ระยอง เอฟซี เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดได้เป็นหนแรกในประวัติศาสตร์นับตั้งแต่ก่อตั้งสโมสร ภายใต้การนำของ โค้ชชู ชูศักดิ์ ศรีภูมิ กุนซือผู้พา ม้านิลมังกร ผ่านร้อนผ่านหนาวมาแล้วทุกเวทีตั้งแต่ดิวิชั่น 2 - 1 และล่าสุดกำลังจะโลดแล่นในลีกสูงสุดกับฤดูกาล 2020 ที่เตรียมเปิดฉากขึ้น…
ในฐานะน้องใหม่ ระยอง เอฟซี จำเป็นต้องเดินหน้าเสริมทัพผู้เล่นมีประสบการณ์เข้ามาร่วมทีมเพื่อต่อกรกับบรรดาคู่แข่งในศึกโตโยต้า ไทยลีก โดย สจ.อดุลย์ นิยมสมาน รองประธานสโมสร จัดให้ตามคำขอของ โค้ชชู ในการดึงผู้เล่นตรงตามสเปคที่ต้องการเข้ามา แม้จะมีงบประมาณที่ไม่มาก แต่ยังได้ผู้เล่นประสบการณ์ฝีเท้าดีเข้ามาสู่ทีมจนถึงตอนนี้ที่เปิดตัวไปแล้ว 9 ราย ซึ่งจากรายชื่อก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อย หากได้ร่วมผนึกขุมกำลังเก่าที่มีอยู่
แน่นอนว่า ฤดูกาล 2020 จะเป็นปีที่ท้าทาย และยากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาของ ระยอง เอฟซี โดยเฉพาะเป้าหมายจบ Top 10 ทำให้มีงานหนักมากขึ้น ...ท้ายที่สุดแล้ว ม้านิลมังกร จะวิ่งถึงจุดมุ่งหมายที่ตั้งไว้หรือไม่ ส่องขุมกำลังของพวกเขาได้ที่นี่
ผู้รักษาประตู
เริ่มที่ตำแหน่งผู้รักษาประตูได้ ทศพร ศรีเรือง นายด่านมากประสบการณ์จาก ตราด เอฟซี มาเฝ้าเสาเป็นมือหนึ่ง พร้อมมีตัวเลือกเบอร์รองอย่าง อุดทิลัด นามมะโค้ด จอมหนึบชาวลาว โควตาอาเซียน และ นพคุณ ขัดตุ๋น รอเบียดตำแหน่ง
กองหลัง
ต่อกันที่แนวรับแผงเซนเตอร์ยังคงไว้ใจใช้งาน วัชรินทร์ เนื่องพระแก้ว ปักหลังเป็นหัวใจสำคัญเกมรับคู่กับ ปาร์ค แต ยอง กองหลังจอมแกร่งชาวเกาหลีใต้ โดยมี วัฒน์ จันทร์บุญภา รอสอดแทรก รวมถึง วสุศิวกิจ ภูสีฤทธิ์ แบ็คขวาที่ถอยเข้ามาช่วยยืนเซนเตอร์ได้เช่นกัน
ขณะที่แบ็คขวา วสุศิวกิจ ภูสีฤทธิ์ พร้อมปักหลักตัวจริง โดยมีแบ็คจอมบุกอย่าง อลงกรณ์ ทองจีน จาก ลำปาง เอฟซี เข้ามาช่วยเพิ่มมิติทั้งเกมรับ และรุก รวมถึง พงศกร ตาคำ ดาวเตะสารพัดประโยชน์คอยซัพพอร์ท ส่วนแบ็คซ้ายยอดรัก นาเมืองรักษ์ กองหลังมากประสบการณ์ยังคงเป็นตัวเลือกแรก แต่หากต้องการความสด กีรติ แก้วหนองแดง ดาวรุ่งตัวเก่งก็พร้อมสอดแทรกตำแหน่ง
กองกลาง
มากันที่แผงมิดฟิลด์กันบ้างที่ปีนี้มีการแข่งขันดุเดือดแน่นอนเมื่อได้ เดชา สอาดโฉม กองกลางฮาร์ดแมนเข้ามาเสริมความแกร่งรวมถึง อย่างไรก็ตามอาจจะต้องเบียดแย่งตำแหน่งกับ อนุชิต เงินบุคคล กัปตันทีม ที่จะยังคงเป็นตัวเลือกแรกเช่นเดิม นอกจากนี้ยังมี วรุตน์ สัพโส ที่กลับมาร่วมทัพอีกครั้งเป็นตัวเลือกเพิ่มเติม
ปีกขวา ศิริศักดิ์ ฟูฟุ้ง ที่สามารถเล่นได้ทั้งกองหน้า และริมเส้น จะเป็นตัวเลือกแรก ขณะที่ฝั่งซ้ายได้อาวุธเด็ดอย่าง เลอันโดร เรซิดา เข้ามาเพิ่มความอันตราย โดยมี เทพพิทักษ์ พูลจวง แข้งลูกหม้อของทีมรอโรเตชั่นสลับซ้ายขวา
ในส่วนของเพลย์เมคเกอร์ อลงกรณ์ จรนาทอง กองกลางเชิงสูงจะปักหลักบัญชาเกมรุก แต่ยังมี ศุภเสกข์ ไก่แก้ว มิดฟิลด์ประสบการณ์สูงที่เพิ่งเข้ามาร่วมทีมเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกในการสร้างสรรค์เกมแดนบน
กองหน้า
ปิดท้ายที่ขุมกำลังแดนหน้า แน่นอนว่า ติอาโก ชูลาปา กองหน้าร่างยักษ์ชาวบราซิลดีกรีดาวซัลโวลีกรองเมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ยังคงเป็นมือปืนเบอร์หนึ่งของทีม ยิ่งไปกว่านั้นยังเซอร์ไพรส์ดึง บิรัม ดิยุฟ กองหน้ามากประสบการณ์วัย 35 ปี เข้ามาผนึกกำลังแนวรุกแทนที่ ติอาโก หลุยส์ แข้งบราซิลป้ายแดงที่จะพักรักษาอาการเจ็บในช่วงเลกแรก นอกจากนี้ นันทวัฒน์ สวนแก้ว หัวหอกทีมชาติไทย รุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี ที่เล่นได้ทั้งกองหน้าตัวเป้า และกองหน้าริมเส้นก็พร้อมเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกให้ โค้ชชู ใช้งาน
11 ผู้เล่นตัวจริงที่คาด (4-3-3)
ทศพร ศรีเรือง(GK)
วสุศิวกิจ ภูสีฤทธิ์ , ปาร์ค แต ยอง , วัชรินทร์ เนื่องพระแก้ว , ยอดรักษ์ นาเมืองรักษ์
เดชา สอาดโฉม, อลงกรณ์ จรนาทอง , อนุชิต เงินบุคคล
ศิริศักดิ์ ฟูฟุ้ง , ติอาโก ชูลาปา , เรอันโดร เรซิดา
ย้ายเข้า
อุดทิลัด นามมะโค้ด (ลาว โตโยต้า เอฟซี) * โควตาอาเซียน
อลงกรณ์ ทองจีน (ลำปาง เอฟซี)
เลอันโดร เรซิดา
วรุตน์ สัพโส
เดชา สอาดโฉม (เชียงใหม่ เอฟซี)
ศุภเสกข์ ไก่แก้ว (พีทีที ระยอง)
ติอาโก หลุยส์
ปาร์ค แต ยอง
ทศพร ศรีเรือง (ตราด เอฟซี)
ย้ายออก
ธนชัย หนูราช (นครราชสีมา เอฟซี)
เรียว มัตสึมูระ (เชียงใหม่ เอฟซี)
โชครังสรรค์ แสวงทรัพย์ (ศุลกากร ยูไนเต็ด)
แฮร์ริสัน โอลิเวียรา (ชัยนาท ฮอร์นบิล)
นิรันดร์ ชาวเขา (แพร่ ยูไนเต็ด)
แฮร์ริสัน คาร์โดโซ (ชัยนาท ฮอร์นบิล)


