจะดึง จู๊ด ซุ่นทรัพย์-เบลล์ ดาวยิงลูกครึ่งอังกฤษ-ไทย จากเชลซี มาร่วมทีมวนการลุยศึก ชิงแชมป์เอเชียU-23 รอบสุดท้าย ที่อุซเบกิสถาน
ช้างศึกU23 ได้ลูกครึ่งหน้าใหม่อย่าง โจนาธาน เข็มดี และ โอเว่น ชาร์ลี ผนึกกำลังกับ เบนจามิน เดวิส และ ธนวัฒน์ ซึ้งจิตถาวร ในทัวร์นาเมนต์นี้ แต่ผลงานไม่ดีนักเมื่อทำได้แค่เสมอกับ มาเลเซีย 0-0 ในเกมสุดท้าย ทำให้ต้องรอลุ้นผลคู่ระหว่างสปป.ลาวกับมองโกเลียในการคว้าตำแหน่งอันดับ 2 ที่ดีที่สุดจาก 10 กลุ่ม ซึ่งปรากฏว่าลาวพลิกเอาชนะเจ้าภาพได้สำเร็จ
“คิดว่าทุกคนน่าจะเห็นปัญหากันแล้ว เรื่องของตารางการแข่งขันต่างๆ ที่ทับซ้อนกัน อย่างที่บอกไว้ตอนเข้ามารับตำแหน่งคือการเล่นต้องเล่นให้ชนะ ดังนั้นกลับไปคงต้องคุยกัน ทำอย่างไรให้ทีมมีเวลาเก็บตัวมากกว่านี้ และได้ผู้เล่นที่เป็นตัวหลักๆ ในไทยลีกด้วย ซึ่งเข้าใจสโมสรแต่ก็เข้าใจทีมชาติเช่นกัน จะพยายามทำให้เกิดสถานการณ์วิน-วินทุกฝ่าย อย่างที่เห็นว่าลาวกับมาเลเซียมีเวลาเก็บตัวมากกว่า แต่ก็จะไม่โทษใคร เราต้องลุยต่อไปข้างหน้า”
“เราได้เห็นบรรยากาศ อุปสรรค อะไรที่จะต้องก้าวต่อไป ทำให้เกิดสถานการณ์วิน-วินทุกฝ่าย ยังคงเชื่อว่าถ้าจะพัฒนาทีมชาติ เราสามารถสู้กับชาติอื่นๆ ในอาเซียนได้ถ้าเราตั้งใจจริง เพราะเราเคยเป็นที่หนึ่ง แต่จะไม่ประมาทใคร เพราะทุกทีมอยากเป็นหนึ่งเช่นกัน"
“ส่วนผลงานไม่คิดว่าไม่ดี เพราะจากนักกีฬาที่มาประกอบร่างกันแค่ 10 วัน โชคดีที่ได้ตัวจากต่างประเทศ และได้เจอเพชรเม็ดงามอย่างโจนาธาน เข็มดี หรือตัวจากไทยลีก 2-3 เช่น จักรกริช พาละพล หรือ นาคิน วิเศษชาติ และข้อดีของทีมชุดนี้คือมีความสามัคคี เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในรอบสุดท้ายจะพยายามดึงจู๊ด เบลล์ มาร่วมทีมให้ได้”
“ส่วน โจนาธาน แป้งมองว่าทีมชาติไทยมีปัญหากองหลังมาตลอด เพราะส่วนใหญ่ในไทยลีกใช้ตัวต่างชาติกัน ซึ่งโจนาธานเป็นกองหลังสมัยใหม่ สร้างเกมจากแนวหลังได้ เป็นเพชรเม็ดงามที่เกิดในทัวร์นาเมนต์นี้ ปรับตัวเข้ากับคนไทยได้ดีด้วย และมีความเป็นมืออาชีพ ที่สำคัญที่สุดคือต้องขอบคุณทุกๆ ทีมที่ปล่อยตัวนักเตะมาในครั้งนี้”
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี รอบสุดท้ายจะจัดขึ้นที่ประเทศอุซเบกิสถาน ระหว่างวันที่ 1-19 มิถุนายน พ.ศ.2565 สถานการณ์ทีมที่ผ่านเข้ารอบแน่นอนแล้ว ประกอบไปด้วย อุซเบกิสถาน (เจ้าภาพ), กาตาร์ แชมป์กลุ่มเอ, อิหร่าน แชมป์กลุ่มบี, อิรัก แชมป์กลุ่มซี, คูเวต แชมป์กลุ่มดี, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แชมป์กลุ่ม อี, ออสเตรเลีย แชมป์กลุ่ม จี, เกาหลีใต้ แชมป์กลุ่มเอช, มาเลเซีย แชมป์กลุ่มเจ, ญี่ปุ่น แชมป์กลุ่ม เค และ ทีมชาติไทย กับ เติร์กเมนิสถาน ในฐานะ 2 จาก 4 ทีมที่จบอันดับ 2 ที่ดีที่สุด
