เกิดอะไรขึ้นกับ รอนนี โอไบรอัน? แข้งที่มิดเดิลสโบรห์เมิน แต่กลับไปอยู่ยูเวนตุส และมีลุ้นบุคคลแห่งศตวรรษ

สำหรับผู้อ่านรุ่นเยาว์ โดยเฉพาะที่เกิดหลังปี 2000 ชื่อของ รอนนี โอไบรอัน อาจจะไม่มีความหมายสักเท่าไหร่ แต่เขาคือคนที่มีโอกาสได้เล่นให้ ยูเวนตุส หลังจากถูก มิดเดิลสโบรห์ ปล่อยตัว และเกือบได้รางวัลบุคคลแห่งศตวรรษของนิตยสาร Time ยิ่งไปกว่านั้น ครั้งหนึ่งเขาเกือบได้เป็นนายแบบขึ้นปกของ Time จนทำให้เขากลายเป็น meme ของวงการฟุตบอลในกระแสที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้บนทวิตเตอร์ในปี 2022

โพลออนไลน์อันทรงเกียรติของสหรัฐอเมริกา ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นว่าใครจะคว้ารางวัลบุคคลแห่งศตวรรษของพวกเขา ผู้ทรงคุณวุฒิจากวัฒนธรรมและการเมือง มีมาตั้งแต่ มาร์ติน ลูเธอร์ คิง และ วินสตัน เชอร์ชิลล์ ไปจนถึง เอลวิส เพรสลีย์ และ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่อยู่ในรายชื่อเหล่านั้น

อย่างไรก็ตาม Time ได้อนุญาติให้ผู้อ่านได้ส่งคำตอบเป็นตัวเลือกของตัวเองได้ และหนึ่งในเหตุการณ์ที่มีคนพูดถึงกันมากที่สุด คือเสียงโหวตจากสาธารณชนที่เลือก โอไบรอัน มีคะแนนนำหน้าขึ้นมา

ทว่า Time ไม่เห็นเช่นนั้น พวกเขาลบ โอไบรอัน ออกจากตัวเลือกและเปลี่ยนแปลงกฎเสียใหม่ “ผู้สมัครที่ไม่ชอบมาพากลซึ่งไม่ได้จัดประเภทในหัวข้อจะไม่ถูกนำมานับคะแนน” การเปลี่ยนแปลงกฎหนดังกล่าว ทำให้ ไอน์สไตน์ ชนะผลโหวตไปแทน

สำหรับ โอไบรอัน มันเป็นเพียงหนึ่งในเหตุการณ์สุดแปลกประหลาดที่เกิดขึ้นในอาชีพของเขาแบบที่ไม่มีนักฟุตบอลคนไหนเคยประสบพบเจอแบบเขามาก่อน

เขาเกิดที่เมือง เบรย์, สาธารณรัฐไอร์แลนด์ โอไบรอัน สร้างความประทับใจในการเล่นระดับเยาวชนในบ้านเกิดของเขาในฐานะกองกลางตัวรุก และเขาเซ็นสัญญากับทีม มิดเดิลสโบรห์ ด้วยวัยเพียง 18 ปีในปี 1997

โอไบรอัน ประสบความสำเร็จบนเวทีทีมชาติระดับเยาวชน - ไอร์แลนด์ คว้าแชมป์ยูฟ่า ยูโร U18 ในปี 1998 ทีมที่ในตอนนั้นมี จอห์น โอเชีย เป็นกัปตันทีมเอาชนะ อิตาลี 2-1 ในเกมนัดชิงฯ - ทว่านั้นไม่ได้ทำให้เขาสอดแทรกขึ้นมาในทีมชุดใหญ่กับสโมสรได้

อันที่จริงเป็น ไบรอัน ร็อบสัน ผู้จัดการทีมโบโร ที่ไม่เคยให้โอกาสเขาลงสนามในทีมชุดใหญ่

Goal/Getty

โอไบรอัน ถูกปล่อยตัวออกจากทีมในซัมเมอร์ปี 1999 และกำลังมองหาทีมที่มีชื่อชั้นรองลงมาเพื่อโอกาสในการลงสนามทีมชุดใหญ่

อย่างไรก็ตาม สตีฟ คุตเนอร์ เอเย่นต์ส่วนตัวของเขา ที่ทำงานให้กับ พอล เมอร์สัน เพื่อนร่วมทีมของเขาที่โบโรด้วยเช่นกัน ได้ส่งวิดิโอไฮไลท์กาารเล่นของเขาให้กับบรรดาสโมสรยักษ์ใหญ่ของยุโรป รวมถึง ยูเวนตุส

ไม่น่าเชื่อว่า ทัพม้าลาย เคลิ้มตาม และทำให้ โอไบรอัน ได้เซ็นสัญญาระยะยาว 5 ปีกับทีมของ คาร์โล อันเชล็อตติ

เขากลายเป็นชาวไอริชคนที่สามที่ได้เซ็นสัญญากับ ยูเว ตามรอย แมตต์ส คุนดิ้ง มิดฟิลด์ในยุค 1910 และต่อมา เลียม เบรดี้ อดีตดาวเตะอาร์เซนอล

ข่าวการย้ายมาร่วมทีมของเขาทำให้เกิดแรงสะเทือนกลับมาถึง โบโร ซึ่ง ร็อบสัน ที่ดูจะไม่ประทับใจและบอกว่า โอไบรอัน เป็นคนหนีไปเอง

“รอนนี โอไบรอัน ไม่ดีพอ” นายใหญ่ โบโร เผย “หลายคนโห่ร้องดีใจกันยกใหญ่เพราะเขาได้ย้ายไป ยูเวนตุส แต่เขายังแทบไม่ได้ทำอะไรเลย ขอให้เขาโชคดีก็แล้วกัน  ผมหวังว่าเขาจะทำผลงานได้ดี และพิสูจน์ว่าผมคิดผิด”

ในซัมเมอร์ปี 1999 เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงของยูเว นักเตะของพวกเขาที่เต็มไปด้วยเหล่ายอดแข้งตลอดกาลอย่าง ซีเนดีน ซีดาน, เอ็ดการ์ ดาวิดส์ และ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร ทว่าขาใหญ่ในทีมอย่าง ดิดิเยร์ เดสชองส์ และ อันเจโล เปรุสซี ที่อำลาทีมไป

ในรายการ อินเตอร์โตโต้ คัพ ที่ต้องเล่นในเดือนกรกฎาคมและสิงหาคม ทำให้ อันเชล็อตติ ที่ต้องเตรียมปรับจูนทีมที่ดีที่สุดของเขา

หลังลงสนาม 3 เกมในเกมอุ่นเครื่อง, โอไบรอัน มีชื่อบนม้านั่งสำรองในเกมที่พบกับ เชห์ลาอุล ปิเอตร้า นีมต์ ทีมจากโรมาเนีย ก่อนได้โอกาสครั้งสำคัญในเกมพบ เอฟซี รอสต์เซลมาช ทีมจากรัสเซีย (รอสตอฟ ในปัจจุบัน) ในเกมเลกที่สองของรอบรองชนะเลิศ

โอไบรอัน ถูกส่งลงสนามมาใน 13 นาทีสุดท้าย ตอนที่ทีมมีสกอร์รวมนำอยู่ 9-1 แต่เขาได้ซีนใหญ่จากเกมนั้น เมื่อเรียกฟรีคิกได้ทางกราบขวาเขตโทษคู่แข่ง และเข้าบล็อคจังหวะสำคัญในการหยุดเกมรุกทีมจากรัสเซีย

เขาเกือบจะมีชื่อเป็นผู้ทำประตูอยู่แล้ว น่าเสียดายที่โอกาสยิงสองครั้งของเขาหลุดเสาออกไป โดยโอกาสที่ดีที่สุดคือตอนที่ ฟิลิปโป้ อินซากี้ ไขว้บอลผ่านแนวรับหลุดมา

มันเป็นโอกาสที่ดีของ โอไบรอัน ที่อยู่ในตำแหน่งที่ดีกว่า ทว่าเป็น เดล ปิเอโร ที่เลือกยิงเองในจังหวะนี้ แต่ทว่าด้วยตำแหน่งที่ไม่ดีทำให้บอลหลุดกรอบออกไป

นี่เป็นเพียงครั้งเดียวที่เราเห็นเขาในสีเสื้อม้าลาย ก่อนที่จะโดนปล่อยยืมตัวในเดือน กันยายน 1999 และต่อเนื่องไปอีก 3 ปี ทั้งกับ ลูกาโน ทีมในลีกสวิส, โครโตเน และ เลคโก ทีมลีกรองของอิตาลี รวมถึงกลับมาในเกาะสหราชอาณาจักรกับ ดันดี ยูไนเต็ด

แม้ว่าจะโด่งดังทางอินเตอร์เน็ต แต่ โอไบรอัน ไม่สามารถสร้างความประทับใจกับสโมสรถาวรทีมไหนได้เลย และในซัมเมอร์ 2022 หลังจากสัญญาเหลืออีก 2 ปี เขาถูก ยูเวนตุส ปล่อยตัวออกจากทีม

ทว่าเรื่องราวมันไม่จบแค่นั้น เส้นทางของ โอไบรอัน ได้ย้ายไปเล่นในเมเจอร์ลีก โดยเซ็นสัญญากับ ดัลลาส เบิร์น ที่รู้จักกันตอนนีในชื่อ เอฟซี ดัลลาส ในปี 2002 และเขาทำผลงานได้ดีทีเดียว ด้วยการลงมาทำประตูชัยพาทีมเอาชนะ ซาน โฮเซ 2-1 คว้าแชมป์บอลถ้วยในเกมเดบิวต์ของเขา

ทว่าในปี 2003 ฤดูกาลเขาจบลงเพราะขาหัก ถึงอย่างนั้น โอไบรอัน ไม่ยอมแพ้กลับมาเฉิดฉายในฤดูกาลต่อมา ทำ 2 ประตู 10 แอสซิสต์จากการลงสนาม 29 นัด ช่วย ดัลลาส เข้าถึงรอบเพลย์ออฟ และได้มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยมของลีกในปี 2004 รวมถึงมีชื่อในทีมออลสตาร์อีกด้วย

ทว่า กราฟชีวิตของเขาดิ่งลงอีกครั้ง หลังจากมีปัญหากับ คอลิน คลาร์ค กุนซือของทีม และการย้ายไป โตรอนโต้ เอฟซี ที่ไม่สวยนักจากอาการบาดเจ็บหัวเข่า

ในฤดูกาล 2008 เขาเซ็นสัญญากับทีมซาน​ โฮเซ เอิร์ธเควกส์ ทว่าหลังจากลงเล่นไปได้เพียง 28 นัด โอไบรอัน สร้างความประหลาดใจด้วยการแขวนสตั๊ดด้วยวัยเพียง 29 ปีเท่านั้น

นับตั้งแต่แขวนสตั๊ดไป โอไบรอัน ย้ายกลับไปอยู่ ดัลลาส, เล่นกอล์ฟ และเป็นโค้ชให้กับทีมเก่าของเขาบ้างเป็นบางโอกาส

การงานและชีวิตที่ประสบความสำเร็จ - มีมที่ดังทะลุอินเตอร์เน็ต, และหนึ่งในการเซ็นสัญญาที่แปลกประหลาดที่สุดตลอดกาล