เดวิด เอลเลเรย์ ผู้อำนวยการฝ่ายเทคนิคของ IFAB กล่าวแสดงความยินดีกับสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย หลังนำ VAR (Video Assistant Referee) เข้ามาช่วยตัดสินฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง การท่าเรือ เอฟซี พบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี วันที่ 2 พฤศจิกายน นี้ โดยมองว่าสามารถยกระดับเทียบเท่าญี่ปุ่นที่นำ VAR มาใช้งานเช่นเดียวกัน
ทางสมาคมฟุตบอลไทยฯ ได้ทดลองใช้ VAR เต็มรูปแบบในการแข่งขันฟุตบอล GSB Bangkok Cup 2019 เมื่อต้นเดือนตุลาคม ที่ผ่านมา เพื่อทดสอบระบบ ก่อนเตรียมใช้งานจริงในศึกฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ อย่างเป็นทางการ
“ในฐานะตัวแทนของ IFAB เป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับการเชิญมาในรอบชิงชนะเลิศรายการนี้ ทาง IFAB มีความยินดี และผมอยากแสดงความยินดีกับนายกสมาคมฯ และไทยลีก ที่จะมี VAR มาใช้งานอย่างเป็นทางการเป็นเกมแรก”

“การใช้งาน VAR เป็นเกมแรก เป็นการแสดงให้เห็นว่าไทยนั้นนำหน้าชาติเพื่อนบ้านที่ยังไม่ได้ใช้ VAR และไทยอยู่ในระดับเทียบเท่ากับญี่ปุ่น ที่มีการนำ VAR มาใช้ในเจลีกแล้ว”
“อย่างที่ทราบ เทคโนโลยี VAR ไม่ได้ทำมาให้ใช้ให้การตัดสินถูกต้องทุกครั้ง แต่จะใช้ลดให้มีข้อผิดพลาดที่มีผลต่อการแข่งขันให้น้อยที่สุด เราจะใช้ในเหตุการณ์ที่มันสำคัญต่อเกมจริงๆ"
"สิ่งสำคัญคือ VAR จะทำให้เกมมีความยุติธรรมมากที่สุด และจะไม่ลดความสนุกสนานของการแข่งขันฟุตบอลไป สุดท้ายผู้ตัดสินในสนามจะเป็นผู้ตัดสินใจครั้งสุดท้ายในการแข่งขันแต่ละเกม และ VAR จะเป็นเพียงสิ่งที่ช่วยเหลือการตัดสินใจของผู้ตัดสินเท่านั้น”
“การได้รับอนุญาตเป็นขั้นตอนที่ยาวนาน ซึ่งสมาคมฯ ก็ทราบ เราเริ่มการอบรมตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา ทาง IFAB ก็ทราบว่า สมาคมฯ จะพร้อมใช้ VAR ในไทยลีกทุกเกมของฤดูกาลหน้า”
“หากผู้เล่นเล่นไม่ดีในวันเสาร์ พวกเขาก็จะไม่โดนแบนทันที การทำงานของ VAR ในวันเสาร์ก็เช่นกัน หากมีข้อผิดพลาด เราก็อยากให้เข้าใจว่านี่เป็นการใช้งานครั้งแรก แต่เราก็จะพยายามทำเต็มที่ที่สุด เพื่อไม่ให้มีข้อผิดพลาดนั้น”
สำหรับการแข่งขันฟุตบอลช้าง เอฟเอ คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ ระหว่าง การท่าเรือ เอฟซี พบ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี จะแข่งขันวันที่ 2 พฤศจิกายน นี้ เวลา 19.00 น. บีจี สเตเดียม





