ไมเคิล บีล อดีตโค้ชอคาเดมีของเชลซี ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ช่วยผู้จัดการทีมของสตีเวน เจอร์ราร์ด ที่เรนเจอร์ส เล่าให้ฟังถึงช่วงเวลาที่เขาทำงานที่ค็อบแฮมว่าเขารู้สึกเสียดายที่ มีนักเตะหลายคนที่เคยฝึกซ้อมกับเขา แต่ไม่ได้ขึ้นไปเล่นในทีมชุดใหญ่
"ผมดีใจที่ตอนนี้มีนักเตะดาวรุ่งหลายคนที่ได้รับโอกาสที่เชลซี" บีลกล่าวกับ Goal
"ก่อนที่ผมจะมาเป็นโค้ชในอคาเดมี ผมได้เห็นนักเตะที่ยอดเยี่ยมอย่าง เจฟฟรีย์ บรูมา, กาแอล กากูต้า และพาทริค ฟาน อันโฮลท์ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เชลซีมีนักเตะฝีเท้าดีๆ มากมาย มีหลายคนที่ดีพอจะได้ลงเล่นในตอนนี้ เป็นเรื่องจริงที่มีนักเตะฝีเท้าดีๆ มากมายที่น่าจะได้รับโอกาส”
ในบรรดานักเตะที่กล่าวมา ไม่มีใครที่น่าสนใจเท่ากากูต้า คนที่เชลซียอมเสี่ยงโดนแบนในตลาดนักเตะ เพื่อจะได้ตัวเขามาร่วมทีม
Gettyด้วยวัย 30 ปี กากูต้าถือเป็นจอมพเนจรคนหนึ่ง เขาเคยร่วมงานกับคลาเรนซ์ เซดอร์ฟ, มานูเอล เปเยกรินี และปีเตอร์ บอสซ์ หลังออกจากเชลซี เขาเคยได้ลงเล่นทั้งในพรีเมียร์ลีก, ลีกเอิง, เอเรดิวิซี, เซเรีย อา และลาลีกา ยังไม่ต้องพูดถึงชีวิตค้าแข้งในไชนีส ซูเปอร์ลีก ภายใต้การคุมทีมของโอเวน คอยล์
ความคาดหวังที่สูงลิ่วของแฟนบอลต่อกากูต้า เกิดขึ้นหลังจากการย้ายมาอยู่เชลซี ด้วยวัยเพียง 15 ปี ในปี 2007 สองปีต่อมา เขาถูกฟีฟ่าสั่งแบน 4 เดือน พร้อมปรับอีก 780,000 ยูโร เพราะละเมิดสัญญากับลองส์ ส่วนเชลซีก็เสี่ยงที่จะโดนแบนในตลาดนักเตะถึง 2 รอบ
โทษทั้งหมดถูกศาลกีฬาโลกยกเลิกในเวลาต่อมา อย่างไรก็ดี กากูต้ากลายเป็นนักเตะที่ใครๆ ก็จับตามองว่าเขามีดีแค่ไหน? เชลซีถึงได้ยอมเสี่ยงขนาดนี้เพื่อคว้าตัวมาร่วมทีม
ทุกอย่างเริ่มต้นได้สวย กากูต้ามีความเร็ว ความกระตือรือร้น และลูกเล่นหวือหวาที่สร้างความประทับใจในทีมเยาวชนเชลซี เขาเริ่มฝึกซ้อมกับทีมชุดใหญ่ในฤดูกาล 2008-09 ทว่าในเดือนกุมภาพันธ์ 2009 ในเกมของทีมสำรองที่เจอ เกล็น ฮ็อดเดิล อคาเดมี เขาได้รับบาดเจ็บที่ข้อเท้า และต้องพักยาวถึง 6 เดือน
อาการบาดเจ็บที่รุนแรงมักเป็นปัญหาที่พวกดาวรุ่งยากจะผ่านไปได้ง่ายๆ ไม่เพียงในเรื่องร่างกายเท่านั้น ยังมีเรื่องของสภาพจิตใจและโมเมนตัม กากูต้ากลายเป็นนักเตะที่เลือนหายไปจากความคิดของผู้คนจากอาการบาดเจ็บครั้งนั้น
เขามีโอกาสได้ลงเล่นในทีมชุดใหญ่อยู่บ้างในฤดูกาล 2009-10 ได้ประเดิมสนามบนเวทีพรีเมียร์ลีกและแชมเปี้ยนส์ลีก แต่เป็นในฐานะผู้เล่นที่เข้ามาทดแทนยามฉุกเฉิน มากกว่าจะเป็นดาวรุ่งดวงใหม่อย่างที่เคยเป็นมาตลอด
ในที่สุด เขาก็ถูกกลืนไปกับระบบยืมตัวของสิงบลูส์ ที่เคยทำให้นักเตะมากพรสวรรค์หลายคนต้องเจอปัญหาในลักษณะเดียวกัน
ในเดือนธันวาคม 2010 กากูต้าเซ็นสัญญาใหม่กับเชลซีจนถึงปี 2015 เขาถูกยืมตัวไปอยู่กับสโมสรอื่นเป็นว่าเล่น
ฟูแลมและโบลตัน มอบโอกาสในพรีเมียร์ลีกให้เขาไม่มากนัก ขณะที่การไปอยู่กับดิฌง, วิเทสส์, ลาซิโอ และราโย บาเยกาโน ก็มีผลงานที่ดีและร้ายปะปนกันไป
Gettyผลงานที่สม่ำเสมอที่สุดของเขา เกิดขึ้นตอนถูกยืมตัวไปอยู่กับ บาเยกาโน เขาเป็นตัวจริงอย่างสม่ำเสมอ และช่วยพาทีมคว้าอันดับที่ 11 ในลาลีกา ฤดูกาล 2014-15
ผลงานดังกล่าว ทำให้เขาได้เซ็นสัญญากับเซบีญาเมื่อออกจากเชลซี ด้วยวัย 23 ปี เขายังมีโอกาสที่จะสร้างชื่อและกลายเป็นดาวเด่นกับสโมสรใหญ่ในยุโรป
แต่มันก็ไม่เกิดขึ้น เขามีผลงานที่ไม่ค่อยสม่ำเสมอนักกับเซบีญา ทำให้กากูต้าไม่ค่อยได้ลงสนามเท่าไหร่ เขาได้เล่นในเกมลีกเพียง 2 นัด ก่อนจะย้ายไปเล่นในประเทศจีนกับเหอเป่ย ไชนา ฟอร์จูน
หลังจากค้าแข้งในไชนีส ซูเปอร์ลีก นาน 1 ฤดูกาล เขากลายเป็นนักเตะพเนจรอีกครั้ง ด้วยการไปค้าแข้งกับทีมระดับกลางๆ ในลีกยุโรป อาทิ เดปอร์ติโบ ลา คอรุนญา, อาเมียงส์, ราโย บาเยกาโน และกลับมาอาเมียงส์อีกครั้งก่อนที่จะมาอยู่กับลองส์จนถึงปัจจุบัน
ด้วยประสบการณ์ที่มากขึ้น ประกอบกับการได้มาอยู่ในลีกเอิงที่คุ้นเคย เขามีฟอร์มการเล่นที่เตะตา อาทิ ประตูสุดสวยในเกมที่อาเมียงส์เสมอเปแอสเช 4-4 รวมถึงฟอร์ม 11 ประตู จาก 35 นัดกับลองส์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว
และนั่นเป็นการย้ำเตือนให้เราไม่ลืมว่า เขามีโอกาสจะเฉิดฉายได้มากเพียงใด หากมีชีวิตค้าแข้งที่แตกต่างไปจากที่เป็นมา




