เรอัล มาดริด ตัดสินใจที่จะดำเนินคดีทางกฎหมายกับ ฆาเบียร์ เตบาส ประธานของลาลีกา และกลุ่มทุน CVC Capital Partners จากกรณีที่ทางลาลีกาไปขายหุ้น 10% ให้กับกลุ่มทุนดังกล่าว
ลาลีกา ได้ขายหุ้นจำนวน 10% ให้กับ CVC Capital Partners ซึ่งเป็นบริษัทด้านเงินทุนของเอกชนด้วยมูลค่าที่สูงถึง 2,700 ล้านยูโร ซึ่งเงินจำนวนดังกล่าวจะถูกแบ่งไป 90% ไปให้แต่ละสโมสรได้นำไปใช้เพื่อลดภาระและปัญหาทางการเงินต่างๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงโควิด-19
ทว่าสองยักษ์ใหญ่ของลาลีกาอย่าง เรอัล มาดริด และ บาร์เซโลนา กลับไม่เห็นด้วยกับการซื้อขายหุ้นของลาลีกาในครั้งนี้ แม้ว่าทั้งสองทีมจะได้รับเงินส่วนแบ่งทีมละประมาณ 270 ล้านยูโรเท่ากันก็ตาม
ด้วยเหตุนี้ เรอัล มาดริด จึงเลือกทำการฟ้องร้องลาลีกาและกลุ่มทุน CVC Capital Partners เนื่องจากมองว่าการซื้อขายหุ้นครั้งนี้ไม่เป็นธรรมกับพวกเขา เพราะจะทำให้ต้องสูญเสียรายได้จากลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดจำนวน 10.95% ไปตลอดระยะเวลา 50 ปีเลยทีเดียว
"คณะกรรมการบริหารของ เรอัล มาดริด จากที่ประชุมในวันนี้ เวลา 11.00 น. ได้ตกลงอย่างเป็นเอกฉันท์ที่จะดำเนินการทางกฎหมายทั้งทางแพ่งและทางอาญาต่อ ฆาเบียร์ เตบาส ประธานลาลีกา และ ฆาเบียร์ เด ไฆเม กีฆาร์โร ผู้รับผิดชอบกองทุน CVC และกองทุน CVC Capital Partners SICAV-FIS"
"ขณะเดียวกัน คณะกรรมการยังได้ตัดสินใจที่จะดำเนินการทางกฎหมายทุกประเภทที่เห็นว่าเหมาะสม ที่จะเพิกถอนและยกเลิกข้อตกลงที่เป็นไปได้ที่ถูกนำมาใช้โดยลาลีกา ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2564 เกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างลาลีกาและ กองทุน CVC" แถลงการณ์จากเรอัล มาดริด


