LIVE UPDATE พรีเมียร์ลีก : สเปอร์ส - ลิเวอร์พูล
พรีเมียร์ลีก 2021-2022 ประจำโปรแกรมสัปดาห์ที่ 18 เป็นการพบกันระหว่าง ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ เปิดรังเหย้า ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม ต้อนรับการมาเยือนของ ลิเวอร์พูล
อันโตนิโอ คอนเต้ กุนซือเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 5-3-2 ใช้คู่กองหน้าเป็น แฮร์รี เคน ประสานงานร่วมกับ ซน ฮึง-มิน
ด้านทีมเยือนของ เยอร์เก้น คล็อปป์ วางหมากมาในแผน 4-3-3 ใช้สามแนวรุกเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า และ ซาดิโอ มาเน
เริ่มเกมได้ 13 นาที เป็นฝั่งของสเปอร์สมาจัดการพังประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล จ่ายทะลุช่องเข้าเขตโทษให้ แฮร์รี เคย หลุดไปยิงด้วยขวาอย่างเด็ดขาด ส่งให้ไก่เดือยทองออกนำ 1-0
แต่แล้วนาทีที่ 35 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีเสมอ จากจังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เปิดบอลทางกราบซ้ายเข้ากลางให้ ดิโอโก้ โชต้า เทกตัวโหม่งตุงตาข่าย ทำให้สกอร์ขยับมาเท่ากันที่ 1-1 และจบครึ่งแรกด้วยผลนี้
ครึ่งหลังกลายเป็นลิเวอร์พูลมาได้ประตูพลิกขึ้นนำ ในนาทีที่ 69 จากจังหวะที่ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์ อาร์โนลด์ กึ่งยิงกึ่งผ่านทางกราบขวายัดเข้ากลางให้ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ก้มหัวโหม่งจ่อ ๆ ไม่เหลือ ช่วยให้หงส์แดงแซงนำ 2-1
ทว่านาทีที่ 74 สเปอร์สก็มาตีเสมอคืนได้บ้างเช่นกัน จากจังหวะที่ เบน เดวีส์ จ่ายทะลุแนวรับทีมเยือนแล้วทาง อลิสซอน เบ็คเกอร์ ออกมาสกัดบอลพลาดจนกลายเป็นการปล่อยส้มหล่นใส่ให้ ซน ฮึง-มิน ได้แปด้วยซ้ายโล่ง ๆ อย่างง่ายดาย ทำให้สกอร์กลับมาเท่ากันอีกครั้งที่ 2-2
ถัดมานาทีที่ 77 ลิเวอร์พูลต้องมาเหลือ 10 คน เมื่อผู้ตัดสินไปดูจอ VAR ข้างสนาม จังหวะที่ แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ไปหวดใส่ขาของ เอแมร์ซอน จนล้มทั้งยืน ก่อนจะเปลี่ยนจากการให้ใบเหลืองในทีแรก แล้วมาเป็นแจกใบแดงโดยตรงไล่ออกไปเลย
จากนั้นไม่มีประตูเกิดขึ้นเพิ่มเติมอีก ทำให้สุดท้ายจบเกมด้วยผลเสมอแบบสุดมัน 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม โดยท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์รั้งอันดับ 7 มีเพิ่มเป็น 26 แต้ม ส่วนลิเวอร์พูลอยู่อันดับ 2 มีเพิ่มเป็น 41 แต้ม
รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม
ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ (5-3-2) : อูโก้ โยริส; เอแมร์ซอน, ดาวินซอน ซานเชซ, เอริค ไดเออร์, เบน เดวีส์, ไรอัน แซสเซอญง (เซร์คิโอ เรกีลอน น.86); ต็องกีย์ เอ็นดอมเบเล (โอลิเวอร์ สคิปป์ น.64), แฮร์รี วิงส์, เดเล อัลลี (ลูคัส มูรา น.81); แฮร์รี เคน, ซน ฮึง-มิน
สำรอง : แม็ตต์ โดเฮอร์ตี้, โจ โรดอน, โจวานี โล เซลโซ, สตีเฟน เบิร์กไวน์, จาเฟ็ต ทังกานก้า, แบรนดอน ออสติน
ใบเหลือง - แฮร์รี เคน น.20, เอแมร์ซอน น.28, แฮร์รี วิงส์ น.47, เบน เดวีส์ น.58
ลิเวอร์พูล (4-3-3) : อลิสซอน เบ็คเกอร์; เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, โฌแอล มาติป, อิบราฮิมา โกนาเต้, แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน; ไทเลอร์ มอร์ตัน (โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน น.60), นาบี เกอิต้า, เจมส์ มิลเนอร์; โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดิโอโก้ โชต้า (โจ โกเมซ น.90+2), ซาดิโอ มาเน (คอสตาส ซิมิคาส น.82)
สำรองไม่ได้ใช้ : อเล็กซ์ อ็อกซ์เลด-แชมเบอร์เลน, ทาคุมิ มินามิโนะ, เคด กอร์ดอน, ควีวีน เคลเลเฮอร์, เนโก้ วิลเลียมส์, จาเรลล์ ควอนซาห์
ใบเหลือง - ไทเลอร์ มอร์ตัน น.23, นาบี เกอิต้า น.84, อิบราฮิมา โกนาเต้ น.85, คอสตาส ซิมิคาส น.90+5
ใบแดง - แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน น.77
โปรแกรมถ่ายทอดสด
| TV station | True Premier Football HD1 True Premier Football HD2 |
เช็คโปรแกรมถ่ายทอดสดทุกคู่ได้ที่นี่
วันและเวลาแข่งขัน
| เกม | สเปอร์ส - ลิเวอร์พูล |
| วันที่ | วันอาทิตย์ที่ 19 ธันวาคม 2564 |
| เวลา | 23.30 น. |
| สนาม | ท็อคแนม ฮ็อตสเปอร์ สเตเดี้ยม |
สภาพความพร้อมก่อนเกมของทั้งสองทีม
สเปอร์ส จะยังไม่มี คริสเตียน โรเมโร ที่ยังมีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ เดน สการ์เล็ตต์, โอลิเวอร์ สคิปป์ และ ซน ฮึง-มิน ยังต้องกักตัวจากการติดเชื้อโควิด-19 แนวรับคาดว่าจะใช้ เอริค ไดเออร์, เบน เดวีส์ และ ดาวินซอน ซานเชซ เป็นสามกองหลัง แดนกลางนำทัพโดย ปิแอร์-เอมิล ฮอยเบียร์ ประสานงานกับ แฮร์รี วิงส์ แนวรุกใช้ โจวานนี โล เซลโซ คอยปั้นเกมให้คู่หัวหอก สตีเวน เบิร์กไวน์ และ แฮร์รี เคน จบสกอร์
ลิเวอร์พูล เกมนี้จะยังไม่มี ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, อาเดรียน และ เนธาเนียล ฟิลลิปส์ ที่มีอาการบาดเจ็บ ขณะที่ เฟอร์จิล ฟาน ไดค์, ฟาบินโญ และ เคอร์ติส โจนส์ ติดเชื้อโควิด-19 ต้องเข้ารับการกักตัว แนวรับต้องใช้ อิบราฮิมา โกนาเต้ จับคู่กับ โฌแอล มาติป แดนกลางนำทัพโดย จอร์แดน เฮนเดอร์สัน ประสานงานกับ นาบี เกอิต้า และ ติอาโก้ อัลคันทารา แนวรุกเป็นสามประสาน ซาดิโอ มาเน, ดิโอโก้ โชต้า และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์
11 ผู้เล่นที่คาดว่าจะลงสนาม
สเปอร์ส
โยริส (GK)
ซานเชซ, ไดเออร์, เดวีส์
ทังกานก้า, ฮอยเบียร์, วิงส์, เรกีลอน
โล เซลโซ
เคน, เบิร์กไวน์
ลิเวอร์พูล
อลิสซอน (GK)
อาร์โนลด์, มาติป, โกนาเต้, โรเบิร์ตสัน
เกอิต้า, เฮนเดอร์สัน, ติอาโก้
ซาลาห์, โชต้า, มาเน
ผลงานเกมที่ผ่านมา
สเปอร์ส เปิดบ้านเอาชนะ นอริช ซิตี้ 3-0 ในเกมลีกนัดที่ผ่านมา ขณะที่ ลิเวอร์พูล เปิดบ้านเอาชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 3-1 ในเกมลีกเช่นกัน




