ชื่อของ จักพัน ไพรสุวรรณ ปราการหลังสารพัดประโยชน์ของบีจี ปทุม ยูไนเต็ด เป็นที่รู้จักของแฟนบอลไทยลีกมานาน แต่กว่าจะก้าวขึ้นมาเป็นส่วนหนึ่งของทีมแชมป์ไทยลีก 2020 เขาฟันฝ่าทุกอุปสรรคลูกหนังมาตั้งแต่ยังไม่มีใครรู้จัก
จักพัน เริ่มต้นเส้นทางลูกหนังกับโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สถาบันลูกหนังขาสั้นแถวหน้าของเมืองไทยตั้งแต่เป็นเยาวชน ก่อนจะเข้าสู่สารบบทีมชาติไทยในชุดเยาวชน ติดทีมนักเรียนไทย รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี และ 18 ปี รุ่นราวคราวเดียวกับ ชนาธิป สรงกระสินธ์ ในช่วงเวลานั้น
ในเวทีระดับทีมชาติ จักพัน เดินทางมาไกลสุดแค่ทีมรุ่นอายุไม่เกิน 21 ปี เท่านั้น ก่อนจะตัดสินใจลงเล่นฟุตบอลอาชีพครั้งแรกในปี 2015 กับจามจุรี ยูไนเต็ด สโมสรในศึกดิวิชั่น 2 (ไทยลีก 3 ในปัจจุบัน)
การเลือกเล่นให้กับจามจุรี ยูไนเต็ด ในลีกระดับล่าง ทำให้ จักพัน ไพรสุวรรณ พัฒนาฝีเท้าของตัวเองขึ้นอีกระดับ ที่สำคัญยังผลักดันตัวเองให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้ทั้งการเรียนในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ควบคู่ไปกับการเล่นฟุตบอลอาชีพกับสโมสรแห่งนี้
ด้วยฝีเท้าอันโดดเด่นในเกมรับ ทำให้ จักพัน ไพรสุวรรณ ได้รับความสนใจจากหลายทีมดังของเมืองไทย จนกระทั่งจุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อ เมืองทอง ยูไนเต็ด ทีมยักษ์ใหญ่บนลีกสูงสุด ตัดสินใจเซ็นสัญญาคว้าตัวจักพันมาร่วมทีม ก่อนที่จะถูกปล่อยยืมตัวไปอยู่กับ พัทยา ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2017 หลังจรดปากกาเซ็นสัญญาได้เพียง 2 วัน
จักพันเข้าใจในวิถีฟุตบอลเป็นอย่างดี เนื่องจากกิเลนผยองในตอนนั้นอุดมไปด้วยแข้งดีกรีทีมชาติไทยค่อนทีม แต่หารู้ไม่ว่าการถูกปล่อยตัวในวันนั้น จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตลูกหนังของเจ้าตัวมาจนถึงทุกวันนี้

ในช่วงแรกที่ก้าวขึ้นมาจากทีมดิวิชั่น 2 สู่ลีกสูงสุด เขาเผชิญกับบททดสอบสำคัญที่เป็นอุปสรรคทั้งการฝึกซ้อมที่เข้มข้น รวมถึงการไม่ได้รับโอกาสลงสนามเลย ซึ่งชีวิตประจำวันของเขาในตอนนั้น คือการซ้อมไปวัน ๆ เท่านั้น
จนกระทั่ง "โค้ชอั๋น" สุรพงษ์ คงเทพ กุนซือโลมาพัทยาในตอนนั้น ปรับวิธีการเล่นของทีม ซึ่งส่งผลให้ จักพัน เริ่มมีโอกาสลงสนามมากขึ้นในตำแหน่งปราการหลังและแบ็กขวา จากนั้นเป็นต้นมาในช่วงหลังของฤดูกาล 2017 จักพันยึดตำแหน่งตัวจริงในทีมอย่างต่อเนื่อง เรียกได้ว่าสถานการณ์พลิกผันอย่างรวดเร็ว จากที่เคยเกือบถอดใจย้ายออกจากทีมไปแล้ว
จักพันกลายเป็นนักเตะคนสำคัญของพัทยา ยูไนเต็ด ในปี 2018 เรื่อยมาจนกระทั่งเปลี่ยนชื่อทีมเป็นสมุทรปราการ ซิตี้ เจ้าตัวพัฒนาฝีเท้าของตัวเองอย่างต่อเนื่อง ลงเล่นได้หลากลายตำแหน่ง และสามารถยืดหยุ่นวิธีการเล่นได้ทั้งปราการหลังตัวกลาง, วิงแบ็ก หรือแม้กระทั่งมิดฟิลด์ตัวรับ รวมไปถึงการมีทีเด็ดจากลูกตั้งเตะที่มักจะสร้างประโยชน์ให้กับทีมอย่างต่อเนื่อง
จนในที่สุดประตูสู่ทีมชาติไทยก็เปิดต้อนรับเจ้าตัวอีกครั้ง เมื่อ "โค้ชโต่ย" ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย กุนซือช้างศึกในขณะนั้น เรียกตัวติด 1 ใน 35 นักเตะ ชุดเตรียมทำศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์คัพ ครั้งที่ 47 เมื่อปี 2019 ที่จังหวัดบุรีรัมย์ แม้ว่าจะไม่ผ่านการตัดตัวในครั้งนั้น แต่นี่คือก้าวสำคัญในชีวิตนักฟุตบอลของเขา
กระทั่งในฤดูกาล 2020 การเข้ามาของ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น อดีตเฮดโค้ชของคาชิมา อันท์เลอร์ส ที่มารับงานคุมทีมสมุทรปราการ ซิตี้ แบบสุดเซอร์ไพรส์ ทำให้ จักพัน ไพรสุวรรณ และนักเตะไทยรายอื่น ๆ ทั้ง พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์, พิชา อุทรา และ ปฏิวัติ คำไหม พัฒนาฝีเท้าไปพร้อม ๆ กัน จนช่วยให้ทีมจบอันดับที่ 6 ของตารางไทยลีกซีซั่นดังกล่าว ซึ่งเป็นอันดับสูงที่สุดในประวัติศาสตร์สโมสร
หลังจากนั้น จักพัน ได้รับโอกาสสำคัญในการเรียกตัวติดทีมชาติไทยอีกครั้งในยุคของ อากิระ นิชิโนะ กุนซือชาวญี่ปุ่น ในโปรแกรมอุ่นเครื่องกับ นครปฐม ยูไนเต็ด และ ไทยลีก ออล สตาร์ เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา
น่าเสียดายที่โปรแกรมอุ่นเครื่องทีมชาติในช่วงเวลานั้น เผชิญปัญหาจัดการแข่งขัน เนื่องจากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้เจ้าตัวต้องพลาดการลงสนามในสีเสื้อทีมชาติไทยลงบู๊กับชาติอื่น

กระทั่งช่วงต้นฤดูกาล 2021 ดาวเตะวัย 27 ปี ที่กำลังอยู่ในฟอร์มอันยอดเยี่ยม ตัดสินใจย้ายจากสมุทรปราการ ซิตี้ ไปอยู่กับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ทีมแชมป์ไทยลีก 2020 และได้ลงเล่นในศึกเอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 2021 ครั้งแรกในชีวิต ในเกมรอบ 16 ทีมสุดท้าย นัดที่ เดอะ แรบบิท บุกไปพ่าย ชุนบุค ฮุนได มอเตอร์ส 2-4 ในช่วงดวลลูกโทษตัดสิน ซึ่งในเกมนั้น จักพัน ไพรสุวรรณ ลงประจำการเกมรับให้ทีมอย่างแข็งแกร่งตลอด 120 นาที
แม้ว่าจะย้ายมาอยู่ในทีมที่ใหญ่ขึ้น แต่ศักยภาพของจักพันดีพอที่จะช่วยทีมไปสู่เป้าหมายที่วางเอาไว้ในซีซั่นนี้ คือการป้องกันแชมป์ไทยลีกให้ได้ ซึ่งในช่วงที่เดอะ แรบบิท ประสบปัญหาผู้เล่นเกมรับตัวต่างชาติอย่าง วิคเตอร์ คาร์โดโซ และ อันเดรส ตูเญซ ได้รับบาดเจ็บ ทีมก็ได้ จักพัน คอยบัญชาการเกมรับ และทดแทนการขาดหายไปของสองแข้งคนดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
จักพัน ไพรสุวรรณ ได้รับโอกาสลงสนามในเกมลีกฤดูกาลนี้ไปแล้ว 9 นัด ยิงได้ 1 ประตู พร้อมทั้งรักษามาตรฐานฟอร์มการเล่นของตัวเองได้อย่างดีเยี่ยม จนมีลุ้นติดทีมชาติไทย ยุค มาโน โพลกิ้ง ไปลุยศึกเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2020 ที่ประเทศสิงคโปร์ ในช่วงปลายปีนี้
.jpg?auto=webp&format=pjpg&width=3840&quality=60)

