มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ให้สัมภาษณ์หลังเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 51 ที่จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 หลัง “ช้างศึก” พ่ายทีมชาติอิรักไป 0-1 จากประตูของ โมฮานัด อาลี ในนาทีที่ 75 พลาดโอกาสคว้าแชมป์คิงส์คัพ
อิชิอิ กล่าวถึงภาพรวมการแข่งขันว่า ทีมชาติไทยยังมีข้อผิดพลาด โดยเฉพาะครึ่งแรกที่เล่นเกมรับมากเกินไป ก่อนจะแก้ไขและทำได้ดีขึ้นในครึ่งหลัง แม้ผลการแข่งขันไม่เป็นไปตามคาด แต่ก็ชื่นชมความทุ่มเทของนักเตะทุกคนที่พยายามต่อสู้จนจบเกม พร้อมขอบคุณแฟนบอลที่เดินทางมาเชียร์ทั้งสองนัด
“เราไม่สามารถคว้าแชมป์คิงส์คัพในครั้งนี้ได้ ก่อนอื่นต้องขอบคุณแฟนบอลที่มาให้กำลังใจ ครึ่งแรกเรารับเยอะไป แต่ครึ่งหลังแก้เกมและเล่นได้ดีขึ้น นักเตะทุกคนทำงานหนักเต็มที่ แม้จะไม่ได้ผลลัพธ์ที่เราคาดหวัง” อิชิอิ กล่าว
กุนซือชาวญี่ปุ่นยังชี้ว่า หากทีมชาติไทยมีเวลาเก็บตัวต่อเนื่องมากกว่าที่ผ่านมา (เพียง 1 สัปดาห์ก่อนทัวร์นาเมนต์) เชื่อว่าจะสามารถพัฒนาศักยภาพและสร้างโอกาสที่ดีในการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ต่อไปในอนาคต
ขณะเดียวกัน อิชิอิไม่พอใจกับจังหวะใบแดงที่ 2 ของทีมชาติอิรัก ที่ โมฮานัด อาลี ผู้ทำประตูชัยเล่นงาน ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์ของไทยจนบาดเจ็บ โดยย้ำว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควรเกิดขึ้นในระดับฟุตบอลนานาชาติ
“ผมก็ไม่อยากเชื่อเหมือนกันว่าฟุตบอลระดับนี้จะมีเหตุการณ์แบบนี้ มันเลวร้ายและไร้คลาสมาก รุนแรงเกินไป นักฟุตบอลอาชีพไม่สมควรทำแบบนี้” อิชิอิ กล่าวอย่างเคร่งเครียด
สำหรับปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไข อิชิอิยอมรับว่าทีมชาติไทยยังมีข้อจำกัดในเรื่องการดึงศักยภาพนักเตะไทย โดยเฉพาะตำแหน่งกองหน้าตัวเป้าและเซ็นเตอร์แบ็ก ที่โอกาสลงสนามในไทยลีกถูกจำกัดจากโควตาต่างชาติ ทำให้ขาดประสบการณ์ระดับสูง
โปรแกรมต่อไป ทีมชาติไทยจะลงแข่งขันฟุตบอลเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก นัดที่ 3 และ 4 พบกับ ไชนีส ไทเป แบบไป-กลับ ในวันที่ 9 และ 14 ตุลาคม 2568


