อะไรทำให้คุณตัดสินใจเล่นฟุตบอล
พ่อของผมชอบฟุตบอล ตั้งแต่ตอนที่ผมยังเล็กๆ ผมดูฟุตบอลกับเขาทางทีวีเยอะมากๆ และคิดว่ามันน่าสนใจมากๆ หลังจากที่เริ่มไปโรงเรียน ผมก็เตะฟุตบอลกับเพื่อนๆ หลังเลิกเรียน มันสนุกมากๆ พ่อกับแม่บอกผมว่า ถ้าผมชอบฟุตบอลมากขนาดนั้น ทำไมไม่ไปเล่นอคาเดมีเลยละ ผมก็เลยบอกไปว่าผมอยากจะไป
คุณดูฟุตบอลลีกไหนทางทีวี ตอนที่ยังเด็กๆ
มีแค่พรีเมียร์ลีกที่มีถ่ายทอดสด มีแต่พรีเมียร์ลีกให้ดูในตอนนั้น อาร์เซนอลเป็นทีมโปรดของผม ผมชอบสไตล์ของพวกเขา และคอยเชียร์พวกเขา
ในช่วงระหว่างนี้ คุณไปอยู่กับบีจีเมื่อปี 2017 แล้วก็มีเล่นให้ทีมเซเรโซ โอซาก้า U-23 ในปี 2018 จากการเป็นพันธมิตรกับเซเรโซ โอซาก้า ความรู้สึกของคุณในตอนนั้นเป็นอย่างไรตอนที่ย้ายไปอยู่กับเซเรโซ
ผมไม่ค่อยได้เล่นบ่อยนักในตอนนั้น ผมก็เลยประหลาดใจมากๆ ตอนที่ถูกเรียกไป แต่ในขณะเดียวกัน ผมก็มีความสุขมากๆ
คุณรู้อะไรเกี่ยวกับเซเรโซ โอซาก้าบ้างในตอนนั้น หรือคุณเพิ่งรู้จักเซเรโซ โอซาก้า ตอนที่รู้เรื่องย้ายทีม
ผมรู้จักมาก่อนแล้ว ผมเคยอยู่ในอคาเดมีของบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และผมก็เคยได้ดูเกม ACL ที่เจอเซเรโซในตอนนั้น ผมก็เลยรู้เรื่องของเซเรโซมาก่อน
ผมมีความสุขมากๆ ในแง่ของฟุตบอลในประเทศไทยตอนนั้น ผมคิดว่าทีมเซเรโซ U-23 น่าจะมีระดับสูงกว่า ผมอยากจะเรียนรู้ฟุตบอลญี่ปุ่น และผมก็มีความทะเยอทะยานที่จะทำให้ดีขึ้น ผมก็เลยดีใจมากๆ ตอนได้ยินเรื่องย้ายทีม
การต้องไปอยู่ต่างแดน และพูดคนละภาษา คุณกังวลบ้างไหม
ผมไม่กังวลเลย ความรู้สึกว่าอยากไปมันแรงกว่ามาก ผมยังจำวันแรกที่ผมได้ฝึกซ้อมกับทีม U-23 ได้ดี มันแตกต่างจากที่ผมจินตนาการเอาไว้มาก ผมเคยคิดว่าผมน่าจะพอทำได้ในระดับหนึ่ง แต่ผมกลับตามพวกเขาไม่ทันเลย ในแง่นั้น มันแตกต่างจากที่ผมคิดเอาไว้มาก
โค้ชยูจิ โอคุมะ (โค้ชของทีมในเวลานั้น) เป็นคนที่เข้มงวดมาก แล้วไม่มีใครในทีมที่พูดภาษาอังกฤษได้เลย มันเลยยากมากๆ มันเป็นสภาพแวดล้อมที่ต่างจากที่ผมคิดเอาไว้มาก
ในตอนนั้น ผมจำได้ว่ามี โทชิกิ โอโนซาวา ที่พยายามคุยภาษาอังกฤษด้วย
ใช่ ผมอาจจะพูดอังกฤษได้ไม่ค่อยดีนัก แต่ผมก็ดีใจมากๆ ที่เขาพยายามเต็มที่ที่จะพูดกับผม ผมซาบซึ้งในเรื่องนั้น จากตรงนั้น ผมก็เริ่มรู้สึกว่าผมค่อยๆ สื่อสารกับเพื่อนร่วมทีมคนอื่นๆ ได้ทีละน้อย
ตอนที่คุณออกมาจากเซเรโซในตอนนั้น คุณรู้สึกเติบโตขึ้นบ้างไหม เมื่อเทียบกับตอนที่คุณจากมา
มันเยี่ยมมาๆ ผมดีใจที่ผมได้มาโอซาก้า ผมคิดว่าผมพัฒนาขึ้นมาก ผมรู้สึกว่าผมพัฒนาขึ้นในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะเรื่องของสภาพจิตใจในสนามที่แข็งแกร่งขึ้น
หลังจากกลับมาไทย คุณได้แชมป์ลีกกับบีจี ปทุม ยูไนเต็ด และยังมีบทบาทสำคัญใน ACL ช่วงที่คุณกลับไปประเทศไทยเป็นยังไงบ้าง?
ผมมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม ผมได้ลงเล่นทุกนัด ผมได้เป็นผู้เล่นตัวจริง และเคยได้เป็นแชมป์ลีกมาครั้งหนึ่ง ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ดีมากสำหรับผม
คุณถูกเลือกให้ติดทีมชาติไทย และยิงประตูได้เยอะมาก มันคงจะเป็นหนึ่งในความฝันของคุณที่ได้เล่นให้ทีมชาติ
ผมเห็นด้วยนะ ถ้าคุณเป็นนักฟุตบอล ผมคิดว่าทุกคนก็ต้องฝันถึงสิ่งนั้น แน่นอน มันคือความฝันของผมที่ได้ถูกเลือกให้เล่นทีมชาติ แม้ว่ามันจะเป็นแค่เกมอุ่นเครื่อง ผมก็ยิงประตูได้ตั้งแต่นัดแรก และผมมีความสุขมากๆ
คุณเติบโตขึ้นเยอะมาก คราวนี้คุณได้กลับมาเล่นให้ทีมชุดใหญ่ มันแตกต่างจากคราวที่แล้วบ้างไหม
มันเหมือนฝันที่เป็นจริงที่ได้คืนสู่ทีมชุดใหญ่ของเซเรโซ ผมมีความสุขมากๆ ตอนที่ได้รู้ว่าผมจะได้กลับมาเล่นที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง ผมคิดว่าผมได้ทำตามความฝันของผมเร็วมากๆ ผมว่ามันคงจะเป็นเรื่องดีถ้าได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์กับทีมชาติและในประเทศไทยอีกสัก 2-3 ปี แล้วก็ได้กลับมาเล่นที่ญี่ปุ่นอีกครั้ง
ถ้ามองในแง่นั้น ผมดีใจมากๆ ที่ผมได้รับโอกาสตรงนั้นแล้ว ผมอยากจะเล่นให้ดีขึ้นเรื่อยๆ และผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด
อะไรคือแรงจูงใจของเชาว์วัตน์ในการเล่นฟุตบอล
ผมคิดว่ามันก็ง่ายๆ นะ เพราะผมรักฟุตบอล ทำให้ผมอยากจะเล่นฟุตบอลต่อไป ถ้ามันเป็นสิ่งที่คุณรัก คุณก็จะทำมันไปได้เรื่อยๆ ถ้าไม่มีความรู้สึกตรงนั้น ผมคิดว่าคุณคงไม่มีทางที่จะพัฒนาขึ้นได้ ถ้าคุณถามผมว่าแรงจูงใจคืออะไร ผมคงตอบว่าเป็นเพราะผมรักฟุตบอล มันทำให้ผมทุ่มเทได้อย่างเต็มที่
คุณเคยคิดไหมว่าเป้าหมายในการเป็นนักฟุตบอลของคุณคืออะไร คุณมองตัวเองเป็นนักเตะแบบไหนในอนาคต
เป้าหมายสูงสุดของผมก็คือยกระดับการเล่นไปเรื่อยๆ ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และเล่นอยู่ในระดับสูงให้ได้นานที่สุด ถึงอย่างไร ผมก็ยังเป็นมนุษย์ มันต้องมีเวลาที่ผมอยู่ในสภาพที่ไม่ค่อยดีนัก และมันก็คงจะมีขึ้นๆ ลงๆ บ้าง แต่ผมหวังว่าผมจะเล่นฟุตบอลในระดับสูงไปได้เรื่อยๆ จนถึงวันแขวนสตั๊ด
ผมคิดว่าแฟนบอลชาวไทยน่าจะรอดูเชาว์วัตน์เล่นในเจลีกอยู่ คุณอยากจะแสดงผลงานให้พวกเขาเห็นบ้างไหม
ผมอยากจะทำให้ดีที่สุดเพื่อแฟนบอลชาวไทยที่สนับสนุนผม ต้องขอบคุณนักเตะที่ประสบความสำเร็จในญี่ปุ่นทั้ง ชนาธิป, ธีราทร และธีรศิลป์ ตอนนี้มันคือความฝันของเด็กๆ ชาวไทยที่อยากจะมาเล่นในญี่ปุ่น ผมอยากจะทำผลงานแบบนั้น เพื่อให้พวกเด็กๆ ได้มีความฝันที่จะได้มาเล่นที่นี่โดยไม่ต้องอับอาย