สุมัญญา ปุริสาย

ส่องโปรไฟล์แข้ง บีจี ปทุมฯ ลุ้นติดโผ ซูซูกิ คัพ : สุมัญญา ปุริสาย

สุมัญญา ปุริสาย หรือ “ตั๊ก” เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับ โอสถสภา หนึ่งในสโมสรระดับตำนานของไทยกับช่วงเวลาที่ได้บ่มเพาะฝีเท้ากับทีมเยาวชน และถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ในปี 2009 ก่อนพบจุดเปลี่ยนสำคัญ เมื่อ บุรีรัมย์ เอฟซี ดึงไปร่วมทัพในศึกยามาฮ่า ดิวิชั่น 1

ในเวลานั้นเขาคือดาวรุ่งพุ่งแรงกับบทบาทกองกลางฝีเท้าจัดที่กลายมาเป็นกำลังหลักของทีม กระทั่งมีส่วนสำคัญช่วยต้นสังกัดเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุด จนถึงยุค บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตามในช่วงหลัง เขามักถูกส่งเป็นสำรอง ส่งผลให้เริ่มมองหาความท้าทายใหม่เพื่อโอกาสลงเล่น ก่อนเป็น ชัยนาท ฮอร์นบิล ที่ได้ตัวไปร่วมทัพ และเป็นกำลังสำคัญให้ทีมเรื่อยมา

จากฟอร์มการเล่นกับ “นกใหญ่พิฆาต” ชื่อของ สุมัญญา เริ่มเนื้อหอมหลายทีมรุมจีบ ก่อนที่ แบงค็อก ยูไนเต็ด จะได้ตัวเขาไปเสริมแกร่งในแผงกองกลาง และถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญอีกครั้งที่ทำให้เขายกระดับตัวเองกลายเป็นมิดฟิลด์แถวหน้าของเมืองไทย แม้จะถูกปล่อยให้ สุพรรณบุรี เอฟซี ยืมใช้งานช่วงสั้นๆ ในปี 2016 แต่ก็กลับมายึดตำแหน่งตัวจริงของ แข้งเทพ ในซีซั่นถัดมา

ผ่านบอลแม่นยำทั้งลูกสั้น โยนยาว คุมจังหวะยอดเยี่ยมที่สำคัญมีทีเด็ดลูกฟรีคิก ทำให้เขาเป็นกองกลางที่ครบเครื่องคนหนึ่ง ยิ่งกว่านั้นยังประสานงานกับเพื่อนร่วมทีมได้อย่างลงตัว ซึ่งยังทำให้เขายังคงมีขื่อติดทีมชาติเรื่อยมา

ปี 2019 กลายเป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญของ สุมัญญา บนถนนลูกหนัง เมื่อเขาถูกพูดถึงเรื่องอายุบ่อยครั้งกับวัยที่เกินหลักสาม ที่มักมีคำพูดว่า ฝีเท้าของเขาเริ่มถดถอยพร้อมๆกับวัยที่มากขึ้น แต่เขายังคงยืนยันใช้ผลงานในสนามเป็นคำตอบว่า อายุเป็นเพียงตัวเลข เมื่อยังคงเล่นได้ยอดเยี่ยม และสามารถพา การท่าเรือ เอฟซี คว้าแชมป์ช้าง เอฟเอคัพ เป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี ของสโมสร พร้อมสิทธิ์ โควตา ไปลุยเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก 2020 รอบเพลย์ออฟ รอบ 2 บนวัย 32 ปี กับผลงานในทัพช้างศึกที่ติดทีมไปแล้วกว่า 20 เกม ในเวลานั้น

ไม่เพียงเท่านั้น สุมัญญา ยังคงมุ่งมั่นทำหน้าที่ในสนามต่อไป โดยเขาย้ายมาร่วมทีม บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2020 ก่อนลงสนามให้ทีมไปถึง 29 นัด ยิง 4 ประตู และทำ 6 แอสซิสต์ พา เดอะ แรบบิท คว้าแชมป์โตโยต้า ไทยลีก มาครองเป็นครั้งแรก และยังคว้ารางวัล MVP ประจำปีมาครอง ส่งผลให้เขากลายเป็นผู้เล่นคนแรกในประวัติศาสตร์ ที่คว้า MVP ได้ถึง 2 ครั้ง หลังจากเคยได้มาแล้วครั้งหนึ่งสมัยอยู่ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด เมื่อปี 2018

“คนอาจมองว่าเราอายุเยอะแล้ว 30 กว่าแล้ว อาจวิ่งไม่ได้ เราคงไปแย้งอะไรเขาไม่ได้ครับ นอกจากตอบด้วยผลงานในสนามมากกว่า ที่จะทำให้เขาเห็นว่าอย่าพึ่งเปลี่ยนความคิดว่า คนอายุ 30 จะไม่มีแรงวิ่ง คนเราอาจดูแลร่างกายไม่เหมือนกัน แต่ผมก็อยากทำให้คนเห็นว่า เรายังเล่นได้ และ อยากชนะใจตัวเองเพื่อทำให้ทุกคนเห็นว่า ผมแก่จริง แต่อย่างน้อย สามารถมีประโยชน์ต่อทีม ไม่ว่าจุดใด จุดหนึ่งครับ”

“ผมเคยเปรียบตัวเองว่า เป็นรถไฟขบวนสุดท้าย มันเป็นคำที่รู้สึกว่า เปรียบแล้วมีพลัง เราคิดกับตัวเองตลอดว่า ขบวนสุดท้ายคือ เดี๋ยวมันจะหมดแล้วนะ ถ้าไม่สำเร็จ เราก็จะไม่ได้อะไรเลยนะกับสิ่งที่ทำมาตั้งแต่เด็ก ก็คงเป็นสิ่งที่เตือนเราได้ตลอดว่า เราต้องทำมันให้ได้ ในทุกๆ ครั้งที่มีโอกาสลงไปทำ” สุมัญญา ให้สัมภาษณ์กับ GOAL Thailand เมื่อครั้งคว้าแชมป์ไทยลีกกับ บีจี ปทุมฯ

แม้ฤดูกาลนี้เขาจะได้รับโอกาสลงสนามน้อยนิด เมื่อมีโอกาสเป็นตัวจริงในลีกเพียง 2 นัด จาก 14 เกมที่ผ่านมา แต่เขายังคงพร้อมเสมอกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายในสนาม ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะใดก็ตาม

และการมีชื่อในเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญในบั้นปลายอาชีพค้าแข้งที่เขาจะได้พิสูจน์ฝีเท้าอีกครั้ง กับทัวร์นาเมนต์ที่มีความหมายของนักฟุตบอลที่ชื่อ สุมัญญา ปุริสาย...

สุมัญญา ปุริสาย
โฆษณา